More

    Toyota Corolla Altis GR Sport 2024 หน้าใหม่เก๋งสายหล่อจ่อมาไทยปีนี้

    หลังจากที่ไต้หวันเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ Toyota Corolla Altis GR Sport พร้อมขุมพลังใหม่ 2.0 ลิตรแทนฟูลไฮบริดจนได้รับเสียงตอบรับดี

    Toyotaสำหรับเมืองไทยหลังเผยรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2023 ไปแต่ยอดขายยังตามหลังคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Honda Civic แทบไม่เห็นฝุ่นและในปี 2024 นี้เตรียมที่จะเปิดตัวรุ่นปรับโฉมครั้งแรกภายในปีนี้มีหรือที่ Toyota จะไม่ขยับมีความเป็นไปได้ว่าเตรียมที่จะเผยรุ่นปรับโฉมสำหรับ Toyota Corolla Altis GR Sport รวมถึงปรับออปชันเล็กน้อยสำหรับ Toyota Corolla Altis MY2024 

    ในรุ่น Altis GR Sport อาจหน้าปรับหน้าตาตามสเปกไต้หวัน เริ่มที่หน้าใหม่กระจังหน้าทรงสปอร์ตตกแต่งด้วยสีดำรูปตัวทีออกแบบให้เล็กลรับกับกันชนหน้าออก กันชนหน้าออกแบบใหม่ออกแบบช่องระบายอากาศรังผึ้งรูปตัว G ให้ใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมมีสเกิร์ตในตัว กันชนหลังรับกับสเกิร์ตหลังดีไซน์ใหม่มีลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำออกแบบลงตัว พร้อมสปอยเลอร์หลังดีไซน์บิ๊วอิน ไฟท้าย Full LED รมดำเข้มเร้าใจยิ่งขึ้นและล้ออัลลอยสปอร์ตลายใหม่ 5 ก้านคขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/40 R18

    พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟหน้า Bi-Beam LED Projector ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights ในโคมเดียวกัน ไฟตัดหมอกหน้า LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูนสีดำ ปุ่มล็อกปลดล็อก-ล็อกประตูรถ Smart Entry ในชุดที่ประตูดึงก้านฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ชุดแต่งสเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง และโลโก้ GR Sport ติดท้ายรถและเพิ่มด้านหน้า

    Toyota

    ภายในคงเดิมทั้งจอแสดงผลผู้ขับขี่แบบสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว สามารถปรับแต่งได้หลากหลายสไตล์ปรับได้ตามความชอบกับหน้าจอ 4 สไตล์ Casual, Smart, Tough, Sporty สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย Dual Zone A/C ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่สามารถปรับอุณหภูมิสำหรับผู้โดยสารซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพง 6 จุด ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB-C 4 จุด และ USB-A 1 จุด ระบบ T-Connect และปุ่ม Smart Entry ที่ประตูผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า

    ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยเทคโนโลยี nanoe™X Front Power Seat เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าสีดำตกแต่งด้วยสีแดงดีไซน์สปอร์ตพร้อมโลโก้ GR Wireless Charger อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Head Up Display หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ Tire Pressure Monitoring System แจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ ปุ่ม Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง 3 ก้านปรับได้ 4 ระดับแต่ตัดม่านบังแดดหลัง

    Toyota

    ทางด้านขุมพลังยังคงเป็นเบนซิน Hybrid เจน 4 คงเดิมกับขนาด ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ให้กำลัง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง EV, Power, ECO และ Normal สำหรับรุ่น GR Sport เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยการปรับจูนพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต EPS Tuning แม่นยำยิ่งขึ้น Shock Absorber ดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้น Coil Spring คอยล์สปริงปรับจูนพิเศษ เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล เกาะถนนยิ่งขึ้น Rear Bar Stabilizer ลดอาการโคลงของตัวรถขณะเข้าโค้ง ยึดเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Toyota

    สเปกไทยลุ้นกว่าจะได้ขุมพลังใหม่มาหรือไม่กับเบนซินตระกูล Dynamic Force รหัส M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาทีแรงบิด 200นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบต่อนาที ฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม Paddle Shift

    ส่วนเบนซิน DUAL VVT-I 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 177 นิวตัมเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVTi 7 สปีด Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Sport กับ Normal คาดว่าจะทำตลาดต่อไปและอาจยกเลิกรุ่นเบนซิน 1.6 ลิตร DUAL VVT-I 1ZR-FBE 125 แรงม้าที่ 6,050 รอบต่อนาที แรงบิด 156 นิวตัมเมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVTi 7 สปีด

    ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เป็นออปชันมาตรฐานทั้ง Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed ระบบ Lane Tracing Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน PRE-COLLISION SYSTEM ความปลอดภัยก่อนการชน LANE DEPARTURE ALERT WITH STEERING ASSIST เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ AUTOMATIC HIGH BEAMS ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ

    Toyotaออปชันความปลอดภัยเดิมมีครบทั้ง Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนขณะถอยหลัง และทุกรุ่นได้ Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Hill-start Assist Control ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Back Sonar สัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ Traction Control System ป้องกันล้อหมุนฟรี Vehicle Stability Control ควบคุมการทรงตัว และ ถุงลมนิรภัย SRS 7 จุดรอบคัน คาดว่าภายในปีนี้อาจได้พบกันและถ้ามีความเคลื่อนไหวจะนำมาเสนอในครั้งต่อไป

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts