จากตำนานรถคูเป้ยุค 60 อย่าง Ford Carpi โดดเด่นทั้งคุ้มค่า แรงจัดจ้าน แม้ตำนานนี้จะหายไปกว่า 30 ปี ครั้งนี้นำชื่อ Carpi กลับมาชุบชีวิตอีกครั้ง
มาในร่างใหม่ร่างเอสยูวีในชื่อ Ford Carpi Electric และเป็นรถใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือของ Volkswagen Group ในการพัฒนาร่วมกันตามแผนการเปิดตัวรถใหม่อีวีของค่าย 9 รุ่นภายในปีนี้แบ่งเป็นรถเอสยูวี 4 รุ่น และรถเพื่อการพาณิชย์ 5 รุ่น
ภายนอก Exterior
ฟาสท์แบ็กเอสยูวีคันนี้หล่อเหลาเอาเรื่องเลยทีเดียวตั้งแต่ ไฟหน้าคู่แบบ LED และมีแบบ Matrix LED ให้เลือก พร้อมไฟ DRL LED คู่บนล่างในชุดไฟหน้าโคมเดียวกัน ย้อนนึกถึง Carpi เจนแรกที่เป็นแบบไฟหน้ากลม 4 ดวง ประกบกันอย่างลงตัวกับกระจังหน้าทรงทึบสีดำติดตรา Ford มีชื่อ Carpi ปักในชื่อกันชนหน้าดีไซน์เด่นพร้อมช่องระบายอากาศสีดำในตัวชุดกันขน
ด้านข้างดีไซน์แยบยลกระจกโอเปร่าใหญ่ตกแต่งกรอบสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและเสา A ตกแต่งสีดำ คิ้วชายล่างและคิ้วขอบล้อตกแต่งสีดำ ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED เส้นแนวนอนบนล่างคล้ายกับ Carpi เจนที่ 3 พร้อมกรอบสีดำลากยาวครอบทับฝังตราชื่อ Carpi เข้าเพิ่มความสวยงามไปอีกแบบฝาท้ายไฟฟ้าเปิดปิดด้วยการเตะ ล้ออัลลอยเลือกได้ 3 ขนาดตั้งแต่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 235/55 R19 และยางหลัง 255/50 R19 ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 235/50 R20 ยางหลัง 255/45 R20 และใหญ่สุด 21 นิ้ว พร้อมยางหน้า 235/45 R21 และยางหลัง 255/40 R21
มิติตัวรถ Dimension
จากแพลต์ฟอร์ม MEB electric car architecture ที่ใช้ร่วมกันกับ Volkswagen ID.5 ทำให้มีมิติตัวรถที่ใหญ่ดังนี้
- ความยาว 4,634 มิลิเมตร
- ความกว้าง 2,063 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,626 มิลลิเมตร
- น้ำหนักระหว่าง 2,098 ถึง 2,174 กิโลกรัม
ภายใน Interior
ทันสมัยตามการเปลี่ยนแปลงของยุคแถมยังคล้ายกับ Ford Explorer EV ด้วยห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง นั่งสบายด้วยวัสดุหนัง กับโครงเบาะทรงสปอร์ต ส่วนเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการขนของมากถึง 1,505-1,510 ลิตร ในตอนพับเบาะแต่ถ้าไม่พับจะมีพื้นที่ 622-627 ลิตร พร้อมการตกแต่งที่หรูหรากับแผงคอนโซลหน้ารูปตัวที ดีไซน์คล้ายกับรถไฟฟ้า Mercedes-Benz EQ โดยมีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 5 นิ้ว ลอยตัว ให้ข้อมูลการขับขี่ ระดับการชาร์จแบตเตอรี่ และสถานะความช่วยเหลือผู้ขับขี่
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว สามารถสไลด์ยกขึ้น-ลงได้เป็นฝาปิดในตัวรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สายพร้อมลำโพงคุณภาพและซับวูฟเฟอร์รวมกัน 7 จุดและ 10 จุด จาก Bang & Olufsen กุญแจแบบ keyless entry เครื่องปรับอากาศแบบดูอัลโซนแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ไฟสร้างบรรยากาศภายใน 10 สี หรือ Ambient light พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ head-up display และหลังคากระจกขนาดใหญ่ Panorama glass roof มีเฉพาะบางรุ่น
ขุมพลัง Performance
แน่นอนว่าเป็นไฟฟ้าล้วนที่ให้ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทุกรุ่น มีด้วยกัน 2 ทางเลือก ตั้งแต่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC 77 kWh ให้กำลังถึง 286 แรงม้า แรงบิด 545 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 627 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.4 วินาทีสามารถชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC และ กระแสสลับ AC กำลังสูงสุด 11 kW โดยชาร์จ DC รองรับกำลังการชาร์จ 135 kW จาก 10-80% ทำได้ในเวลา 28 นาที
และส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC 79 kWh แรงบิดล้อหน้า 134 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 340 แรงม้า แรงบิดรวม 545 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 592 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.3 วินาทีสามารถชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC และ กระแสสลับ AC กำลังสูงสุด 11 kW โดยชาร์จ DC รองรับกำลังการชาร์จ 185 kW จาก 10-80% ทำได้ในเวลา 26 นาที
ความปลอดภัย Safety
มาแบบจัดเต็มกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วยเซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว กล้อง 5 ตัว และเรดาห์อีก 3 ตัว ทำงานแบบ 360 องศา พร้อมออปชันเสริม Driver Assist Pack ทั้ง ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Park Assist ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Assisted Lane Change และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา 360-degree camera และยังมีออปชันความปลอดภัยมาตรฐานดังนี้
- เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information System
- แจ้งเตือนขณะเปิดประตู Clear Exit Warning
- แจ้งเตือนเมื่อรถเข้าโค้งพร้อมระบบเบรกแบบแอ็กทีฟ Cross Traffic Alert with Active Braking
- เตือนความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driver Alert
- ช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า Evasive Steering Assist
- สัญญาณกะระยะการจอดหน้า-หลัง Front and rear parking sensors
- ควบคุมความเร็วคงที่อัจฉริยะพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go Intelligent Adaptive Cruise Control with Stop and Go
- เตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane-Keeping Aid
- เตือนก่อนการชน Pre-Collision Assist
- กล้องมองหลัง Rear-View Camera
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง Reverse Brake Assist
- โหมดควบคุมการขับขี่Selectable Drive Modes
- อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- เตือนคนขับไม่ให้ขับรถย้อนศร Wrong Way Alert
รถอีวีรุ่นใหม่ลำดับที่ 4 ต่อจาก Ford PUMA EV, Ford Mustang Mach-E และ Ford Explorer EV อย่าง Ford Carpi Electric เตรียมเปิดราคาในยุโรปภายในปีนี้ ประเดิมที่อังกฤษช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้
ทีมา Media Ford
