Audi ได้ประกาศไปเมื่อตอนปลายเดือนสิงหาคมว่า พวกเขาจะเข้าสู่วงการ F1 นับจากปี 2026 ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนเครื่องยนต์ ก่อนที่จะจับมือกับ Sauber ในเวลาต่อมาในเดือนตุลาคม
การจับมือเป็นหุ้นส่วนกันของทั้ง 2 ฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการจับมือกันทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้ Audi ได้รับแชสซีส์ที่ถูกพัฒนาออกมาจากฐานฮินวิลของ Sauber ในสวิตเซอร์แลนด์ ในขณะที่ Audi จะเป็นผู้ดูแลด้านเครื่องยนต์เองที่ฐานนอยบวร์ก ในเยอรมนี
ล่าสุด Audi ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายฐานโรงงานในนอยบวร์ก เพื่อรองรับโปรเจกต์ F1 หลังจากที่เริ่มมีการก่อสร้างอาคารใหม่ขนาด 3,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของแท่นทดสอบสำหรับการพัฒนาเครื่องยนต์
อาคารแห่งนี้รู้จักกันในชื่อ ‘F7.2’ โดยมันเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวของ Competence Center Motorsport ซึ่งถูกเปิดในปี 2014 และมันยังเป็นฐานที่ตั้งของโรงงาน Audi สำหรับการแข่งขัน World Endurance Championship, Formula E, และ Dakar Rally
การต่อเติมส่วนต่อขยายนี้น่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในไตรมาสแรกของปี 2024 อย่างไรก็ตาม การดำเนินกิจกรรมภายในนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ต้นปีหน้า
“ด้วย Competence Center Motorsport เรามีฐานที่เหมาะสำหรับดำเนินโปรเจกต์ Formula 1 ของเรา” Oliver Hoffmann สมาชิกคณะกรรมการฝ่ายการพัฒนาด้านเทคนิคของ Audi กล่าว
“โรงงานนอยบวร์กของ Audi ได้รับการออกแบบตั้งแต่ต้นเพื่อให้สามารถรองรับกับโครงการมอเตอร์สปอร์ตที่มีความต้องการด้านทรัพยากรมากที่สุดได้ การมองการณ์ไกลนี้ได้รับการตอบแทน ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรามีอยู่ทำให้เราสามารถริเริ่มโปรเจกต์ Formula 1 ได้ทันที”
“การขยายกิจกรรมจะมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเครื่องยนต์ F1 ของเราในระยะยาว ด้วยการขยายตัวอาคารและการติดตั้งแท่นทดสอบที่ทันสมัย เรากำลังมอบเงื่อนไขที่ดีที่สุดแก่ทีมพัฒนาของเราเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับแนวหน้า”
ไม่เพียงเท่านั้น Audi ยังได้มีการว่าจ้างทีมงานเพิ่มเติมนับตั้งแต่ที่พวกเขาประกาศแผนการเข้าร่วม F1 ออกมา โดยพวกเขาได้รับพนักงานเข้ามาทำงานแล้วกว่า 220 ชีวิต และค่ายผู้ผลิตเยอรมันยังได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานมากกว่า 300 คน ภายในกลางปี 2023
อ้างอิง : motorsport.com