นับถอยหลังสู่ความยิ่งใหญ่ของลักชัวรีแวนอย่าง Toyota Alphard และ Toyota Vellfire เจเนอเรชันที่ 4 งานนี้ให้ทั้งความหรูหราความสปอร์ตในคันเดียว
และหลังจากชมภาพหลุดคันจริงจากโรงงาน Toyota ที่มีคนแชะภาพเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ไปแล้วล่าสุดมีคนแชะภาพตัวจริงไม่พรางตัวอยู่บนรถเทรลเลอร์บรรทุกรถยนต์คาดว่าเตรียมส่งไปให้ทางดีลเลอร์ที่ญี่ปุ่นเพื่อเตรียมความพร้อมขึ้นโชว์รูมเผยจริงและส่งมอบให้กับลูกค้าที่จับจองไปแน่นอนว่านำพื้นฐานจาก Lexus LM เจเนอเรชันที่สองมาปรับสไตล์เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมพร้อมโลโก้สามห่วงครั้งแรกที่นำมาใช้ใน Alphard พร้อมไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights ไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบ Sequential กันชนหน้าทรงหรูและกันชนหลัง
ด้านท้ายยังเป็นเอกลักษณ์แต่ว่าดีไซน์ใหม่ดูดีกว่าเดิมด้วยชุดแผงป้ายทะเบียนติดตรา Alphard ที่ออกแบบเว้นช่องว่าของตัวอักษรให้สวยงาม ข้างบนของชุดแผงป้ายทะเบียนติดตราสามห่วงไว้ สองฝั่งประดับด้วยไฟท้าย OLED แบบเป็นเกล็ดเสริมขอบโครเมียมไว้กรอบไฟท้ายรวมถึงด้านข้างเส้นสายเรียบเนียน ล้ออัลลอยมีให้เลือกถึง 3 ขนาดตั้งแต่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/60R18 และใหญ่สุด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19 และหลังคามูนรูฟ 2 บานตรงกลางซ้าย-ขวา
ภายในอลังการกับงานออกแบบเริ่มที่ชุดแผงคอนโซลหน้าที่ไปคล้ายกับ Lexus LM มีจอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ 9.8 กับ 14 นิ้ว ถัดลงมาเป็นปุ่มการทำงานของจอสัมผัสและเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ พร้อมมาตรวัดดิจิทัล และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านออกแบบใหม่ รวมถึงชุดเบาะนั่ง VIP Captain Seat ดีไซน์หรูโอบกระชับกว่าเดิม มีจอการทำงานดีไซน์คล้ายกับสมาร์ตโฟนติดเบาะนั่ง VIP ซ้าย-ขวา สำหรับการปรับเบาะและควบคุมระบบความบันเทิงกับแอร์ได้ พร้อมไฟสร้างบรรยากาศแบบ LED บนหลังคา และ ลำโพงคุณภาพพรีเมียม JBL 15 จุด และลำโพงมาตรฐาน 8 กับ 10 จุดให้เลือก
ขุมพลังที่มีทั้งแบนซินล้วนและเบนซิน Hybrid เป็นเครื่องใหม่ Dynamic Force Turbo ขนาด 2.4 ลิตร T24A-FTS ให้กำลังถึง 279 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 429 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift (ซึ่งจะมาแทนรุ่น 3.5 V6 2GR-FKS Direct Injection Chain Drive VVT-iW & D-4S 296 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตรที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift)
พร้อม HEV-Hybrid เบนซินใหม่ Dynamic Force A25A-FXS 2.5 ลิตร ให้กำลังถึง 189 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 237 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 249 แรงม้าแรงบิด 316 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้ากับขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four
และยังมีเบนซินยอดนิยมขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-I 2AR-FE 180 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด Sequential Shift มาประจำการด้วยเช่นกัน
Toyota Alphard และ Toyota Vellfire เจเนอเรชันที่ 4 เปิดตัวญี่ปุ่น 21 มิถุนายน โดยมีเกรดความหรูตั้งแต่รุ่น Executive Lounge, Z Premier, Z และรุ่น G อาจขยายตลาดไปยังออสเตรเลีย นิวซีแลนด์เช่นเดียวกับ Lexus LM ส่วนเมืองไทยเปิดตัวแน่นอนแต่ว่าใครจะเปิดก่อนระหว่าง Toyota หรือ เกรย์มารเก็ต
ที่มา Creative 311 และ IG Indra_Fathan
