หลังจากทำตลาดในไทยมาเกือบ 3 ปีสำหรับ Lexus NX เจนสองจนได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆที่ชื่นชอบล่าสุดเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2024
ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวและทันสมัยด้วยกระจังหน้า SPINDLE GRILLE ไฟท้ายรูปทรงตัว L สอดรับกับโลโก้แบบใหม่ของเลกซัส พร้อมไฟหน้า LED แบบใหม่ 3-eye และ 1-eye ดีไซน์เรียบหรูกับไฟเลี้ยวแบบ Sequential Turning พร้อมไฟ DRL แบบ “Nike-swoosh” รูปตัว L ที่แยกจากกัน
ด้านท้ายด้วยไฟท้าย LED แบบลากยาวตลอด เชื่อมด้วยแถบโครเมี่ยมยาวโลโก้ตัวอักษร Lexus แทนโลโก้ทรงกลม ล้ออัลลอยลายขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60 R18 และ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R18
พร้อมแนะนำรุ่นย่อยใหม่รุ่นลุยยกสูง Overtrail โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยสีดำที่กระจกมองข้าง มือจับประตู ราวหลังคา คิ้วล้อ และกระจังหน้าแบบ SPINDLE GRILLE ดูแข็งแกร่งดุดัน มาพร้อมสีภายนอกพิเศษ Moon Desert และล้ออัลลอยสีดำด้านขนาด 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ พร้อมยางพิเศษสำหรับทุกสภาพถนน ที่มีเฉพาะในเกรด Overtrail เท่านั้น
ตัวรถ จากแพลตฟอร์ม TNGA-K ) ทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่ และกว้างขึ้น ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยม และควบคุมได้ดั่งใจ เริ่มที่ความยาว 4,660 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,865 มิลลิเมตร ความสูง 1,660 กับ 1,670 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,690 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,730-2,050 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ภายใน ได้ถูกออกแบบมาให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9.8 นิ้ว และ 14 นิ้ว ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส แถมอยู่ในตำแหน่งเดียวกันสามารถมองเห็นชัดเจนขึ้นมาพร้อมกับอินเตอร์เฟสแบบใหม่และ WIRELESS APPLE CARPLAY ให้การตอบสนองได้อย่างแม่นยำพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านที่สวยและเบาะนั่งหนังแท้สไตล์ปสอร์ต หลังคาพาโนรามิกขนาดใหญ่
จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลกลาง 10 นิ้ว Head-up Display ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย พร้อมไฟส่องภายใน แบบ thematic ambient illumination มีทั้งหมด 50 สี 14 แบบ กระจกมองหลังแบบดิจิทัล ให้ภาพที่มีความคมชัดและสีที่เป็นธรรมชาติสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในยามค่ำคืน
ห้องโดยสารภายในเกรด Overtrail เป็นเอกลักษณ์ด้วยเบาะนั่งโทนสีพิเศษสีกากีและสีดำ พร้อมด้วยลายไม้แบบ Geo Layer ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายของชั้นหินธรรมชาติ ถูกออกแบบเฉพาะในเกรด Overtrial เท่านั้น
สเปกไทยจำหน่าย 2 ขนาด เริ่มที่รุ่น NX350h มาพร้อมพลังเบนซิน Hybrid 2.5 ลิตร A25A-FXS 187 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 239 นิวตันเมตร ที่ 4,300-4,500 รอบต่อนาทีมาพร้อมกับ มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Permanent Magnet Synchronous Motor 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร กับ แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดลิเธียมไอออน ขนาด 1.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 240 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ECVT
รุ่น NX450h AWD Plug-in hybrid ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 227 นิวตันเมตร ที่ 3,200-3,700 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2ตัว 5NM 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร และรุ่น 4NM 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 304 แรงม้า
ขนาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง 18.1 kWh จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลัง กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้ตั้งแต่ 100 : 0 ถึง 20 : 80 สามรถวิ่งในโหมด EV ไฟฟ้าล้วน ได้ไกลกว่า 87 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าได้ถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้เฉพาะกระแสสลับ AC รองรับความการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ภายใน 2.30 ชั่วโมง
พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ 1. EV (Electronic Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 2. EV/HEV แบบสลับอัตโนมัติ ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮบริด 3. HEV (Hybrid Electric Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 4. โหมดชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด โหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ขับรถไปด้วยได้ โดยระบบจะดึงกระแสไฟจากเครื่องยนต์มาชาร์จเข้าแบตเตอรี่ไฟฟ้า จึงใช้งานโหมด EV ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กชาร์จ
ด้านสมรรถนะการขับขี่รุ่น Overtrail มีการเพิ่มระดับความสูงของช่วงล่างให้สูงขึ้น 15 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระยะห่างจากพื้นรถเพิ่มขึ้น ช่วยให้วิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่ดีขึ้น มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบข้างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สามารถวิ่งบนถนนที่ขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus NX MY2024 มาพร้อมกับ Lexus Safety System Plus ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH โดยจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ระบบการเปิด-ปิดประตูแบบ Safe Exit Assist เพิ่มความปลอดภัยขณะลงจากรถ ช่วยให้ไม่ต้องออกแรงดึงหรือผลักเพื่อเปิดประตู
พร้อมระบบช่วยจอด Parking Assist System และระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ LEXUS TEAMMATE ADVANCE PARK ในรุ่น NX450h+ Premium ป้องกันก่อนการชน Pre-collision Safety System ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS) ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
ช่วยเบรกขณะถอยจอด Parking Brake Assist System (PKSB) ช่วยเปลี่่ยนเลน พร้อมสัญญาณเตือนมุุมอับสายตาLane Change Assist with Blind Spot Monitor (BSM) สัญญาณเตือนด้านท้าย ขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) และถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด
มาพร้อมกับสีภายนอกให้เลือกถึง 12 สี โดยมีสีใหม่คือ Sonic Copper กับ Moon Desert*** พร้อมสีเดิมทั้ง White Nova Glass Flake** Sonic Quartz* Sonic Titanium Sonic Chrome Black Graphite Black Glass Flake Madder Red Terrane Khaki Mica Metallic Heat Blue Contrast Layering** Celestial Blue Glass Flake
สำหรับรุ่นใหม่ Overtrail สามารถเลือกสีได้ทั้งหมด 7 สีดังนี้ Sonic Quartz, Sonic Titanium, Sonic Chrome, Graphite Black Glass Flake, Sonic Copper, Moon Desert และ Terrane Khaki Mica Metallic
พร้อมเลือก ได้แล้ววันนี้ กับแคมเปญพิเศษสุด เมื่อจอง Lexus NX 350h รับดอกเบี้ย 0.99% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และ Lexus Exclusive Package (LXP) ขยายระยะเวลารับประกันเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดในราคาดังนี้ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
รุ่น NX 350h
- รุ่น Luxury 3,310,000 บาท
- รุ่น Grand Luxury 3,460,000 บาท
รุ่น NX 450h+
- รุ่น Grand Luxury AWD 3,660,000 บาท
- รุ่น Premium AWD 3,940,000 บาท
- รุ่น Overtrail AWD 4,180,000 บาท
- รุ่น F SPORT AWD 4,390,000 บาท
* สำหรับเกรด Luxury, Grand Luxury และ Premium เท่านั้น
** สำหรับเกรด F SPORT เท่านั้น
*** สำหรับ เกรด Overtrail เท่านั้น