More

    Lexus LM 2024 ลักชัวรีแวนจ่อขายแดนจิงโจ้สิ้นปีนี้

    หลังเปิดตัวที่เมืองจีนเป็นที่แรกของโลกสำหรับ Lexus LM ที่เพียบพร้อมด้วยความหรูหราสง่างามเทียบเท่ารถยุโรปในร่างอัลตราลักชัวรีแวน

    Lexus

    ตามแผนทางญี่ปุ่นจะเปิดตัวเวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่แรกของโลกช่วงเดือนกันยายนนี้และออสเตรเลียก็สนใจที่ขายด้วยภายนอกของเจเนอเรชันที่สอง ใหม่หมดแต่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ กระจังหน้าขนาดเล็กเส้นขอบโครเมียม พร้อมตราโลโก้ Lexus บนขอบฝากระโปรงหน้า ชุดไฟหน้า LED ดีไซน์เรียบหรู พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Turning Lamps ชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่แบบรังผึ้งรูปตัว Z กลับด้าน Spindle Grill

    ด้านข้างเสา A ออกแบบกระจกขนาดใหญ่เพื่อทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจน เสา B และ C แนวตั้งตกแต่งสีดำเงาสุดหรู ล้อมรอบด้วยกรอบโครเมียมสไตล์หรูตั้งแต่เสา A จนถึง เสา D ทั้งบนและล่างบ่งบอกความเป็นรถลักชัวรีเต็มรูปแบบ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน คิ้วตกแต่งชายล่างตัวรถ ล้ออัลลอยมีให้เลือกถึง 2 ขนาดตั้งแต่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 และใหญ่สุด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19

    ด้านท้ายมาด้วยไฟท้ายที่ลากยาวตลอดแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Turning Lamps  รูปตัว V กับไฟเบรกดวงที่ 3 เส้นแนวนอนยาว ใต้ไฟเบรกดวงที่ 3 ติดตราอักษร Lexus เว้นช่องตัวอักษรอย่างสวยงาม เพิ่มความหรูอีกระดับพร้อมสปอยเลอร์หลังออกแบบเนียนเรียบและชุดกันชนหลังพร้อมคิ้วสเกิร์ตในตัวหลังคามูนรูฟ 2 บานตรงกลางซ้าย-ขวา ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม TNGA

    Lexus

    ภายในพิเศษจะมาในแบบ 4 ที่นั่ง Captain Seat พร้อมจอทีวี widescreen ขนาดมหึมา 48 นิ้ว แถมอัปเกรดการตกแต่งภายในให้ภูมิฐานขึ้นมีแผงกันความเป็นส่วนตัวกระจกปรับขึ้น-ลงด้วยระบบไฟฟ้า สร้างความเป็นส่วนตัวได้ดี พร้อมตู้แช่เย็น เบาะนั่งตอน 2 แบบ business-class lounge มีระบบนวดที่สามารถนวดได้ทั้งบริเวณต้นขา หลัง และไหล่ โดยสามารถเลือกโปรแกรมนวด

    พร้อมลำโพงระดับไฮเอนด์ Mark Levinson และยังมีรุ่น 6 ที่นั่ง Executive และแบบ 7 ที่นั่งให้เลือกพร้อมชุดแผงคอนโซลหน้าที่ไปคล้ายกับ Lexus RX และ Lexus NX ที่มีจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว ถัดลงมาเป็นปุ่มการทำงานของจอสัมผัสและเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ พร้อมมาตรวัดดิจิทัล และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านออกแบบใหม่

    Lexus

    ขุมพลังแน่นอนว่าเป็น HEV-Hybrid ล้วนที่เลือกถึง 2 ขนาดตั้งแต่ เบนซินเทอร์โบ Dynamic Force Hybrid ขนาด 2.4 ลิตร  T24A-FTS ให้กำลังถึง 279 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 429 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 372 แรงม้า แรงบิด 406 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ DIRECT4

    และเบนซิน Dynamic Force Hybrid A25A-FXS 2.5 ลิตร ให้กำลังถึง 189 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 237 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 249 แรงม้าแรงบิด 316 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้ากับขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four

    พร้อมความปลอดภัยเต็มคัน Lexus Safety System+ 3.0 ทั้งระบบป้องกันก่อนการชน Pre-crash safety (PCS), ควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control (with all-speed follow function,  เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Lane Departure Alert (LDA), ตรวจจับความผิดปกติของการขับ Abnormal Driver Response System, ช่วยเหลือการขับขี่แบบเชิงรุก Proactive Driving Assist (PDA)

    Lexus

    ช่วยขับอัจฉริยะ Advanced Drive (traffic jam support),ช่วยจอดรถอัจฉริยะ Advanced Park (with remote function) และระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งผ่าน easy closer หรือ Safe Exit Assist สำหรับประตูสไลด์ Lexus LM พร้อมขายที่ออสเตรเลียภายในสิ้นปีนี้ทั้งรุ่น LM 350h และ LM500h ส่วนทางเมืองไทยช่วงเวลาเดียวกับออสเตรเลียได้พบกัน

    ที่มา Carsales

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts