นอกจากแนะนำ TATA Super ACE MINT แล้วทาง อินช์เคป (ประเทศไทย) เสริมทัพตลาดรถใหญ่ส่ง TATA Ultra และ TATA Prima ถล่มคู่แข่ง
การกลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้งของ TATA Motors พร้อมสูคู่แข่งทุกรูปแบบรองรับการใช้งานครบทุกเซกเมนต์ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจรองรับการขนส่งระยะสั้นไปจนถึงการขนส่งระยะไกลเพิ่มความสามารถในการทำกำไรผสมผสานกันอย่างลงตัวสำหรับการใช้งานหลายประเภท เช่น การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผักผลไม้และอื่นๆ อีกมากมาย ต่อยอดการทำธุรกิจได้หลากหลายเปิดประตูสู่โอกาสในการสร้างรายได้และผลกำไรที่สูงขึ้นโดยมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำลงมาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ทันสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง ความทนทาน ความปลอดภัยและความประหยัดที่เหนือกว่า กับ TATA Ultra รถบรรทุกขนาดกลาง และ TATA Prima รถบรรทุกขนาดใหญ่ เริ่มที่
TATA Ultra T.9 รถบรรทุกขนาดกลาง พิกัดบรรทุก 8.9 ตัน เพิ่มผลตอบแทนสูงสุดของคุณในทุกการเดินทาง ด้วยกำลังและแรงบิดที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน สร้างนิยามใหม่ของอุตสาหกรรมการขนส่งในปัจจุบัน ออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าที่คล่องตัว โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลไดเรคอินเจคชั่น เทอร์โบชาร์จ ระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 3.3 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 155 แรงม้า ที่ 2,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตรที่ 1,400 ถึง 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา G550 6 สปีด พร้อมเฟืองท้ายขนาด 4.125 มิลลิเมตร ขณะที่ระบบกันสะเทือนหน้า แบบแหนบพาราโบลิคช่วยเพิ่มความนุ่มนวล และแหนบบรรทุกหนักแบบแข็งแกร่งพิเศษที่ด้านหลังช่วยเพิ่มสมรรถนะในการบรรทุก อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้ต่อเนื่องด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่ 120 ลิตร
TATA Ultra T.14 พิกัดบรรทุก 14.7 ตัน ออกแบบมาเพื่อรับมือกับงานที่ยาก มาพร้อมกับประสิทธิภาพอันทรงพลังเพื่อการเดินทางที่สร้างผลกำไร ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลไดเรคอินเจคชั่น เทอร์โบชาร์จ อินเตอร์คูลเลอร์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 2,400 รอบต่อนาที และแรงบิด 590 นิวตันเมตร ที่ 1,000 ถึง 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังต่อเนื่องด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมเฟืองท้ายขนาด 4.11 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและหลังแบบแหนบพาราโบลิคช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ พร้อมแหนบบรรทุกหนักแบบแข็งแกร่งพิเศษที่ด้านหลังสร้างขึ้นสำหรับถนนที่มีความยากลำบากรวบรวมสมรรถนะพร้อมพละกำลังเพื่อให้คุณเคลื่อนที่ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของคุณด้วยเครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง และการออกแบบที่แข็งแกร่งซึ่งให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน
สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยห้องโดยสารที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยและรู้สึกสบายตลอดการเดินทางไกลแบบ Walkthrough กว้างขวางสะดวกสบายเข้า-ออกง่าย ด้วยเบาะนั่งของผู้ขับขี่ยังเป็นแบบ Suspended Driver Seat มีระบบกันสะเทือน ปรับระดับได้ลดอาการอ่อนล้าของผู้ขับขี่ แผงหน้าปัดมีการแสดงข้อมูลต่างๆทั้งอัตราสิ้นเปลือง สัญญาณไฟแสดงสภาวะการใช้งานต่างๆ มีช่องเก็บสัมภาระต่างๆ หลายตำแหน่ง ที่พักแขน และที่วางแก้วอย่างครบครัน เพื่อให้ความสะดวกสบาย การผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารอย่างเต็มประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบเบรก S-Cam ในรุ่น T.9 และทั้งคู่มาแบบลมล้วน 2 วงจรแยกอิสระ Dual Circuit Full Air มีระบบป้องกันล้อล็อกตาย ABS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยทั้งคนขับและสินค้า
ปิดท้ายด้วยรถบรรรทุกขนาดใหญ่ TATA Prima 5038.S รุ่นเรือธงมาในร่าง 10 ล้อหัวลากแบบ 6×4 พิกัดลากจูง 50.5 ตันคันนี้ นำเสนอความสะดวกสบาย เทคโนโลยีและคุณสมบัติที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับงานด้านโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมและการก่อสร้าง สามารถขนส่งสินค้าหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งประหยัดต้นทุนและเพิ่มรายได้ ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล CUMMINS ISLe 375 ขนาด 8.9 ลิตร ระบายความร้อนด้วยน้ำ ไดเรคอินเจคชั่น เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้าที่ 2,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 1,550 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200 ถึง 1,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังต่อเนื่องด้วยเกียร์ธรรมดา Eaton เดินหน้า 9 สปีด พร้อม Crawler เกียร์ และเฟืองท้ายขนาด 4.55 มม. เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบเบรกลมล้วน All-Air Dual Circuit ที่มาพร้อมระบบ ABS ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแหนบพาราโบลิคช่วยเพิ่มความนุ่มนวล ด้านหลังเป็นแบบ TML Bogie Suspension ให้การดูดซับแรงกระแทกที่เหนือกว่า ทำให้มั่นใจในการขับขี่ที่นุ่มนวลแม้บนพื้นถนนที่มีความขรุขระ
รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ 3 รุ่นใหม่นี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจพร้อมมอบสมรรถนะที่ดีที่สุดในทุกความต้องการของลูกค้ ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ความน่าเชื่อถือ ความสะดวกสบาย โดยทุกรุ่นได้รับการพัฒนาด้วยการวิจัยตลาดเชิงลึกมุ่งเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลักและจะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ให้กว้างขึ้นสอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดในประเทศไทย
นอกจากการเปิดตัวแล้วยังสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน ด้วย TATA Protect แพ็กเกจการบำรุงรักษาและช่วยเหลือลูกค้าในเรื่องการซ่อมแซมที่รวดเร็ว ประกอบด้วยบริการ 6 รายการด้วยกัน ดังนี้ Customer Help Line สายด่วนรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ พร้อมรับฟังปัญหาหรือสามารถให้คำแนะนำด้านบริการกับทางลูกค้าได้, Express Service สามารถรับรถได้ภายในไม่เกิน 2 ชั่วโมง เมื่อนำรถเข้ามารับบริการเช็กระยะที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ
TATA Alert ลูกค้าที่ซื้อแล้วเกิดปัญหาการใช้งานระหว่างทาง สามารถเรียกใช้บริการ Roadside Assistance ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และทางลูกค้าจะได้รับความช่วยเหลือภายใน 1 ชั่วโมง, Wide Network Coverage มีศูนย์บริการ 13 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ, TATA Master Care+ บริการ Service Package Maintenance และขยายการรับประกันอะไหล่รายการหลักเพิ่มเติม, Fleet Edge Telematics แพลตฟอร์มการติดตามยานพาหนะ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการแจ้งเตือน สำหรับลูกค้าที่ต้องการทราบรายละเอียดการขับขี่ของคนขับ รวมถึงสมรรถนะของรถ และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Real Time เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้วางแผนการเดินทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ
เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการ “ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน” รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มือสองแบบไม่ยุ่งยากด้วย TATA OK ซึ่งเป็นบริการแบบครบวงจรที่จะช่วยคุณค้นหารถมือสองที่เหมาะกับธุรกิจ นำเสนอโซลูชันตั้งแต่ต้นจนจบโดยรับประกันความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถบรรทุกมือสอง ขายรถคันเก่า หรือเปลี่ยนรถเป็นคันใหม่ให้เหมาะกับธุรกิจและงบประมาณ ด้วยการตรวจสอบคุณภาพถึง 120 รายการ พบตัวจริงได้ที่งาน Motor Expo 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมที่ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธ B11