More

    LEXUS LM 500h พลังเทอร์โบไฮบริดเปิดขายญี่ปุ่นเริ่ม 3.539 ล้านบาท

    หลังจำหน่ายไปแล้วทั่วโลกสำหรับ LEXUS LM 500h อัลตราลักชัวรีเอ็มพีวีรุ่นหรูกว่า Toyota Alphard ล่าสุดทางญี่ปุ่นเพิ่มทางเลือกแบบ 6 ที่นั่ง

    Lexusด้วย LEXUS LM 500h verision L หน้าตาคล้ายกับรุ่น 4 ที่นั่ง EXECUTIVE สง่างาม และทันสมัย ด้วยแนวทางการออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” เริ่มจากกระจังหน้ารูปแบบ “Lexus’s Resolute Look” ที่นำมาออกแบบให้เป็น “Unified Spindle” พร้อมไฟหน้าที่เฉียบคม ทันสมัย แบบ 3 LED โปรไฟล์ด้านข้างตัวรถที่ยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังเป็นอันดับแรก

    ไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ แบบ LED เสริมรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง สปอยเลอร์หลังออกแบบเนียนเรียบและชุดกันชนหลังพร้อมคิ้วสเกิร์ตในตัวกระจก Acoustic Glass บนทุกส่วนของ LM ไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้ารถ ทั้งส่วนหน้า ประตูหน้า หรือประตูเลื่อน ถูกติดตั้งกระจกกันเสียงเพื่อลดเสียงรบกวน และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 และใหญ่สุดขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19

    สร้างจากแพลตฟอร์ม TNGA-K ในรหัส AW10 ตั้งแต่ความยาว 5,125 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร ความสูง 1,955 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเป็น 2,440 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร

    Lexusโดดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ต้องการห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบาย พร้อมความประณีต และพิถีพิถันในการผลิตสูงสุด ภายใต้แนวคิด “Making Luxury Personal” โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง ภายในที่หรูหราประณีต ด้วยการออกแบบที่ยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกสบายสูงสุด

    เบาะนั่ง VIP Seat แบบ 2 ที่นั่ง ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน / เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ให้การซัพพอร์ตได้อย่างเหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ทำให้ทุกการเดินทางผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด

    ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet 5.5 นิ้ว Personalized Customization ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะ ความหรูหราที่ตอบสนองทุกรสนิยมส่วนบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen สามารถแยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล

    เบาะนั่งผู้โดยสารตอนที่สามนั่งได้สามที่นั่งสามารถพับได้แบบ 50/50 Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว

    พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roof หน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller”

    Lexusออปชันประจำรถทั้งมาตรวัดดิจิตอลเต็มรูปแบบขนาด 12.3 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังประดับลายไม้ Bengala ปรับสูง-ต่ำ ใกล้-ไกล 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display จอสัมผัสแสดงผลการสั่งงานขนาด 14 นิ้ว แบบ EMV ระบบสัมผัส รองรับระบบปฏิบัติการ Apple CarPlayTM และ Android Auto เชื่อมต่อไร้สาย ระบบ Lexus Navigation

    เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมรอบทิศทางจาก Mark Levinson 21 จุด  ที่ชาร์จมือถือไร้สายและเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา (คอนโซลกลาง) ช่องเชื่อมต่อ HDMI/ช่องจ่ายไฟ AC 100 V (คอนโซลกลางที่นั่งโดยสาร)

    ม่านบังแดดประตูบานเลื่อนแบบไฟฟ้า กล่องคอนโซลกลาง และ ช่องเก็บของด้านหน้าพร้อมฝาปิด กล่องคอนโซลระหว่างเบาะนั่ง ช่องเก็บอุปกรณ์อเนกประสงค์ ที่วางแขนเบาะหลังพร้อมโต๊ะวางของที่ติดตั้งอยู่ในที่วางแขนกระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่องสว่าง (บริเวณที่นั่งด้านหน้า)

    ช่องวางแก้วน้ำ (บริเวณประตูด้านหน้า ประตูบานเลื่อน และ ที่นั่งด้านหลัง) ไฟสร้างบรรยากาศที่มีให้เลือก 50 สี 14 รูปแบบ ปรับแต่งอุณหภูมิแยกอิสระได้ถึง 4 โซน เลือกระดับความสบายได้แบบส่วนตัวสำหรับทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและผู้โดยสารแถวหลัง ระบบระบายอากาศด้านหลังปรับองศาได้

    Toyota

    ขุมพลังเป็นแบบ HEV-Hybrid ล้วนด้วยเบนซินเทอร์โบ Dynamic Force Hybrid D-4ST ขนาด 2.4 ลิตร รหัส T24A-FTS ให้กำลังถึง 275 แรงม้า 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 460 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าหลังแบบ Permanent Magnet Motor โดยมอเตอร์หน้า 1ZM ให้กำลัง 87 แรงม้า แรงบิด 292 นิวตันเมตร มอเตอร์หลัง 1YM 103 แรงม้า แรงบิด 169 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ขนาดความจุ 1.44 kWh

    ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 371 แรงม้า แรงบิด 406 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่ถึงสามโหมดทั้ง EV, Normal และ ECO ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Direct 4 ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 6.9 วินาที ประหยัดน้ำมัน 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร  ตามมาตรฐาน WLTC

    พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) ควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด

    ความปลอดภัยระดับโลกกับระบบ “Lexus Safety System Plus” ครบครัน ในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทางทั้ง ป้องกันก่อนการชน (PCS) Pre-crash safety

    ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (DRCC) Dynamic Radar Cruise Control (with all-speed follow function) เตือนออกนอกเลน (LDA) Lane Departure Alert พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LTA) ระบบ Brake Posture Control (Pitch & Roll) ไฟสูงอัจฉริยะ (AHS) และ เตือนมุมอับสายตา

    LexusLEXUS LM500h verision L 6 ที่นั่ง ขายญี่ปุ่นในราคา 15,000,000 Yen หรือราว 3,539,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายรวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 12,175,000 บาท

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts