More

    Mercedes-Benz E-Class 2024 เก๋งหรูยอดนิยมค่ายตราดาว

    นับตั้งแต่ Mercedes-Benz W120/121 ทำตลาดตั้งแต่คันแรกเมื่อปี 1953 และทำตลาดมายาวนานถึง 7 ทศวรรษ และกลายเป็นต้นแบบให้กับเจนต่อๆมา

    Mercedes-Benz

    จนมาถึง Mercedes-Benz E-Class ที่กลายเป็นรถที่ยอดขายสูงในโลกหลายล้านคันด้วยความเป็นรถซีดานไซซ์ชายกลางมีเอกลักษณ์เด่นทั้งดีไซน์ความสบายและเทคโนโลยีไม่เป็นรองใครได้เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 11 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเป็นเจเนอเรชันที่ 6 ที่ใช้ชื่อ E-Class รหัส W214 ด้วยความมิกซ์ดีไซน์กันระหว่างพี่ใหญ่ Mercedes-Benz S-Class V223 และ Mercedes-Benz C-Class W206 น้องเล็กผสานจนเกิดเป็นความหล่อลงตัวด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ลักชัวรีอันเป็นเอกลักษณ์เด่นค่ายนี้คล้ายๆกับรุ่นพี่ S-Class ขอบสีดำและมีกระจังหน้าทรงตราดาวขนาดใหญ่ด้วย ประกบกับไฟหน้า Digital Light LED ทรงสวยแบบทรงปีกเมื่อเข้ามารวมกับไฟ DRL แบบ LED บนโคมถึง 2 ชั้น

    ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกับตัวรถ ด้านข้างดีไซน์หลังคารถความโค้งมนอย่างลงตัว ล้อและยางคาดว่าใช้ขนาดเดิมตั้งแต่ 17 นิ้วพร้อมยาง 225/60R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 ,ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40R19 และยางหลัง 275/35R19 ไฟท้าย LED ที่สวยงามกับไส้ในเป็นตราดาวสามแฉกหรือจะเรียกว่าเป็นไฟท้ายเบนซ์ก็ว่าได้พร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ กรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง

    ตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,949 มม. ความกว้าง 1,880 มม. ความสูง 1,468 มม. ฐานล้อ 2,961 มม. น้ำหนักรถ 1,915-2,265 กก. และความจุถังน้ำมัน 50 และ 66 ลิตร

    Mercedes-Benz

    ภายในห้องโดยสารสวยหรูด้วยชุดแผงคอนโซลหน้าที่คล้ายกับรถไฟฟ้าในค่าย Mercedes-EQ ประกอบด้วย หน้าจอมาตรวัดดิจิตอลความละเอียดสูงบริเวณด้านหน้าของผู้ขับขี่ขนาดใหญ่ลอยตัวแสดงผลคมชัด ภาพที่อ่านง่ายในทุกสภาพแสง สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ “Classic”, “Progressive” and “Sporty” พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service

    หน้าจอกลาง Infotainment แบบ MBUX Superscreen รวมการทำงานของเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิกับระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เอาไว้ด้วยกันพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงและหน้าจอสำหรับความบันเทิงฝั่งผู้โดยสารด้านหน้ารวมความยาวจอทั้ง 3 จุดรวมกัน

    มีกล้อง AI ตรงคอนโซลกลางสำหรับจับพฤติกรรมการขับขี่แถมยังเป็น Video Conference สำหรับรองรับแอปพลิเคชัน Zoom และถ่ายเซลฟี่โชว์ความหล่อความสวยได้ เชื่อมต่อระบบความบันเทิงทั้ง Android Auto หรือ Apple CarPlay สามารถแสดงหน้าจอมือถือเข้าผ่านทางจอสัมผัสได้โดยตรงโดยไม่ต้องเชื่อมผ่านแอปมิเรอร์อีก รวมถึงสามารถใช้แอปพลิเคชันหลากหลายในจอได้ไม่ว่าจะเป็น Angry Birds, TikTok, Zoom, และ Webex และยังสตรีมมิ่งแอปพลิเคชันเพื่อดูหนังฟังเพลงได้เช่นกัน พร้อมลำโพงคุณภาพ Burmester 4D ลำโพงรอบคัน 21 ตัว กำลังขับ 730 วัตต์ เป็นออปชันเสริมส่วนลำโพงมาตรฐานมี 7 จุด กำลังขับ 125 วัตต์

    เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ THERMOTRONIC สามารถควบคุมไม่ให้เกิดฝ้าบนกระจกรถ มีระบบ ENERGIZING AIR CONTROL สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 กับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ และยังฟอกอากาศได้ Air Balance และยังมี Digital Vent Control ข่องแอร์ปรับด้วยระบบไฟฟ้าหมุนเวียนอากาศให้เป็นธรรมชาติ และกุญแจอัฉริยะ Keyless-Go สมัยใหม่แบบ Digital Vehicle Key ควบคุมการสตาร์ทรถเปิดประตูรถผ่าน iPhone และ Apple Watch ได้ แถมแชร์ให้คนอื่นสูงสุด 16 คน

    พร้อมการตกแต่งทั้งไฟสร้างบรรยากาศภายใน 64 สี Active Ambient Lighting เคลื่อนไหวเร็วหรือช้าตามจังหวะเสียงดนตรีจากเพลง ภาพยนตร์หรือแอพสตรีมมิ่งเพลงได้ จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display เบาะหนัง Nappa ลายเพชร Diamond Cut ตกแต่งลายไม้แบบใหม่ที่มีแสงพื้นหลัง หากไม่ชินกับความหรูหรายังมีการตกแต่งด้วยโลหะผสมสีเงินแบบสปอร์ตด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนังดีไซน์สหกรณ์ และพื้นที่สัมภาระท้ายมากถึง 540 ลิตร และ 370 ลิตรในรุ่น Plug In Hybrid

    Mercedes-Benz

    ขุมพลังแน่นอนว่าจะมีทั้งดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร OM654M Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถโดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษแบบ 48V technology โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 23 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร และให้กำลังมากถึง 197 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 238 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 7.6 วินาที ในรุ่น E220 d และความเร็วสูงสุด 234 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 7.8 วินาที ในรุ่น E220 d 4MATIC ขับเคลื่อนสี่ล้อ

    และเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Mild Hybrid M254M สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถโดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษแบบ 48V technology โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 23 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร ให้กำลังมากถึง 204 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,800-4,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 7.5 วินาที ในรุ่น E200

    Mercedes-Benz

    เบนซิน Plug In Hybrid มีด้วยกันถึงสองรุ่นขนาดเดียวกันเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส M254 ในรุ่น E300 e และรุ่น E300 e 4MATIC ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบ/นาทีจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 129 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากถึง 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร

    ความเร็วสูงสุด 236 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.4 วินาที วิ่งไกลสุด 115 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง WLTP ในรุ่น E300 e และความเร็วสูงสุด 234 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.5 วินาที วิ่งไกลสุด 109 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง WLTP ในรุ่น E300 e 4MATIC ขับเคลื่อนสี่ล้อ

    เบนซิน Plug In Hybrid  2.0 ลิตร รหัส M254 ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 252 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูง 400 นิวตันเมตรที่ 3,200-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 129 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากถึง 381 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 109 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง WLTP ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 5.3 วินาที ในรุ่น E400e 4MATIC

    Mercedes-Benz

    ทุกรุ่นในตระกูล Plug In Hybrid สาามารถชาร์จได้ทั้ง AC กระแสสลับ 11 kW และ DC กระแสตรง 55 kW ในเวลา 30 นาที พร้อมความจุแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ให้ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กม./ชม. และทุกขนาดความแรงทั้งดีเซลเทอร์โบ MHEV เบนซินเทอร์โบ MHEV และเบนซินเทอร์โบ PHEV จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย  (Steering – wheel Gearshift Paddles)

    ช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าเป็น 4-Link ด้านหลังเป็น 5-Link และยังมีช่วงล่างถุงลม AIRMATIC ให้เลือกสามารถปรับความสูงเตี้ยของตัวรถได้ตามสภาพถนน ล้อหลังเลี้ยวได้ 4.5 องศาและความปลอดภัยครบครันไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC เตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST เสริมเป็นระบบช่วยเตือนบนจอแสดงผลแบบ 3 มิติ เริ่มเตือนด้วยเสียงและเตือนผ่านจอ

    หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองรถจะหยุดฉุกเฉินโดยใช้ Active Emergency Stop Assist, ช่วยเบรกแบบแอ็คทีฟ Active Brake Assist, ช่วยเตือนให้รถขับอยู่ในเลนแบบแอ็คทีฟ Active Lane Keeping Assist, ช่วยจอดอัตโนมัติที่ทำงานร่วมกับกล้องมองหลัง Parking Package with reversing camera มีการปรับปรุงระบบให้ช่วยถอยจอดได้เร็วขึ้นและช่วยจำกัดความเร็ว Speed Limit Assist

    Mercedes-Benz

    Mercedes-BenzMercedes-Benz E-Class เจเนอเรชันใหม่มาในรุ่นซีดานก่อนและจะมีรุ่น Estate เจนใหม่ทั้งแบบปกติและแบบลุย All-Terrain ตามมาทีหลัง ส่วนเมืองไทยพบกันได้ช่วงปีหน้า

     

    ที่มา Carscoops และ Mercedes-Benz

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts