Volvo ลุยตลาดรถพวงมาลัยขวาอย่างเต็มรูปแบบหลังเผย Volvo ES90 ซีดานทรงฟาส์ทแบ็กที่อังกฤษและออสเตรเลียและล่าสุดที่เมืองไทย
Volvo ES90 สร้างจากแพลตฟอร์ม Scalable Product Architecture (SPA2) เดียวกันกับ Volvo EX90 โดยมาในชื่อรหัสโครงการ V551
ตัวรถใหญ่ทั้งคัน
หน้าตาตามสไตล์ วอลโว่ ตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ Iron Mark พร้อมขอบฝากระโปรงหน้าที่หนากว่าเดิม ไฟหน้า LED ใหม่ดีไซน์เอกลักษณ์ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) ด้านข้างกับกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูนที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกลมกลืนกับตัวถังรถรวมถึงหลังคาพาโนรามิกซันรูฟและไฟท้าย LED รูปตัว C พร้อมไฟท้ายบนกระจกหลังแนวตั้ง 2 ฝั่งแบบ LED และล้ออัลลอยขนาด 20-22 นิ้ว
เมื่อเทียบกับ BMWi5 จะพบว่าตัวรถสั้นลง 61 มิลลิเมตร สูงขึ้น 32 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 45 มิลลิเมตร และฐานล้อยาวกว่า 105 มิลลิเมตร โดยมีมิติตั้งแต่
- ความยาว 4,999 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,945 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,547 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,102 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,500-2,600 กิโลกรัม
ภายในยกงานดีไซน์มาจาก Volvo EX90
ตั้งแต่คอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายคลาสสิกแบบรูปตัวทียาวด้วยแผงช่องแอร์แนวนอนซ้าย-ขวา จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 14.5 นิ้วรองรับ Apple CarPlay ไร้สาย, Android Auto แบบ Android Automotive OS แสดงการนำทาง สื่อ ควบคุมโทรศัพท์ รองรับการใช้งานแอปจากกูเกิ้ลอาทิ Google Assistant, Google Maps และอื่นๆจาก Google Play
รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณระดับ 5G และความสามารถในการอัปเดทซอฟต์แวร์ของตัวรถแบบ Over-the Air เพื่อพัฒนา และปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวรถให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชิปอเนกประสงค์ชั้นนำจาก NVIDIA ที่ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลขั้นสูงอย่าง ชิป NVIDIA DRIVE AGX Orin ช่วยควบคุมการทำงานของฟังก์ชันต่างๆในรถผ่านการเรียนรู้ข้อมูลและพฤติกรรมด้วย AI เพื่อช่วยในการควบคุมระบบความปลอดภัย และระบบช่วยในการขับขี่ เพื่อพัฒนาสู่นวัตกรรมการขับขี่แบบไร้คนขับแห่งอนาคต และเพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับสำหรับผู้ใช้รถวอลโว่ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ
มี HUD บนแผงคอนโซลหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ใหม่แผงคอนโซลกลางที่ออกแบบใหม่ติดตั้งจอมาตรวัดแบบดิจิทัลบอกทั้งความเร็ว เส้นทางการขับขี่ ข้อมูลการจราจรและอื่นๆแนวนอนหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ มาพร้อมลำโพง Bowers & Wilkins 25 ตัว รองรับ DOLBY ATMOS
พร้อมไฟ Ambient Light ผ่านลายไม้ มีหลังคาพาโนรามิกที่ป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 99.9% หรือหลังคากระจกแบบ Electrochromic สามารถปรับความทึบและความสว่างได้อีกด้วยจากการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว และเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 4 โซน พร้อมเครื่องฟอกอากาศที่ป้องกันอนุภาค PM2.5 ถึง 95% สามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้จากหญ้า ต้นไม้ และละอองเกสรได้ 99.9%
ขุมพลังไฟฟ้า
จากเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมการจ่ายไฟระดับ 800V ด้วยความจุแบต lithium-ion ขนาดใหญ่ 106 kWh ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง WLTP หรือ 824 กิโลเมตร (NEDC) มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 รุ่น ชาร์จเร็ว DC 10-80% ภายใน 20 นาที รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 350 kw นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ไกล 300 กิโลเมตร ภายใน 10 นาที จากการชาร์จ DCโดยเริ่มที่
- รุ่น Twin Motor (E800V33) ให้กำลังรวม 449 แรงม้าที่ 4,700-16,000 รอบต่อนาที แรงบิด 670 นิวตันเมตรที่ 0-4,700 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.5 วินาที
- รุ่น Twin Motor Performance (E800V32) ให้กำลังรวม 680 แรงม้าที่ 5,600-8,100 รอบต่อนาที แรงบิด 870 นิวตันเมตรที่ 0-5,600 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4 วินาที
- รุ่น Single Motor มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 92 kWh ให้กำลังรวม 333 แรงม้าที่ 4,900-8,300 รอบต่อนาที แรงบิด 480 นิวตันเมตรที่ 0-4,900 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที วิ่งไกลสุด 650 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 765 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จเร็ว DC 10-80% ภายใน 20 นาที รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 350 kw นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ไกล 275 กิโลเมตร ภายใน 10 นาที ทุกรุ่นมาพร้อมระบบชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW
พร้อมระบบ LiDAR (Light Detection and Ranging System) ซึ่งเป็นระบบตรวจจับแสงและวัดระยะวัตถุที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาด้านหน้าของตัวรถ ทำงานโดยการส่งแสงเลเซอร์แบบ Pulse Wave ไปกระทบวัตถุหรือพื้นผิวต่างๆ เพื่อคำนวณระยะที่แม่นยำ โดย Lidarสามารถตรวจจับคนเดินเท้าที่ในระยะไกลถึง 250 เมตรจากหน้าตัวรถ
นอกเหนือจาก LiDAR 1 ตัวแล้วยังมีกล้อง 7 ตัว,เรดาห์ตรวจจับวัตถุ 5 ตัว เซนเซอร์แบบอัลตราโซนิค 12 ตัวรอบคันเพื่อมอบมุมมอง 360 องศา แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ขับขี่ผสานกับระบบความปลอดภัยในตัวรถเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้การทำงานของฟังก์ชันช่วยเหลือเพื่อการขับขี่อย่าง และเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวผู้ขับในห้องโดยสารอีก
พร้อมระบบช่วยการขับขี่ Pilot Assist และ ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนเลน รวมถึงระบบประมวลผลที่แม่นยำจาก ด้วยชิป NVIDIA DRIVE AGX Orin แบบคู่ ซึ่งสามารถประมวลผลได้รวดเร็วกว่า 508 ล้านล้านครั้งต่อวินาที สามารถตัดสินใจข้อมูลจากเซนเซอร์ทั้งหลาย การจัดการระบบพลังงาน และลูกเล่นต่างๆภายในตัวรถได้ฉับไว รวมถึงละเอียดลออมากขึ้น
เก๋งใหญ่ไฟฟ้าอย่าง Volvo ES90 ท้าชน BMW i5, Mercedes-Benz EQE และ Audi A6 E-Tron เป็นหนึ่งในรุ่นใหม่จากทั้งหมดหกรุ่นครอบคลุมทุกเซกเมนต์ภายในปี 2026 หลังจากแนะนำรุ่น EX90, EX30 และ EM90 โดยไทยเปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม