More

    Mazda 3 MY2025 ลุคใหม่หน้าเดิมขายมะกันเริ่ม 8 แสนกว่าบาท

    Mazda อเมริกากระตุ้นตลาดเก๋งอีกครั้งเปิดตัว Mazda 3 MY2025 และราคาจำหน่ายถูกกว่ารุ่นเดิมนอกจากนี้มีการเพิ่มรุ่นเริ่มต้นใหม่ 2.5 S Hatchback

    Mazda

    ถึงจะเพิ่มรุ่นแต่ทุกอย่างเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนทั้งกระจังหน้า Signature Wing ไฟหน้า Projector แบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Lamp แบบ Signature ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS ไฟท้าย LED ทรงกลมโดนัท 2 ดวง กระจกมองข้างทรงสปูนปรับพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว กล้องมองภาพรอบคัน สัญญาณกะระยะถอยจอดรวมกัน 10 จุด ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เสาอากาศฝังกระจกหน้า ล้ออัลลอยเลือกได้สองขนาดทั้ง 5 ก้านคู่ 18 นิ้วพร้อมยาง 215/45R18 กับขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/60R16

    Mazdaภายในหรูเข้มด้วยคอนโซลหน้าเน้นแนวสปอร์ต จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Active Driving Display ซ่อนมุม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8.8 นิ้ว พร้อมระบบความบันเทิง Mazda Connect ลำโพงคุณภาพจาก BOSE ที่มากถึง 12 จุด เครื่องปรับอากาศแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา เบรกมือไฟฟ้าพร้อมปุ่ม Hold Brake และเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทาง ทำงานคู่กับระบบบันทึกความจำ 2 ตำแหน่ง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า

    แรงเร้าใจด้วย SKYACTIV-G เบนซิน​ขนาด 2.5 ลิตร ในรหัส PY-RPS ให้กำลังมากขึ้นเป็น 194 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังพัฒนายังได้ทำการปรับปรุงระบบพักการจุดสันดาปในบางลูกสูบ หรือ“Cylinder-Deactivation” หรือก็คือให้สามารถทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพและถูกจังหวะเวลามากขึ้น ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมโดยระบบนี้จะอยู่ในรุ่น SKYACTIV-G 2.5 ลิตร

    Mazdaแรงสุดขนาด 2.5 ลิตร SKYACTIV-G Turbo รหัส PY-VPTS ให้กำลังสูงสุด 253 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 433 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ทุกขนาดความแรงมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT และ เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีดและเลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้ากับขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ all-wheel driveและความปลอดภัยเต็มคัน i-Activsense ควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ยังเช่นเดิม

    MazdaMazda 3 MY2025 มาทั้งหมด 13 รุ่นย่อยในรุ่นซีดาน 6 รุ่นย่อยเริ่มต้น $23,950- $35,800 หรือราว 885,000-1,319,000 บาท และรุ่นแฮทช์แบก 7 รุ่นย่อยรวมรุ่นใหม่ 2.5 S เริ่มต้น $24,950- $36,900 หรือราว 919,000-1,359,000 บาท ส่วนสีภายนอกรถมีการเพิ่มเงินเล็กน้อยเริ่มที่สีแดง Soul Red สีเทาเข้ม Crystal Metallic และสีเทา Machine Grey Metallic เพิ่มเงินอีก $ 595 หรือราว 21,900 บาท ส่วน สีเทา Polymetal Grey Metallic, สีขาวมุก Snowflake White Pearl Mica และ สีขาว Ceramic Metallic มีราคาเพิ่ม $  450 หรือราว 16,700 บาท

    ที่มา motor 1

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts