ด้วยสภาพอากาศแสงแดดในประเทศไทย ที่แม้แต่อยู่ภายใต้หลังคารถ ก็ยังร้อนเข้าไปถึงกระดูกเลยก็ว่าได้ แต่ตัวช่วยชั้นยอดสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ก็คงจะต้องพึ่งพา “ฟิล์มติดกระจกรถยนต์” ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณจากรังสียูวีได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิภายในห้องโดยสารสูงขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฟิล์มติดกระจกรถยนต์มีหลายประเภท เลยทำให้ผู้ที่ต้องการจะติดฟิล์มถึงกับสับสน เลือกไม่ถูกกันเลยว่าจะใช้ยี่ห้อไหนดี วันนี้ Car2Day ได้ค้นหาอันดับฟิล์มติดรถยนต์ยอดนิยม 5 อันดับต้นๆ ที่จะมาช่วยเป็นแนวทางในการเลือกใช้ของคุณกันค่ะ
วิธีการเลือกฟิล์มติดกระจกรถยนต์
เนื่องจากฟิล์มติดกระจกรถยนต์มีหลายประเภท ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้น เรามาดูประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากแสงแดดของฟิล์มติดกระจกแต่ละประเภทกันก่อน
เช็คความสามารถในการตัดแสงของฟิล์มติดกระจกรถยนต์ ในการเลือกฟิล์มติดกระจกรถยนต์ การตรวจสอบอัตรากรองแสงคือส่วนสำคัญอย่างนึง โดยเราสามารถแบ่งรังสีจากดวงอาทิตย์ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ รังสีอินฟราเรด (Infrared), แสงที่ตามองเห็น (Visible Light) และรังสี UV (Ultraviolet Light)
- ฟิล์มติดกระจกที่ป้องกันรังสีอินฟราเรดและแสงที่ตามองเห็น
เนื่องจากรังสีอินฟราเรดมีส่วนทำให้อุณหภูมิภายในรถสูงขึ้น จึงควรเลือกใช้ฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่สามารถกันรังสีอินฟราเรดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนที่อุณหภูมิจะสูงที่สุด ซึ่งคุณสมบัติในการป้องกันรังสีอินฟราเรดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอร์ในรถให้เย็นเร็วได้ รวมถึงป้องกันไม่ให้เรซินบริเวณแผงคอนโซลรถเสื่อมสภาพได้อีกด้วย โดยเลือกฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มี ค่าป้องกันรังสีอินฟราเรดตั้งแต่ 95% ขึ้นไป และยิ่งหากมีค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดต่ำกว่า 0.8 ลงไป ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นอีกด้วย
และนอกจากรังสีอินฟราเรดแล้ว การป้องกันความร้อนจาก “แสงที่ตามองเห็น” (Visible Light) โดย ใช้ฟิล์มที่มีสีเข้ม ก็จะช่วยได้ หากติดฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มีสีเข้มมากเกินไปก็อาจทำให้การมองเห็นในเวลากลางคืนไม่ชัดเจนได้ เพราะฉะนั้นควรเลือกความเข้มตามความเหมาะสมของสายตาจะดีที่สุด
เช็คค่าป้องกันรังสี UV ที่ส่งผลต่อผิวและดวงตา
รังสี UV คือ รังสีจากดวงอาทิตย์ถึงผิวโลกในฤดูต่างๆ จะมีจำนวนแตกต่างกัน ระดับความสูงพบว่าที่สูงจะมากกว่า เวลาเที่ยงจะสูงสุด อีกทั้งการสะท้อนต่อผิววัตถุก็มีส่วนเพิ่มปริมาณรังสีจากผิวที่ต่างกันในจำนวนที่ต่างกัน โดยพบว่าถ้าเป็นผิวหิมะสะท้อนได้ถึง 60 – 80% หาดทรายประมาณ 15% ผิวน้ำทะเลประมาณ 5% ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้รังสียูวีทำลายดวงตาได้ต่างกัน คุณจึงควรมองหาฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่สามารถป้องกันหรือกรองรังสี UV ได้ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันจะมีฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มีค่าป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 99% อยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นอกจากรังสี UV จะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังอาจส่งผลต่อวัสดุภายในรถของคุณได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะแผงคอนโซล พวงมาลัย อุปกรณ์ที่เป็นพลาสติกต่างๆภายในรถ ทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย อีกทั้งรังสียูวียังทำให้สีของเบาะตกหรือซีดจางลงได้อีกด้วย ดังนั้น ควรเลือกฟิล์มที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง จะดีที่สุด
เลือกสีและคุณสมบัติของฟิล์มติดกระจกรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์สีควันบุหรี่และสีดำ ป้องกันแสงแดด เพิ่มความเป็นส่วนตัว
หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวภายในรถ โดยไม่ต้องการให้คนภายนอกสามารถมองเข้ามาได้ แนะนำให้ติดฟิล์มติดกระจกรถยนต์สีควันบุหรี่หรือสีดำ เพราะจะช่วยให้มองเห็นภายในรถได้ยาก แล้วยังสามารถใช้ป้องกันการโจรกรรมได้อีกด้วย ถ้าฟิล์มอย่างดีก็สามารถมองเห็นภายนอกได้ชัดเจนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากฟิล์มติดกระจกรถยนต์มีความเข้มสูง ก็อาจมืดเกินไปสำหรับการขับขี่ตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ไม่มีเสาไฟ ดังนั้น ระดับความเข้มจึงไม่ควรเกิน 60%
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบใส มองเห็นภายในรถได้
เป็นความพอใจ ความชอบส่วนบุคคล อาจจะไม่ได้อยากให้ใครมามองเห็นภายในรถสักเท่าไรหรอก เพียงแต่ต้องการวิสัยทัศน์ในการขับรถให้ชัดเจน ก็ขอแนะนำฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบใส ถึงแม้ฟิล์มจะมีความโปร่งใส แต่ก็สามารถทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอุณหภูมิที่สูงขึ้นภายในรถจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาได้ และแน่นอนว่าฟิล์มประเภทนี้ก็สามารถปกป้องคุณจากรังสี UV ได้เช่นกัน หมดห่วงเรื่องอันตรายจากรังสี UV ได้เลย และเนื่องจากฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบใสมีค่าแสงส่องผ่านสูง จึงช่วยให้คุณมองเห็นด้านนอกได้ง่ายกว่าฟิล์มติดกระจกรถยนต์สีควันบุหรี่หรือสีดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนหรือบริเวณที่ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์นิรภัย
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์นิรภัย ในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยฟิล์มติดกระจกนิรภัยนั้น มีคุณสมบัติแตกต่างจากฟิล์มประเภทอื่นๆ คือ มีความหนาและแข็งแรงทนทาน ซับแรงกระแทกได้มีความยืดหยุ่นสูง จึงช่วยป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรายจากเศษกระจกหากมีการแตกตัวหรือกระแทกจากอุบัติเหตุได้ แต่ข้อเสียนั้นก็คือ ไม่สามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสี UV ได้มากเท่ากับฟิล์มประเภทอื่นๆ แต่หากเราเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก อันนี้ก็เป็นตัวเลือกนึงที่เหมาะสม
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบสี
สำหรับคนที่ชอบแต่งรถ สรรหาอะไรที่ไม่เหมือนใครมาตกแต่ง ชอบฟิล์มแบบตะกั่ว หรือมีเฉดสีรุ้ง โฮโลแกรม ต่างๆ ก็สามารถเลือกใช้ได้เช่นกัน โดยคุณสมบัติของฟิล์มชนิดนี้ก็สามารถป้องกันรังสิอินฟราเรดและรังสี UV ได้ไม่ต่างกันฟิล์มของชนิดนั้นๆ เพียงแค่จะมีสีสันขึ้นมาอีกนิดนึง
5 อันดับฟิล์มติดรถยนต์ ยอดนิยม
1.Hi-Kool – ฟิล์มกรองแสง รุ่น Black Carbon
นวัตกรรมใหม่ล่าสุด จากผู้เชี่ยวชาญด้านฟิล์มกรองแสงตัวจริง Hi-Kool Black Carbon Serie ฟิล์มคาร์บอนสีดำสนิท ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ให้รถของคุณดำสนิทจากภายนอก และใสเคลียร์จากภายใน ป้องกันรังสี UVA, UVB ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนังได้ 99.99% และกันรังสีความร้อน (Infrared) สูงสุดมากถึง 80% เทคโนโลยีการคัดกรองอนุภาคของคาร์บอนที่มีขนาดเล็กในระดับนาโน (10-9m) นำมาผ่านกระบวนการผลิตฟิล์มกรองแสงร่วมกับแผ่นโพลีเอสเตอร์ (P.E.T.) ชนิดใสพิเศษจนได้แผ่นฟิล์มกรองแสงที่ใส เคลียร์ สอดรับกับประสิทธิภาพของการขับขี่รถยนต์ ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว
คุณสมบัติของฟิล์ม
– กันความร้อนจากแสงแดด สูงสุด 75%
– กันรังสี Infrared สูงสุด 80%
– ไม่รบกวนสัญญาณ Easy Pass และสัญญาณดิจิตอลทุกชนิด
– อัตราการสะท้อนแสงต่ำ ไม่รบกวนทัศนวิสัยในการขับขี่บนท้องถนน
2.PRO SHIELD – ฟิล์มกรองแสง รุ่น Black Carbon
ใช้เทคโนโลยีการเคลือบผง Nano Carbon บนชั้นฟิล์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน ช่วยกรองแสง ป้องกันรังสี UV 99% สวยเข้มจากภายนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัว เนื้อฟิล์มเคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วน มีความทนทานสูง สีไม่ซีดจาง ผ่านได้ทุกสัญญาณดิจิตอล เช่น GPRS / GPS / EASY PASS รับประกันคุณภาพฟิล์มนาน 5 ปี
คุณสมบัติพิเศษของฟิล์ม
– ป้องกันความร้อน
– ป้องกันรังสี UV 99%
– เคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วน
– เพิ่มความเป็นส่วนตัวจากภายนอก
– เนื้อกาวชนิดพิเศษ ทนทาน
– ได้รับมาตรฐานสากล รับประกันสินค้าสูงสุด 5 ปีเต็ม
3.Hi-Kool – ฟิล์มกรองแสง รุ่น Ceramic Black Night
ฟิล์มเซรามิคดำ ผลิตจาก Nano พร้อมป้องกันรังสียูวีได้สูง ทำให้ขับขี่สบายตาทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่รบกวนสัญญาดิจิตอลต่างๆ ฟิล์มไฮคูล เซรามิค แบล็คไนท์ เสริฟความเป็นส่วนตัวด้วยความดำนอก สว่างใน ยังให้ความเคลียร์ ชัด ด้วยความเข้ม 3 ระดับ คือ 40%, 60% และ 80% ไม่กีดกั้นสัญญาณดิจิตอล ทุกสัญญาณดิจิตอลที่สำคัญต่อการเดินทางในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น GPS, Easy Pass ฟิล์มไฮคูล เซรามิค แบล็คไนท์ ผ่านได้ทุกข้อจำกัด
คุณสมบัติของฟิล์ม
– Night Vision ทัศนวิสัยในการขับขี่ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน
– ไม่กีดกั้นสัญญาณดิจิตอลต่าง ๆ เช่น GPS, Easy Pass
– ป้องกันรังสี UV สูงถึง 99%
– ลดแสงจ้าตอนกลางวัน
– รับประกันคุณภาพนาน 7 ปี
4.Lamina – ฟิล์มกรองแสง รุ่น ANL05N
รุ่น ANL05N สีควันบุหรี่เข้ม ตัวนี้สามารถลดความร้อนจากแสงแดดได้ดีมาก เนื่องจากเนื้อฟิล์มค่อนข้างจะเข้ม และมีการเคลือบปรอทสะท้อนแสงอยู่พอสมควร ทำให้มีอัตราการกันความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับติดบานข้างรถยนต์ หรือ กระจกของบ้านที่กระทบแสงโดยตรง แต่ต้องเช็ค ระวังเรื่องการสะท้อนแสง อาจจะรบกวนคนอื่นภายนอกได้
คุณสมบัติของฟิล์ม
– ลดความร้อนจากแสงแดด = 66%
– การลดความร้อนจากสปอตไลท์ = 84%
– แสงส่องผ่านเข้ามา = 11%
– ลดค่ารังสียูวี = 99%
– สะท้อนแสง = 26%
5.US GUARD – ฟิล์มกรองแสง รุ่น US-BK80
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์จาก US GUARD รุ่นนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันอย่างดีเยี่ยม โดยมีความเข้มมากถึง 80% ช่วยลดทั้งความร้อนและแสงที่ผ่านเข้ามาในรถได้ดี ทั้งยังป้องกันทั้งรังสีอินฟราเรดและรังสี UV จึงไม่ทำให้คุณรู้สึกร้อนขณะขับขี่ นอกจากนี้ เนื้อฟิล์มยังมีความยืดหยุ่นและอ่อนนุ่ม แนบติดและยึดเกาะกับกระจกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
คุณสมบัติของฟิล์ม
– การส่งผ่านแสงที่มองเห็นได้ 5%
– แสงส่องผ่านเข้ามา 9%
– สะท้อนแสง 11%
– ลดค่ารังสียูวี 99%
ฟิล์มติดกระจกรถยนต์หากเมื่อติดตั้งแล้วต้องใช้งานไปอีกเป็นเวลาหลายปี ก่อนซื้อควรคำนึงถึงการใช้งานในระยะยาวเป็นหลัก ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสมและไม่บดบังวิสัยทัศน์จนเกินไป และเมื่อถึงเวลาหมดอายุก็ควรที่จะเปลี่ยน อย่าไปเสียดายเงิน เพราะเป็นสิ่งที่ป้องกันความปลอดภัยในตัวรถและตัวคุณได้เช่นกัน
