More

    MG Cyberster โชว์ดักคอที่ Motor Expo ก่อนขายไทยคาดปีหน้า

    หลังโชว์ต้นแบบที่งาน Motor Expo เมื่อสองปีก่อนพร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ล่วงหน้าจนได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆชาวไทยที่สนใจ

    MG

    และในงาน Motor Expo ปีนี้ พร้อมแล้วที่จะเผยตัวจริงโรสเตอร์พลังอีวีเวอร์ชันขายจริง MG Cyberster ที่หวนกลับมาทำตลาดอีกครั้งหลังเคยสร้างชื่อให้กับ MG TF และ MGB Roadster โดยได้ MGB Roadster เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์โดยตัวรถมาในแบบโรสเตอร์เปิดประทุนตั้งแต่ไฟหน้า LED Projector แบบ Laser Belt กระจังหน้าเรียวยาวพร้อมตรา MG ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ด้านท้ายแบบ Kammback ชุดไฟท้าย LED Red Wing ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนสุดล้ำ ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศรสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันลงตัว กันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำ ประตูรถออกแบบมาเปิดแบบปีกนกหรือ Scissor Doors

    ล้ออัลลอยลาย Hacker Blade คาดว่าจะเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/45R19 และยางหลัง 275/40R19 หรือ 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40R20 และยางหลัง 275/35R20 ตัวรถเริ่มที่ความยาว 4,535 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,913 มิลลิเมตร ความสูง 1,329 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,690 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 2,075 และ 2,210 กิโลกรัม

    MG

     

    ภายในปรับดีไซน์ให้ใช้งานง่ายจับสะดวกตามสไตล์แบบ “Digital Fiber” โดยรวมของภายในจะคล้ายกับรถมัสเซิลคาร์แดนมะกันอย่าง Chevrolet Corvette C8 วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางด้วยโทนภายเป็นสีแดง ออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกัน แผงคอนโซลหน้ามีแผงจอแสดงดิจิทัลขนาดใหญ่ LCD เป็นทั้งมาตรวัดและจอสัมผัสในตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านกลับมาใช้แบบท้ายตัดหรือทรง D Shape แล้ว และติดตราโลโก้ MG แบบไม่มีกรอบและแบบพวงมาลัยสไตล์ Yoke-Style Steering หรือพวงมาลัยแบบครึ่งวงอาจเป็นออปชันเสริม มีปุ่มโหมดการขับขี่ Super Sport สีแดง

    MG

    ขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้ามีให้เลือกสองรูปแบบโดยทั้งคู่ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน lithium-ion battery ที่มีความจุแบตเตอรี่ 77 kWh เริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวมมากสุด 544 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าให้กำลัง 204 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าหลังให้กำลัง 340 แรงม้า สามารถวิ่งไกลสุด 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที และมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวจากความจุแบตเตอรี่ 64 kWh ให้กำลังรวมมากสุด 314 แรงม้าพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัปเกรดแบบ Active-upgrading และ Smart Cockpit และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3

    MGMG

    หลังจากที่จีนขายที่แรกภายในปีนี้ตามมาด้วยอังกฤษและกลุ่มประเทศยุโรปกลางปีหน้า สำหรับเมืองไทย MG Cyberster พร้อมโชว์ที่ Motor Expo 2023 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11ธันวาคม และอาจได้ขายจริงภายในช่วงปีหน้า

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts