หลังจากเผยข้อมูลการเปิดตัว Mercedes-Benz GLE รุ่นปรับโฉมเอสยูวีหรูอย่างเป็นทางการในไทยประเดิมด้วยรุ่น GLE 300 d 4 MATIC AMG Dynamic
ล่าสุดคันจริงสเปกไทยเผยเต็มรูปแบบด้วยหน้าตาใหม่ปรับครั้งแรกในร่างเจเนอเรชันที่ 4 รหัส W167 ตั้งแต่ชุดตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystyling ตั้งแต่ กระจังหน้าแนวนอนชั้นเดียวอันโดดเด่นด้วยกระจังหน้า diamond-pattern grille เส้นตัดแบ่งเส้นเดียวพร้อมตราโลโก้สามห่วงใหม่
รับกับชุดกันชนหน้าใหม่พร้อมช่องระบายอากาศที่ใหญ่ดูดีกว่าโคมไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมปรับไฟสูงอัตโนมัติ ใหม่ออกแบบเสริมความดุดันให้กับรถได้ ราวหลังคา บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้างแสดงผลเป็นตราสัญลักษณ์ Mercedes–Benz ปิดประตูสุญญากาศแบบ Power closing
ด้านท้ายยังคงเดิมแต่เปลี่ยนในส่วนไฟท้าย LED โคมใหม่ พร้อมระบบเปิด–ปิด บานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS–FREE ACCESS) หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด–ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยลายใหม่ AMG แบบ 5 ก้านคู่ขนาด 21 นิ้วพร้อมยางหน้า 275/45 R21 และยางหลัง 315/40 R21
มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,926 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,015 มิลลิเมตร ความสูง 1,797 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,995 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,335 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร
ภายในตกแต่งโทนแบบ AMG Line interior ภายในใหม่ด้วยวัสดุ Anthracite open – pore oak wood ด้านบนของคอนโซลหน้า (dashboard) และด้านบนของแผงประตูหุ้มด้วยหนัง ARTICO ปรับเปลี่ยนลายพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านใหม่ใช้ทรงเดียว Mercedes-Benz C-Class, CLS, S-Class, CLS รุ่นใหม่ๆ หุ้มหนัง NAPPA
ระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ทั้งจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit ขนาดใหญ่พิเศษ 12.35 นิ้ว จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน ทั้งมาตรวัดและจอสัมผัสปรับปรุงใหม่ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto) ช่อง USB Type C 5 ตำแหน่ง ควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad มีระบบแผนที่นําทางแบบ Hard–disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ พร้อมสภาพการจราจร Live traffic Information
ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี (ambient lighting) มาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head–up Display) ลำโพงเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system ระบบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC มีฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL พร้อมระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ม่านบังแดดประตูหลัง ซ้าย–ขวา แผ่นปิดพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง เก็บสัมภาระด้านหลังยังมีสูงถึง 855 ลิตร และเพิ่มได้สูงถึง 2,055 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่สองบบ 40:20:40 เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจําสําหรับตําแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support มีอุ่นเบาะสําหรับที่นั่งคู่หน้า Heated front seats
ขุมพลังที่จำหน่ายเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบแถวเรียงรหัส OM654 2.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 269 แรงม้าที่ 4,200 รอบรอบนาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตรที่ 1,800 ถึง 2,200 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จับคู่กับระบบ Mild Hybrid EQ Boost เสริมกำลังเครื่องยนต์ได้ถึง 20 แรงม้า 200 นิวตันเมตร พร้อมแรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษเป็นตัวกลาง ช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ช่วยในการเร่งแซงเร้าใจมากขึ้น
มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC เพิ่มระบบ Torque on Demand กระจายล้อหน้าและหลังแบบอัตรา 0-100% กระจายล้ออย่างสมดุล ลุยได้ดี เข้าโค้งอย่างมั่นใจมากขึ้นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC พร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive damping system ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) พร้อมควบคุมระดับอัตโนมัติ
พร้อมความปลอดภัยเต็มคันตั้งแต่ ถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 ตำแหน่ง (คู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ด้านข้างคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ม่านนิรภัย 4 ตำแหน่ง, หัวเข่าผู้ขับขี่ 1 ตำแหน่ง และ ด้านข้างผู้โดยสารด้านหลัง 1 ตำแหน่ง) เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด (5 ที่นั่ง) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) เบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti – lock Braking System)
เบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill -Start Assist ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) เตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)รักษาระดับความเร็ว (Cruise control) และระบบจํากัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
ตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ (Tyre pressure loss warning system) ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC) ช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ข้างหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC)
ช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist) ช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC) พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทางรวมกล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยรถ (Reversing camera) ช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistance package)
ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) แจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning Function) แจ้งเตือนสถานะเข็มขัดนิรภัยสําหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมการแสดงผลแบบ Transparent bonnet สําหรับการขับขี่แบบ OFF – ROAD
Mercedes-Benz GLE Facelift ประกอบในประเทศรุ่น GLE 300 d 4 MATIC AMG Dynamic ในราคาใหม่ 5,590,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 160,000 บาท) พบกันที่งาน Motor Expo 2023 ส่วนรุ่นอื่นๆอย่างรุ่น GLE 350 de และ Mercedes-AMG GLE GLE 53 4MATIC+ จะเปิดตัวเร็วๆนี้