More

    Toyota Crown Signia สายหรูทรงลุยขายแดนมะกันกลางปีหน้า

    กลับมาบุกตลาดสหรัฐอเมริกาสำหรับ Toyota Crown รถหรูเจ้าของตรามงกุฎด้วยการเปิดตัวเวอร์ชันครอสโอเวอร์หลังคาคูเป้และล่าสุดกับ Toyota Crown Signia

    Toyota

    เอสยูวีทรงกล่องฉีกภาพลักษณ์เดิมๆออกไปหน้าตาพิมพ์เดียวกันด้วยติดตราสามห่วงบนฝากระโปรงหน้ารถ กระจังหน้าแบบกริตเตอร์ขอบเล็กๆสีดำดำพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่แบบรังผึ้งและข้างล่างสีดำขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตที่ดีไซน์มีส่วนเว้าตรงกลางขนาดใหญ่ ด้านข้างตกแต่งด้วยแถบข้างประตูสีดำด้าน คิ้วขอบล้อสีดำเงาบริเวณล้อทั้ง 4 ไฟหน้าเรียวยาวแนวนอน แบบ Bi-LED ปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมระบบ Automatic High Beam ไฟเลี้ยววิ่งแบบ Sequential Light และไฟ DRL ในชุดเดียวกัน พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟท้าย Combination แบบ Full LED ลากยาวจากซ้ายไปขวาพร้อมกันชนที่มีส่วนเว้าโค้งรับเข้ากับบั้นท้ายของตัวรถ ติดตราสามห่วงขนาดเล็ก ถัดลงมาเป็นชื่อสัญลักษณ์ Crown แบบเว้น พร้อมสปอยเลอร์ติดไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED แนวยาวและเสาอากาศครีบฉลามเสริมหล่อ

    ตกแต่งด้วยเส้นสีดำเข้มด้านล่างกรอบประตูลากยาวต่อเนื่องหลังคาดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ มือจับประตู ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 235/45R21 จาก Michelin e-Primacy และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/45R19 กล้อง 360 องศารอบคัน อำนวยความสะดวกมากขึ้นด้วยฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick Censor หลังคารถแบบ Panoramic Moonroof สร้างจากแพลตฟอร์ม TNGA-L พื้นฐานเดียวกันกับ Lexus LS กับ  Toyota Mirai ด้วยความยาว 4,930 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร ความสูง 1,620 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร

    ภายในยกมาจาก Toyota Crown Crossover, Sport และ Sedan ตั้งแต่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งโลโก้ตรามงกุฎสำหรับสเปกญี่ปุ่นและโลโก้สามห่วงสำหรับทั่วโลก พร้อมจอทัชสกรีนคู่ 12.3 นิ้ว ที่มีทั้งมาตรวัดดิจิตอลและจอสัมผัสควบคุมระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อในชุดจอเดียวกัน เชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlayไร้สาย Android Auto พร้อมลำโพง 6,10 และมากถึง 11 จุด จาก JBL เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 จุดทั้งด้านหน้าซ้ายขวาและด้านหลังหนึ่งจุด และเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของได้สะดวก

    Toyotaขุมพลังที่จำหน่ายในอเมริกามีเฉพาะ Hybrid HEV ตั้งแต่ เบนซิน Dynamic Force Hybrid 2.5 ลิตร A25A-FXS ให้กำลังถึง 186 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตรที่ 3,600 ถึง 5,200 รอบต่อนาที จากเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 3NM และ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังถึง 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ามากถึง 249 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD E-Four Advanced จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT เลือกได้สี่โหมดสำหรับการขับขี่ EV, Normal, Eco และ Sport

    เบนซินเทอร์โบ Hybrid MAX รหัส T24A-FTS 2.4 ลิตร ให้กำลัง 272 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 460 นิวตันเมตร ที่ 2,000 ถึง 3,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดย โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 1ZM ให้กำลัง 61 แรงม้า แรงบิด 292 นิวตันเมตร และล้อหลัง 1YM 59 แรงม้า แรงบิด 169 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงถึง 350 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift  6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four Advanced AWD

    Toyota

    พร้อม ความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ครบครันด้วย Automatic High Beam ลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน, Dynamic Radar Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า, Road Sign Assist ช่วยสังเกตป้ายสัญญาณเตือน, Pre-Collision System with Pedestrian Detection เตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับ, Lane Departure Alert with Steering Assist ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมฟังก์ชันหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ, Lane Tracing Assist ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง, Blind Spot Monitor แจ้งเตือนมุมอับสายตา, Rear Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง, Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ, Front Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะเดินหน้า, Lane Change Assist ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, Front and Rear Parking Assist with Automatic Braking ช่วยจอดหน้าและหลังอัจฉริยะพร้อม ช่วยเบรกอัตโนมัติToyotaToyota Crown Signia เปิดขายและเปิดราคาที่สหรัฐอเมริกาช่วงกลางปี 2024 ราวๆเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม และโชว์ตัวที่งาน LA Auto Show 2023 ระหว่างวันที่ 17-26 พฤศจิกายนและประเทศญี่ปุ่นจะเปิดตัวช่วงปี 2024

    ที่มา Motor 1

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts