MG3 เก๋งท้ายตัด 5 ประตูไซซ์เล็ก ที่มีข่าวคราวว่าจะมีการเปิดตัวเจเนอเรชันที่สามมาจำหน่ายโดยหนึ่งในนั้นคือออสเตรเลียส่วนเมืองไทยยังรอต่อไป
ล่าสุด MG3 ถูกส่งมาทดสอบที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียในรูปแบบพวงมาลัยขวาพรางตัวทั้งคันตัวรถมีขนาดใหญ่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมซึ่งว่าไปแล้วรถคันนี้ยังอยู่ในกลุ่ม Sub Compact Car ท้าชนกับ Honda City Toyota Yaris นั่นเอง หน้าตาเป็นการผสมงานดีไซน์ระหว่าง MG5 และ MG HS ด้วยช่องระบายอากาศดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะแบบ Digital Burning Grille ไฟหน้า LED ทรงเรียวเพรียวสปอร์ต โลโก้ MG อยู่ตรงชุดกระจังหน้าแบบทึบในชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลม ด้านข้างเส้นสายดูกลมกลืนประณีตพร้อมดีไซน์หลังคารถที่ลาดลงตามยุคสมัย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูยกก้าน ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายห้าก้านทูโทนพร้อมยาง 195/55R16 ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ลงตัวด้วยกันชนหลังทรงสปอร์ตพร้อมสปอยเลอร์หลังทำให้นึกถึง Honda City Hatchback ขึ้นมาทันที
ภายในมีรายละเอียดเล็กน้อยกับเบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำแผงประตูขึ้นรูปที่สวยงาม เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ไฮเทค พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันยกมาจาก MG4 Electric ติดตั้งมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ มีจอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto คาดว่าจะเป็นขนาด 10.25 นิ้ว ถัดลงมาเป็นสวิตช์การทำงานที่จำเป็นช่องแอร์ดีไซน์หรู และเกียร์อัตโนมัติแบบปุ่มหมุน Shift By Wire พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold
ขุมพลังตามรายงานว่าจะเป็นเบนซิน 1.5 ลิตรพ่วงระบบ Hybrid เป็นไปได้ว่าอาจยกมาจาก MG VS ที่ขายในไทยกับรหัส 15S4C เบนซิน 1.5 ลิตร 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที 142 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้าที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาดความจุแบต 2.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เลือกโหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ และเบนซินล้วน 1.5 ลิตร เบนซิน รหัส 15S4C VTi – TECH ให้กำลัง 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT
พร้อมความปลอดภัยเต็มคันทั้ง ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง กุญแจนิรภัย Immobilizer ล็อกประตูอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
เด่นในการขับขี่คล่องตัวใช้งานสะดวกแถมประหยัดน้ำมันอย่าง MG3 เจนใหม่เตรียมเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 หรือต้นปี 2024 โดยออสเตรเลียเปิดตัวปีหน้า ส่วนประเทศอังกฤษอาจใช้ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ MG3 เมืองไทยอาจหวนกลับมาหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carsales