More

    Mitsubishi ยืนยันยังไม่มีดีเซล V6 ในกระบะ Triton ณ ช่วงเวลานี้

    ในกลุ่มรถกระบะนอกจากขายขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 4 สูบทั้งแบบเทอร์โบแปรผันเดี่ยวและเทอร์โบคู่ส่วนมากมาจากค่ายรถญี่ปุ่นรวมถึง Mitsubishi Triton

    Mitsubishi

    ยังมีค่ายรถกระบะจากอเมริกาอย่าง Ford Ranger นอกจากขายทั้งดีเซลเทอร์โบแปรผันเดี่ยว เทอร์โบคู่ 4 สูบแล้วยังมีขุมพลังดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตรออกขายด้วยและจากการเปิดตัวกระบะ Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 ออกมาโดยข้าวของที่ให้มานั้นอาจดูไม่สมบูรณ์แบบทั้งไม่มีดิสก์เบรกสี่ล้อ เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วรวมทั้งขุมพลังใหญ่ดีเซล V6 ก็ยังไม่มา

    ล่าสุดนาย Yoshiki Masuda หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของ Mitsubishi Triton กล่าวกับสื่อออสเตรเลียอย่าง Drive ว่าถึงแม้พลังดีเซล V6 มีกำลังมากกว่า 4 สูบทั้งแรงม้าและแรงบิดแน่นอนว่ามีผลเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่มากกว่า แต่ก็สามารถใส่ได้เพราะเฟรมแชสซีส์ของ Triton เจนใหม่นี้มีขนาดใหญ่รองรับน้ำหนักได้อย่างยืดหยุ่นและมีระยะห่างระหว่างล้อมากอยู่แล้วที่จะใส่ได้ โดยทางเราสนใจแต่ยังไม่ตัดสินใจที่จะทำในช่วงเวลานี้และไม่มีการทดสอบใดๆถึงแม้ไม่ได้อยู่ในแผนระยะสั้นก็ตาม

    ส่วนออปชันอื่นๆที่เขามีแต่ Mitsubishi ไม่มีทางหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของ Mitsubishi Triton กล่าวเพิ่มเติมว่าเรามีแผนที่จะเพิ่มออปชันทั้งดิสก์เบรกหลังที่รองรับระบบความปลอดภัยต่างๆและมาตรวัดขนาดใหญ่แบบสีขนาด 12.3 นิ้ว จากเดิม 7 นิ้ว จะตามมาในอีก 3-4 ปีข้างหน้าในรูปแบบรุ่นปรับโฉมหรือ Facelift

    Mitsubishi

    ปัจจุบัน Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 ที่ขายในไทยมีสามขุมพลังทั้งแรงและเร้าใจดีเซลเทอร์โบไฮเปอร์เพาเวอร์ (Twin Turbo Hyper Power Engine) ใหม่ 2.4 ลิตร 4N16 ตั้งแต่

    • เทอร์โบคู่ High Power Bi-Turbo ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบ/นาที
    • แบบเทอร์โบแปรผัน Mid Power ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,250-2,500 รอบ/นาที
    • แบบ Low Power 150 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 330 นิวตันเมตรที่ 1,500-3,000 รอบ/นาที

    ทั้งสามขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์เพิ่มความสะดวกสบายอมระบบขับเคลือนสองล้อยกสูง ขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐาน และขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งแบบ Easy Select 4WD (2H, 4H และ 4L)

    Super Select 4WD II มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรดและแบบออฟโรด

    • Normal (ทั่วไป)
    • Eco (ประหยัด)
    • Gravel (ทางลูกรัง)
    • Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก)
    • Mud (ลุยโคลน)
    • Sand (พื้นทราย)
    • Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)

    พร้อมควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ

    Mitsubishi

    นอกจากนี้ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรคพร้อมความปลอดภัยดังนี้

    • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC)
    • ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL)
    • ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
    • เตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
    • สัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW)
    • สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
    • เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)

    ในราคาตั้งแต่ 699,000-1,027,000 บาท โดยขายทั้งรุ่นตอนเดียวขับเคลื่อนสี่ล้อและสี่ประตูในเกรด Pro, Prime และ Ultra ทั้งยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนรุ่นอื่นๆทั้ง Athlete, ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 ประตูรุ่น Ultra เกียร์อัตโนมัติ, รุ่นตัวเตี้ยทั้งตอนเดียว ตอนครึ่งและสี่ประตู จะตามมาอีกทีช่วงปลายปีนี้หรือปีหน้า

    ที่มา Drive

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts