More

    Neta V Facelift 2024 ปรับโฉมหล่อประกอบไทยขายปีหน้า

    หลังจากที่ Neta Auto (Thailand) จับมือกับบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี เดินหน้าสร้างโรงงานประกอบรถยนต์พวงมาลัยขวาสำหรับตลาดอาเซียนรวมถึงไทย

    NETA

    โดยโรงงานประกอบรถแห่งใหม่นี้ตั้งเป้าเปิดสายพานการผลิตภายในปี 2024 คาดว่าตั้งเป้าการผลิต 250,000 คัน/ปี รองรับการเติบโตของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของโลกได้เป็นอย่างดีและรถยนต์รุ่นแรกที่จะออกจากสายพานการผลิตคงเป็นไปไม่ได้นอกจาก Neta V รุ่นปรับโฉม หรือ Neta AYA ที่พึ่งเปิดตัวในเมืองจีนได้ไม่นาน

    เอสยูวีจิ๋วปรับเปลี่ยนเริ่มที่ด้านหน้าเปลี่ยนในส่วนกันชนหน้าออกแบบมีช่องคล้ายช่องระบายอากาศใหญ่ขี้นมีช่องเล็กๆซ้าย-ขวาใหม่ เสริมคิ้วสีเงินใต้กันชนหน้าหล่อด้วยไฟหน้า Projector และไฟ DRL LED ในโคมเดียวกันแบบ Eagle-eye Laser โดมเดิมมีระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

    ไฟท้าย LED ออกแบบใหม่แบบทรูไทป์พร้อมไฟถอยหลังในตัวแบบแนวยาวรับกับฝาท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED กันชนหลังออกแบบใหม่มีแผงสะท้อนแสงสีแดงใหม่กับคิ้วขอบแผงไฟสะท้อนแสง กระจกมองข้างทรงสปูน ล้อและยางมีทั้งแบบกระทะล้อพร้อมฝาครอบและล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/65R15 ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R16 กับมิติตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,070 มม. ความกว้าง 1,690 มม. ความสูง 1,540 มม. ฐานล้อ 2,420 มม.ระยะต่ำสุดจากพื้น 130 มม.

    NETAภายในชัดเจนแล้วว่ามีการเปลี่ยนในส่วนของโทนสีการตกแต่งทั้งสีขาว-ดำ สีดำล้วนและสีขาว-น้ำเงิน แต่ออปชันยังคงเดิมทั้งกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ที่มีระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้วล้ำสมัยด้วยระบบการสั่งการระบบการทำงานต่างๆของรถพร้อมเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน IOS และ Android ลำโพง 6 จุด มาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12 นิ้วแนวยาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน และเบาะหลังสามารถพับได้แบบ 100% พื้นที่มากถึง 588 ลิตรและถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 335 ลิตร

    ขุมพลังไฟฟ้ายังคงเป็นแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 40.7 kWh ชนิด LFP (Lithium-ion Phoshate )(เดิม 38.5 kWh) แต่กำลังยังเท่าเดิมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร และยังให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุดเท่าเดิม 384 กม./ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ความเร็วสูงสุด 121 กม./ชม. ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 มีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 ระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงและการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที

    NETAตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งแบบ Sport และ Normal และเวอร์ชันประกอบไทยอาจได้ออปชันความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ L2 intelligent driving assistant ที่ประกอบด้วย เรดาร์ 1 ตัว, กล้อง 1 ตัว, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว ไม่ว่าจะเป็น

    • ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ full-speed adaptive cruise (ACC)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ automatic emergency braking (AEB)
    • ช่วยการจอดอัตโนมัติ automatic parking Assist (APA)
    • เข้าจอดรถอัตโนมัติด้วยรีโมท One-touch Remote Parking (RPA)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Full Speed ​​Traffic Jam Assist (TJA)
    • ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning (FCW)
    • แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีสิ่งกีดขวางอยู่หน้ารถ Pedestrian Collision Warning (PCW)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
    • ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Intelligent High/Low Beam (HBA)
    • เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Warning (BSD)
    • อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
    • จดจำสัญญาไฟจราจร Traffic Signal Light Recognition (TLR)
    • แจ้งเตือนการสตาร์ทรถ Front Car Start Reminder (SGW)
    • เตือนง่วงขณะขับขี่ Drowsy Driving Reminder (DDW)

    NETA

    NETA

    Neta V รุ่นปรับโฉมหรือ Neta AYA มีสีภายนอกให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่สีเขียวมูนไลท์, สีขาวไวท์สตรอม, สีเทา, สีฟ้าเซรามิก, สีฟ้าคราม และ สีชมพูซากุระ​ เตรียมพบที่เมืองไทยภายในปีหน้าเวอร์ชันประกอบในประเทศไทย

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts