Honda Civic รุ่นปรับโฉมที่นอกจากจะมีขุมพลัง Hybrid e:HEV แฟนๆที่อยากได้ความแรงเต็มพิกัดโดยไม่มีถ่านมาเกี่ยวข้องยังมีรุ่น VTEC Turbo มาด้วย
Honda Civic รุ่น VTEC Turbo ขายเพียงรุ่นย่อยเดียวคือรุ่น EL+ อัปลุคดีไซน์ความสปอร์ตพรีเมียมที่เฉียบคมยิ่งขึ้น เท่ และทันสมัยในร่างเจนที่ 11 ปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 2 ปีในรหัส FE
ภายนอก Exterior
หรูหรามากยิ่งขึ้นชัดเจนด้วยโลโก้ H Mark ในชุดกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้ง กันชนหน้าทรงสปอร์ตออกแบบใหม่เสริมสเกิร์ตสุดหล่อในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งไร้ไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วใต้กันชนหน้าส่วนกลางตกแต่งสีดำ ใหม่! ชุดไฟท้าย LED รมดำ สไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัวพร้อมกันชนหลังทรงสปอร์ตกับท่อไอเสียคู่ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่ลายเดียวกับรุ่น e:HEV EL+ พร้อมยาง 215/50R17 ไฟหน้า Projector พร้อมไฟ Daytime ตกแต่งกรอบไฟหน้าตกแต่งสีดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีเดียวกับตัวรถ มีมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ และเสาอากาศแบบครีบฉลามมิติตัวรถเช่นเดิมตั้งแต่
- ความยาว 4,681 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,802 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,415 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,733 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 127 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,319 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร
ภายใน Interior
ออกแบบเน้นที่การสร้างความรู้สึกที่สดใหม่ ส่งมอบความสปอร์ตที่สบายตา สะดวกสบายเมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมในทุกผิวสัมผัส เริ่มที่ วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ ใหม่! เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระใหม่! แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดพร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและ ผู้โดยสารด้านหน้า
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางใหม่!ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ 3 ก้านมัลติฟังก์ชัน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ Auto Brake Hold ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto และลำโพง 8 ตำแหน่ง เชื่อมต่อชีวิตเหนือระดับ ด้วยหลากหลายฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครันด้วยใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว โดยติดตั้งครั้งแรกอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายเช่น YouTube Music, Spotify
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ช่องเชื่อมต่อ USB Type C จำนวน 4 ช่อง ช่องหน้า 2 ช่องและด้านหลัง 2 ช่อง และยกระดับชีวิตให้สมาร์ตขึ้นไปอีกขั้นกับ Honda CONNECT เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน
สมรรถนะ Performance
เบนซินเทอร์โบ VTEC พัฒนาระบบอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้นในระบบ Turbo Charger กับขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15BG ให้กำลัง 178 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 17.2 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 2 โหมด ได้แก่ ECON Mode และ Normal Mode
ความปลอดภัย Safety
มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้มาทุกรุ่นย่อย โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัย อาทิ ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) ช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) และถุงลมนิรภัยรอบคัน
Honda Civic รุ่น EL+ รุ่นปรับโฉม มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
- ใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (Canyon River Blue Metallic)
- สีขาวแพลทินัม (มุก) (Platinum White Pearl) เพิ่ม 10,000 บาท
- สีดำคริสตัล (มุก) (Crystal Black Pearl) เพิ่ม 6,000 บาท
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) (Meteoroid Gray Metallic)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) (Lunar Silver Metallic)
พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0.99% พร้อมรับ ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ ได้แก่ ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ฟรีฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
และข้อเสนอพิเศษ “Honda Loyalty” สำหรับเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าและครอบครัวรับดอกเบี้ยพิเศษ ลดลงอีก 0.30% เหลือดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 0.69%
หรือเลือกรับ ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 11,221 บาท หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พิเศษกับแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” เมื่อนำรถฮอนด้าคันเก่ามาขายและออกรถ ซีวิค ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับเพิ่ม บัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท
หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ซีวิค ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับเพิ่ม บัตรน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม –30 พฤศจิกายน 2567
- รุ่น EL+ ราคา 1,039,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 29,100 บาท)