เกือบสามปีที่ Honda Civic เจนที่ 11 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั่วโลกและเมืองไทยจนยอดขายโตวันโตคืนและครั้งนี้สมควรแก่เวลาที่จะเผยรุ่นปรับโฉม
ครั้งแรกของโลกที่สหรัฐอเมริกาในเวอร์ชันซีดาน FE หลังจากเปิดตัวรุ่น RS Hatchback ปรับโฉมครั้งแรกของโลกที่ญี่ปุ่นหน้าตาไม่ต่างกันเริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งติดตราโลโก้ กันชนหน้าทรงสปอร์ตออกแบบใหม่เสริมสเกิร์ตสุดหล่อในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งไร้ไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูนสีดำเข้ม กรอบกระจกที่มาในแนวเข้มสีดำ เสาอากาศครีบฉลามไฟท้าย LED ทรงเดิมพร้อมฝาท้ายที่มีสปอยเลอร์ในตัวหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และล้อลายสปอร์ตลายใหม่ diamond-cut 18 นิ้ว 7 ก้านทูโทน พร้อมยาง 235/40R18
ภายในยังไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่ายังคงเดิมทั้ง เบาะนั่งทรงสปอร์ต ระบบความบันเทิงแบบจอสัมผัส 9 นิ้วอยู่ตำแหน่งเหนือคอนโซลหน้า รองรับ Wireless Apple CarPlay and Android Auto และลำโพง 12 จุด คุณภาพจาก BOSE มาตรวัดดิจิทัลพร้อมระบบแสดงข้อมูล 7 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging รวมถึงการตกแต่งผิวสัมผัสหุ้มหนัง ผสมผสานการตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ก ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging
ขุมพลังสำหรับอเมริกาเป็นการกลับมาอีกครั้งของรุ่น Hybrid หรือ e:HEV ในรหัส LFB1 พร้อมระบบ i-MMD 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 72-cell อัตราส่วนกำลังอัด 13.9 : 1 พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode ในรุ่น Sport Touring Hybrid
ส่วนสันดาปล้วนยังขายปกติตั้งแต่ เบนซิน VTEC direct-injection turbo ขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15CA แรงสุด 203 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในรุ่น Si ในรุ่น LX, Sport, EX, Touring มีสองขนาดตั้งแต่เบนซิน VTEC Turbo 1.5 ลิตร รหัส L15C ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT และเบนซิน i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร รหัส K20C2 ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 6,500รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ทุกขนาดมาพร้อม โหมดการขับขี่ทั้ง NORMAL mode, SPORT mode, ECON
พร้อมความปลอดภัยมาเต็มๆแบบ Honda Sensing ทั้งเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDM) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA) ควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF) ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (ACETM) ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSI) และถุงลมนิรภัย 10 จุดรอบคัน Honda Civic รุ่นปรับโฉมพร้อมขายที่อเมริกาช่วงกลางปี 2024 ทั้งซีดาน FE และ Hatchback FL รุ่น Hybrid โดยการมาครั้งนี้ของ Honda Civic Hybrid หรือ e:HEV จะเพิ่มสัดส่วนของยอดขาย Civic ในอเมริกาเพิ่มขึ้นอีก 40% และเป็นการเพิ่มปริมาณประชากรไฮบริดของค่ายซึ่งทำสถิติยอดขายไฮบริดในปี 2023 โดยเมืองไทยมีแววสูงที่จะปรับตาม
และยังเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ๆภายในปี 2024 ไม่ว่าจะเป็น Honda Prologue SUV วางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เน้นไปที่การขายในรัฐแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และฟลอริดา Honda CR-V Fuel Cell Vehicle (FCEV) โดยจะเป็นรุ่นแรกในอเมริกาเหนือที่รวมคุณสมบัติปลั๊กอินเข้ากับเทคโนโลยี FCEV ไว้ในรุ่นเดียวเตรียมขายเร็วๆนี้ พร้อม Honda Odyssey เตรียมมีรุ่น MY2025 ปรับปรุงสไตล์และเทคโนโลยีเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มรถมินิแวน รวมถึง Honda 0 Series กับต้นแบบสองรุ่น Saloon และ Space-Hub ในงาน CES 2024
โมเดลการผลิตตามแนวคิด Saloon จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในปี 2026
ทางด้าน ACURA เริ่มจำหน่าย ACURA ZDX SUV EV ต้นปี 2024 ลูกค้าสามารถเริ่มสั่งซื้อ ZDX ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์มีการปรับปรุงที่สำคัญ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสไตล์ การเพิ่มเครื่องเสียงระดับพรีเมียมของ Bang และ Olufsen อินเทอร์เฟซเทคโนโลยีใหม่ที่มี Google ในตัว และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงของ AcuraWatch ™ รวมถึงรุ่น MDX MY2025 ยังจะแลกเปลี่ยนหน้าจอสัมผัสเวอร์ชันใหม่ปรับอินเทอร์เฟซไดรเวอร์และคอนโซลกลางที่ใช้งานได้มากขึ้น รุ่น RDX MY2025 จะได้รับการอัปเกรดเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดและฟังก์ชันการทำงาน
ACURA crossover ใหม่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ วางตำแหน่งเป็นประตูของกลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับรุ่น Integra