เชื่อว่าผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนอย่างน้อยต้องเคยได้รับใบสั่งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกันสักครั้งในชีวิตแน่ๆ บางคนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราทำผิดอะไร ผิดตอนไหน ใบสั่งก็มาส่งที่บ้านแบบงงๆ จนทุกวันนี้เวลาเจอตำรวจหรือกล้องวงจรปิดตรวจจับความเร็วก็ถึงกับหลอนกันเลยทีเดียว วันนี้เรามารวบรวมข้อหาสุดฮิต ที่คนส่วนใหญ่ทำผิดกฎจราจรจนโดนสั่งปรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกันดู ว่ามีอะไรบ้าง
ขับรถเร็วเกินกำหนด อัตราโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ความเร็วสูงสุดที่กฎหมายในเขตเมืองกำหนดนั้นจะอยู่ที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนนอกเมืองนั้นจะอยู่ราวๆที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งในบางพื้นที่ก็จะมีป้ายบอกกำหนดความเร็วแตกต่างกันออกไป แต่แน่นอนในชั่วโมงเร่งด่วนหรือมีธุระที่ต้องรีบไปก็ต้องทำความเร็วกันนิดนึง จนบางทีก็ต้องแอบฝ่าฝืนกฎจราจรใช้ความเร็วเกินกว่ากำหนด ต่อให้เล็ดลอดจากสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ แต่ยังไงก็หนีไม่พ้นเรดาร์ของเจ้ากล้องตรวจจับความเร็วได้นะจ๊ะ เพราะนั้นรอก็รับใบสั่งเดลิเวอรี่กันได้เลย
ฝ่าไฟแดง อัตราโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
สำหรับคนรีบมากไปอีกหนึ่งข้อหา คือการฝ่าไฟแดง ซึ่งข้อนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่อันตรายระดับนึงเลยนะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากการฝ่าไฟแดงนี่สูงอยู่ 1 ใน 5 ของประเทศเลย เข้าใจความใจร้อนของผู้ที่ฝ่าไฟแดงเลยนะ เพราะในบ้านเราบางแยกนี่ ไฟแดงนานเป็นชาติอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่แนะนำให้รีบถึงขั้นต้องฝ่าออกไปนะคะ เพราะทั้งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่คุ้มเลยจริงๆ ถ้าใจเย็นกันสักนิดก็ไม่ต้องเสียค่าปรับกันแล้วหละ
จอดรถในที่ห้ามจอด อัตราโทษ ปรับไม่เกิน 500 บาท
แค่เพียงไม่กี่นาที อาจจะมีกระดาษขาวมาเสียบไว้หน้ารถคุณก็เป็นได้ หรือถ้าหนักๆเลย ก็อาจจะมีการล็อคล้อหรือยกรถไปโรงพักกันเลย ในบ้านเรานั้นที่จอดรถริมถนนโดยเฉพาะในเขตเมืองนั้นก็หายากมากๆ จึงทำให้ผู้สัญจรที่จะต้องทำธุระตรงจุดนั้นๆ เลยลักไก่ขอแปะรถไว้สักเดี๋ยวในเขตห้ามจอด ซึ่งกฎหมายก็ได้ระบุและทำสัญลักษณ์เอาไว้ทั้งสีที่ทาทางฟุตบาท หรือป้ายห้ามจอดต่างๆ ซึ่งก็จะมีเวลาบอกเป็นบางพื้นที่ว่าสามารถจอดได้เวลาใดบ้าง อันนี้ควรสังเกตให้ดี แต่ยังไงคุณก็ไม่สามารถเล็ดลอดจากสายตาอันเฉียบแหลมจากเจ้าหน้าที่ได้อีกเช่นกัน เพราะฉะนั้น เสียเวลาหาที่จอดสักนิด เดินไกลนิดหน่อย จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับและถูกหักคะแนนวินัยระเบียบของใบขับขี่กันนะจ๊ะ
ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ อัตราโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ข้อหานี้ตำรวจหลายๆพื้นที่ก็ยังพออนุโลมเยอะอยู่นะ ซึ่งในปัจจุบันแทบจะทุกคนเลยที่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หากเจ้าหน้าที่ท่านใดพบเห็นหรือเคร่งในกฎหมายข้อนี้ รับรองว่าคุณโดนโบกเรียกจอดแน่ๆ และถ้าสอบสวนแล้วว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้โทรศัพท์ในขณะนั้น ก็จะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย ทางที่ดีไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถนะ เพราะทั้งเป็นอันตรายเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ และเสียสมาธิในการขับรถอีกด้วย
ขาดต่อภาษีประจำปี อัตราโทษ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
หากเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับด่านตรวจ เมื่อถูกเรียกแล้ว เราเดาว่าอันดับแรกๆเลยที่เจ้าหน้าที่จะมองก็น่าจะป้ายภาษีที่แปะอยู่กระจกหน้ารถแทบจะทุกคัน ถ้าหากขาดการต่อภาษีประจำปีหรือหมดอายุ ถึงจะแค่หลักวันยังไงก็โดนปรับ ดังนั้นควรต่อภาษีให้เรียบร้อยทุกครั้ง ข้อหานี้อาจไม่เป็นความตั้งใจของเรา แต่สามารถแก้ไขได้โดยเลือกตัวแทนที่ใส่ใจดูแลลูกค้าเป็นพิเศษ และสามารถแจ้งเตือนเราได้เมื่อใกล้หมดอายุ หากต่อภาษีเรียบร้อยแล้วก็ควรมาติดเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่ถูกปรับกันอีกนะคะ
สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากนั้นก็คือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำตามหน้าที่ซึ่งมีกฎหมายที่เป็นรูปธรรม สามารถเอาผิดคุณได้จริงๆ ถ้าหากเราปฎิบัติตัวตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ยังไงก็ตามเราก็จะไม่มีความผิด ถูกจับ ถูกปรับกันให้เสียเงิน เสียอารมณ์ เพราะฉะนั้นการปฎิบัติตามกฎนั้นก็อยู่บนพื้นฐานของผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่แล้ว อย่าฝ่าฝืน เพราะอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้นะคะ
