ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของ MG Cyberster เริ่มขึ้นนแล้วเมื่อ Carscoops เผยภาพหลุดแบบทั้งคันไม่พรางตัวของโรสเตอร์หัวใจไฟฟ้า
โดยเห็นส่วนด้านท้ายแบบ Kammback ชุดไฟท้าย LED Red Wing ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนสุดล้ำ ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร สปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันลงตัวด้วยกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำ และประตูรถออกแบบมาเปิดแบบปีกนกหรือ Scissor Doors
ส่วนด้านหน้าหล่อด้วย ไฟหน้า LED Projector แบบ Laser Belt กระจังหน้าเรียวยาวพร้อมตรา MG ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ล้ออัลลอยลาย Hacker Blade คาดว่าจะเป็นขนาด 19 นิ้ว
ภายในปรับดีไซน์ให้ใช้งานง่ายจับสะดวกตามสไตล์แบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกันแผงคอนโซลหน้ามีแผงจอแสดงดิจิทัลขนาดใหญ่ LCD เป็นทั้งมาตรวัดและจอสัมผัสในตัว พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสไตล์ Yoke-Style Steering หรือพวงมาลัยแบบครึ่งวง พร้อมปุ่มโหมดการขับขี่ Super Sport สีแดงไว้ด้วย
คอนโซลกลางประดับด้วยแผงควบคุมต่างๆรวมถึงคันเกียร์และที่วางแก้วน้ำและเบาะนั่งสปอร์ตแบบ Zero-gravity Seat โดยรวมของภายในจะคล้ายกับรถมัสเซิลคาร์แดนมะกันอย่าง Chevrolet Corvette C8
ขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ สามารถวิ่งไกลสุด 800 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาทีและยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมาด้วย พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัปเกรดแบบ Active-upgrading และ Smart Cockpit และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3
MG Cyberster เวอร์ชันขายจริงหรือ Production Car ออกแบบโดย MG Advanced Design Center ประเทศอังกฤษ คู่แข่ง Alpine A110 EV เข้าสู่การสายการผลิตแล้วและจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 ส่วนเมืองไทยเข้ามาจำหน่ายในปี 2024
ที่มา Carscoops