หลังจากเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมไม่นานมานี้ ก็มีกระแสบวกและกระแสลบออกมาไม่หยุดพักจากพลังความสวยและสมรรถนะที่ยังไม่สุดของ ALL NEW MG 5 ที่ยังคงเป็นที่วิพากวิจารย์อย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ หลายรีวิวก็ออกมาให้เห็นกันเต็มไปหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจสำหรับคนที่เล็งเอาไว้อยู่ อยากจะหาเหตุผลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจอีก ว่าควรจะซื้อหรือพอแค่นี้ดี วันนี้ Car2Day เราหาเหตุผลมาช่วยคุณตัดสินใจแล้วครับ
สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับตัว NEW MG5 นี้เป็นอย่างมากก็คือ ราคาค่าตัวที่ถูกเกินหน้าเกินตาไปมาก ด้วยดีไซน์ที่หลายๆคนเอาไปเทียบกับ Mercedes – Benz CLA CLASS ว่าหน้าคล้ายกันอย่างกับแฝด ดีไซน์หรูทั้งภายในและภายนอกขนาดนี้ เปิดตัวมาเพียงแค่ 559,000 บาท เท่านั้น จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกันนั้น ถือว่าเปิดราคามาสวยกระชากใจกันเลยทีเดียว
มาดูทั้ง 8 เหตุผลที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจของคุณในครั้งนี้กันดีกว่าถ้าหากถอย MG5 คันนี้มานั้นจะเหมาะสมกับการใช้งานของคุณขนาดไหน
เรื่องหน้าตาเป็นเรื่องความชอบเฉพาะบุคคลจริงๆนะ บางกระแสก็บอกว่าสวยเท่ห์ หน้าตาดูสปอร์ต ทันสมัย รูปทรงโฉมใหม่หมด ดูพรีเมี่ยม หรูหรา แต่อีกกระแสก็นำไปเปรียบเทียบกับ Mercedes – Benz CLA Class ที่บอกว่าหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ เลียนแบบ บลาๆ ด้วยความอคติบวกกับทัศนคติติดลบกับตัวค่ายแล้วนั้น ต้องบอกว่าไม่มีข้อใดผิด รูปทรงหน้าตารถอาจจะคล้ายกับได้ทั่วไปเป็นปกติ ซึ่งถ้าคุณไม่ติดตรงนี้ ก็ถือว่าหากใครชอบในรูปทรง หน้าตาแบบนี้ ก็ไม่แย่สักเท่าไร
ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร MG5 2021 ในรุ่นย่อย C และ D
ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร MG5 2021 ในรุ่นย่อย X
2. ขุมพลังไม่สปอร์ตเหมือนหน้าตา
MG 5 ใส่เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดเพียง 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ในขนาดตัวรถซึ่งไม่สามารถทำให้ไปแข่งกับใครได้ขนาดนั้น ด้วยกำลังที่ให้มานั้นอาจจะดูไม่สปอร์ตเหมือนหน้าตาสักเท่าไร แต่ขับใช้งานในเมืองก็เหมาะสมอยู่ สำหรับคนที่ชอบความเร็วอาจจะสามารถไปแต่งเครื่องเองได้ แต่อันนี้ก็ไม่รับประกันอายุการใช้งานในด้านอื่นๆนะครับ
3. ลูกเล่น ฟีเจอร์ทันสมัยต่างๆ แบ่งชนชั้นของแต่ละรุ่นจนดูออก
ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างรุ่นย่อย C D และ X ฟีเจอร์ ความทันสมัย การตกแต่งต่างๆ แบ่งแยกให้ดูออกอย่างชัดเจนสำหรับคนที่ศึกษาทำความเข้าใจลูกเล่นของแต่ละรุ่น จะเห็นได้ว่าในรุ่น C นั้น จะได้วัสดุฟีเจอร์ ออฟชั่นที่เป็นพื้นฐาน อย่างไฟส่องสว่างแบบ LED หน้าหลัง มีระบบ I-Smart ที่ค่อนข้างไม่เสถียรแต่ก็ยังถูไถใช้ได้ โม้ได้ว่าก็มีกับเค้าอยู่ ส่วนถุงลมในรุ่นนี้ให้มาเพียงแค่คู่หน้า ในรุ่น D จะให้ถุงลมด้านข้างมาด้วย ส่วนรุ่น X นั้นเพิ่มม่านนิรภัยมาให้ ด้วยราคาที่ต่างกันเพียง แสนกว่าบาท ถือว่าคุ้มกว่านะในรุ่นท็อป เรื่องความสวยภายนอก มองตั้งแต่หัวไปจรดที่ล้ออันนี้ไม่แตกต่างเท่าไร สวยเหมือนกันหมด
แม้ในรุ่นพื้นฐานอย่าง C และรุ่นกลางอย่าง D จะไม่มีระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety ถุงลมนิรภัยรอบคัน หลังคาซันรูฟ และ I-smart ติดมาให้ แต่ด้วยราคาในคลาสเดียวกัน ระดับเดียวกันนั้น คู่แข่งอื่นๆ ก็ไม่มีเหมือนกันนะครับ ยกเว้น Nissan Almera มีระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกฉุกเฉิน
4.พร้อมยอมรับความเสี่ยงตามมาตรฐาน
ต้องบอกก่อนว่าตัว MG5 2021 นั้นเพิ่งจะเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า คุณภาพและความน่าเชื่อถือในตัวรถนั้นที่ว่าจะไม่เกิดปัญหาเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการใช้งานของแต่ละคนนั้นต่างกัน ซึ่งภายใต้แบรนด์ที่ถูกครหามาตลอดว่าคุณภาพไม่ดี QCไม่ได้เรื่อง มีดีแค่ราคาอย่างเดียว ก็ยังตอบไม่ได้ว่าครั้งนี้เค้าจะสามารถลบคำกล่าวหาเหล่านั้นไปได้แล้วหรือไม่ อันนี้ก็ต้องดูกันในระยะนึง สำหรับท่านที่สนใจอยากจะออกรถอยู่ก็ควรจะศึกษาให้มากกว่านี้เสียก่อน ควรใจเย็น ไม่ต้องรีบ เพราะยังมีความเสี่ยงอีกหลายอย่าง
5. ศูนย์บริการยังไม่ทั่วถึงครอบคลุม
ด้วยการแข่งขันในตลาดสูง และเป็นที่พูดถึงในด้านของศูนย์บริการและการเปลี่ยนอะไหล่ที่หายากเหลือเกินมานานแสนนาน จนทุกวันนี้เราอาจจะเห็นศูนย์บริการ MG ผุดขึ้นมามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปไหนมาไหนก็เริ่มจะเห็น ป้าย MG ตั้งตะหง่านกลางท้องฟ้ากันบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างไรนั้น เค้าก็ยังไม่สามารถจะเบียดคู่แข่งที่มีศูนย์บริการมากกว่า การเข้าถึงอะไหล่ การรับการบริการที่ทั่วถึงมากกว่าได้อยู่ดี แต่ถึงยังไงก็ถือว่าไม่เลวสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ MG ที่ได้อัดแรงพุ่งเปิดศูนย์บริการอย่างเต็มกำลังภายในปี้นี้ตามเป้าหมาย เพื่อชนะคู่แข่งอย่างแบรนด์ญี่ปุ่น
6. ทนคำพูด คำเย้ยหยันจากผู้ใช้รถ ผู้วิจารย์รถได้เป็นอย่างดี
อันนี้ต้องบอกเลยว่า ใจต้องแข็งแกร่งมากๆ ที่เลือกใช้รถจากค่ายที่โดนวิจารย์มากที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ เพราะกว่าเค้าจะฝ่าฝันคำพูดเหล่านี้ และกล้าผลิตออกมาจำหน่ายได้อีกนั้น ก็ถือว่าแข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย ผู้ที่ซื้อออกมาใช้งานก็เปรียบเสมือนเป็นหน้าเป็นตาของแบรนด์ ซื้อออกมาจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนนึงที่จิตใจไม่แข็งพอ ทนไม่ไหวกับการถูกบูลลี่รถนั้น แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงจะดีที่สุด เพราะกระแสการถูกวิจารย์นั้นจะยังอยู่ไปอีกนานสักระยะเลยกว่าทางแบรนด์จะพิสูจน์และลบคำครหาเหล่านี้ไปได้
7. ยอมรับกับราคาขายที่ไม่เป็นที่นิยม
สำหรับใครที่ไม่ได้คิดจะใช้ให้มันยั่งยืนหรือระยะยาว ชอบซื้อแล้วขายต่อเปลี่ยนรถไปเรื่อย อันนี้ไม่แนะนำให้คิดจะซื้อเลยโดยเด็ดขาด เพราะเป็นที่ทราบกันดีในหมู่คนเล่นรถมือสอง หรือรถขายต่อในบ้านเรานั้นว่า ราคาของ MG นั้น ต่อให้เราซื้อมาเพียงแค่เดือนเดียวแล้วขายต่อ ก็ตกฮวบ ไม่คุ้มค่ากับการที่ได้ใช้ไปและขายต่อเลย แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละท่าน อยากซื้อถูกขายถูกกว่า ก็ไม่ว่ากัน
8. รถขนาดคอมแพกต์แต่งบแค่อีโคคาร์
ถ้าเอามิติตัวถังมาวัดในการจัดคลาส MG5 นั้นมีความยาว 4,675 มม. กว้าง 1,842 มม. สูง 1,473 มม. (และ 1,480 มม. ในรุ่น X) ความยาวฐานล้อ 2,680 มม. ของ MG5 2021 ถือว่าเทียบรุ่นได้กับ Honda Civic และ Toyota Corolla Altis ได้เลยนะ ซึ่งมองจากภายนอกก็ดูไม่เหมือนอีโคคาร์ ดูหรู ดูแพงอยู่พอสมควร แต่พอมาวัดที่ราคาก็พอจะเดาได้ว่าคือรถอีโคคาร์ดีๆนี่เอง แต่ก็ดูถูกไม่ได้นะครับ เพราะคงจะเป็นอีโคคาร์ที่ยกระดับได้คันนึงเลย
MG Thailand ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองอีกนาน เพราะที่ผ่านมาชื่อเสียงเรื่องความน่าเชื่อถือต่างๆนั้น ติดลบไปมาก กว่าจะกอบกู้ขึ้นมาได้และจากที่คู่แข่งเองก็พัฒนาไม่หยุดหย่อนนั้น ก็ถือว่าเป็นงานหนักสำหรับ MG อยู่พอสมควร แต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่ติดอะไรมาก รถทั่วไปยังไงก็ต้องมีการผิดพลาดในจุดเล็กๆน้อยๆ ไม่ต่างกันเท่าไร ยังมีข้อดีอีกเยอะที่ทำให้น่าซื้อใช้ MG5 2021 ก็เหมาะสมกับคุณแล้วหละครับ