25 ปีที่ Honda CR-V ได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกทั่วโลกผ่านมาแล้ว 5 เจน ล่าสุดเปิดตัวรุ่นใหม่ Honda CR-V TrailSport ในร่างเจนที่ 6
Honda CR-V TrailSport รุ่นย่อยใหม่แต่งเสร็จเข้มทั้งคันในร่างเจเนอเรชันที่ 6 รหัส RS หล่อโดนใจนักเดินทาง
ภายนอกมาในสไตล์ออฟโรดด้วยกระจังหน้าดีไซน์พิมพ์นิยมสีดำ Piano Black ติดตราสัญลักษณ์ TrailSport ฟรอนท์ตัวหนังสือสีส้ม กันชนหน้าทรงสปอร์ตเสริมคิ้วชายล่างสีเงิน ราวหลังคาบิ๊วอินสีดำพร้อมชุดขาจับราวหลังคาติดตั้งเสร็จสรรพจากโรงงาน เสาอากาศครีบฉลามสีดำ
กรอบกระจกสีดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ที่เปิดประตูดึงก้านสีดำ คิ้วชายล่างประตูสีดำ ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่ในชุดกันชนหลังเสริมคิ้วสีเงิน ตราสัญลักษณ์ TrailSport ฟรอนท์ตัวหนังสือสีส้ม และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 5 ก้านคู่สีเทาเข้มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60R18 แบบ AT จาก Continental CrossContact ATR
นอกจากนี้ยังเปิดตัวรุ่นปี 2026 (MY2026) อัพเกรดออปชันในทุกรุ่นย่อยทั้งรุ่น LX, EX, EX-L, Sport, Sport-L และ Sport Touring ภายยนอกมาพร้อมความล้ำสมัยด้วยไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ราวหลังคาบิ๊วอิน หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้น เสาอากาศครีบฉลาม
สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) ไฟท้าย LED กับ ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED ล้อขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น LX, EX, EX-L, Sport, Sport-L และล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต พร้อมยาง 235/55R19 ในรุ่น Sport Touring
ภายในติดตรา TrailSport ที่พนักพิงศีรษะ พร้อมเบาะนั่งหนังผสมผ้าสีดำเดินด้ายสีส้ม พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light สีอำพัน ติดตั้งในหลายตำแหน่ง อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว และพื้นปูยางกันเปื้อน
ส่วนทุกรุ่นรวมถึง TrailSport อัพเกรดออปชันใหม่ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัส HD ขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri มาตรวัดดิจิทัลพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เฉพาะรุ่น EX-L, Sport-L, TrailSport, Sport Touring นอกนั้นเป็นขนาด 7 นิ้ว
ในรุ่น Sport Touring เพิ่มโหมดการขับขี่ “Individual” และ Google-built in เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์ ใช้งานฟรี 3 ปี ดาวน์โหลดการใช้งานไม่อั้น
ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
สเปกอเมริกามาพร้อมพลัง e:HEV Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ด้วยเบนซิน e:HEV 2.0 ลิตร รหัส LFAS1 Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลัง 148 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 183 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 335 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังแรงสุด 207 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode) คู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เพิ่มระบบควบคุมการยึดเกาะในโค้งในเส้นทางลุย Enhanced traction management off-road
และเบนซินเทอร์โบ Di VTEC TURBO 1.5 ลิตร L15BE 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-5,000 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ทั้งคู่เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมความปลอดภัย Honda Sensing โดยทุกรุ่นติดตั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด พร้อมความปลอดภัยอื่นๆทั้ง
- เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรกพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน Collision Mitigation Brake (CMBS) with Pedestrian Detection; Forward Collision Warning
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation (RDM)
- เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information (BSI)
- เตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำช่วงรถติด Adaptive cruise control (ACC) with traffic congestion tracking function
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจขณะเดินหน้า Erroneous start suppression function
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจขณะถอยหลัง False rear start prevention function
- ช่วยเบรกระยะสั้น Near-field Collision Mitigation Brake (CMBS)
- ช่วยหักหลบคนเดินถนน Pedestrian Accident reduction steering
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Preceding Vehicle Departure Notification Function
- อ่านป้านจราจร Sign Recognition Function
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะรถติดแบบแปรผัน Traffic Jam Assist
- เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information (BSI)
- สัญญาณกะระยะการจอดรถ Parking Sensor System
- ช่วยหยุดรถขณะถอยหลัง Reverse Exit Support
Honda CR-V MY2026 มีให้เลือกสไตล์ความหรูตั้งแต่รุ่น LX, EX, EX-L เครื่องยนต์เทอร์โบ และ Sport, TrailSport, Sport-L, Sport Touring เครื่องยนต์ e:HEV สานต่อความสำเร็จในด้านยอดขายในสหรัฐอเมริกามากกว่า 400,000 คันเมื่อปีกลาย เตรียมเปิดราคาจำหน่ายคาดเดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา Honda