More

    AION UT/MG4 Electric สองอีวีแบตอึดกว่า 500 กม. ค่าตัวไม่เกิน 8 แสน

    ค่าย AION เปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ AION UT เริ่ม 499,900 บาท ทำให้คู่แข่งรับมือกับเต็มรูปแบบโดยเฉพาะ MG4 Electric AION

    และยังมีอีกหลายๆเจ้าที่ต้องรับมือกับการมาครั้งนี้ของ AION ทั้ง BYD Dolphin น้องโลมาที่เปิดตัวสีดำ กับ GWM ORA Good Cat สีขาวหลังคาดำตกแต่งใหม่ในราคาเอาใจสาวก ครั้งนี้ Face2Fcae ขอจับน้องใหม่กลุ่มเก๋งท้ายตัดพลังอีวีรุ่นท็อปมาประชันกันทั้ง AION UT รุ่น Premium  และ MG4 Electric รุ่น D Long Range 540 กิโลเมตร  มาเทียบกัน

    Design & Exterior

    AION

    AION UT PREMIUM ดีไซน์คล้ายกับ MINI Cooper จากพื้นฐานแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP 3.0 

    ภายนอกหล่อด้วยชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในทรงรูปตัว C คล้ายกับ Angry Birds ชุดกันชนหน้าพร้อมตรา AION มีช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบแอคทีฟปิดเพื่อลดแรงต้านลมที่จะเข้ามาพร้อมไฟตัดมหมอกหน้า LED ทรงลูกเต๋า หลังคารถพาโนรามิกซันรูฟ ด้านข้างมาพร้อมกระจกรถทรงโอเปร่าแบบเดียวกับยุโรป โดยกระจกเสา D ใส่กรอบสีเดียวกับตัวรถ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูรถดีไซน์ยกก้านเรียบเนียนกับตัวรถ

    ด้านท้ายสวยเสน่ห์ด้วยไฟท้าย LED แนวตั้งรมดำพร้อมไฟเบรกรูปตัวซีฝาท้ายดีไซน์เรียบง่ายติดตรา AION มีฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถผสมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R17 MG4

    ส่วน MG4 Electric รุ่น D Long Range หล่อตั้งแต่ออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN ไฟหน้าดีไซน์หกเหลี่ยม LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS พร้อมไฟ DRL แบบ LED กระจังหน้า ดีไซน์ ‘shark-nosed’ เส้นแนวตั้ง 2 เส้น Fins รวมอยู่ด้วย โดยรวมด้านหน้ามาในแบบรูปตัว X ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT

    กันชนหลังทรงสปอร์ต ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER ในรุ่น STANDARD RANGE ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R17 พิ่มที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง มาพร้อม Adaptive Grille ที่สามารถปรับองศาให้สอดคล้องกับความเร็วได้ และสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING

    Dimension

    AION

    AION UT Premium ตัวรถพัฒนาจากแพลตฟอร์ม AY2 มีมิติดังนี้

    • ความยาว 4,270 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,575 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 120 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,700 กิโลกรัม

    MGส่วน MG4 Electric รุ่น D Long Range สร้างจากแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ตั้งแต่

    • ความยาว 4,287 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,836 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,516 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,650 กิโลกรัม

    มิติตัวรถเมื่อเทียบกันแล้วพบว่า AION UT ได้เปรียบกว่า MG4 เทียบเกือบทุกด้านโดยกว้างกว่า MG4 เพียง 14 มิลลิเมตร สูงกว่า MG4 เพียง 59 มิลลิเมตร ฐานล้อยาวกว่า MG4 เพียง 45 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้นสูงกว่า MG4 เพียง 3 มิลลิเมตร น้ำหนักรถมากกว่า 50 กิโลกรัม แต่ความยาวสั้นกว่า MG4 เพียง 17 มิลลิเมตร 

    Interior & Convenience

    AION

    AION UT Premium ให้ออปชันครบครันเช่นเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าในมีระบายอากาศหุ้มหนังพรีเมียมรูปทรงผีเสื้อ โดยด้านคนขับปรับ 6 ทิศทาง คนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังกว้างสบายช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถหาตำแหน่งการนั่งที่เหมาะสมกับบุคลิกและสะดวกสบายมากที่สุดและยังพับเก็บได้แบบ 60/40 มีพื้นที่พับเบาะมากถึง 1,600 ลิตรส่วนตอนไม่พับเบาะมีพื้นที่ 440 ลิตร

    ห้องโดยสารแถวหลังมีพื้นที่กว้างถึง 1,385 มิลลิเมตร พร้อมพื้นที่วางขาที่สะดวกสบายมากขึ้นถึง 905 มิลลิเมตร รองรับผู้โดยสาร 3 คนได้สบายๆ กว้างขวางเกินคาดหมาย สนุกกับการปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องโดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลังได้ตามความต้องการ หรือเลือกเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นเตียงกว้างได้อย่างง่ายดาย ผสานความสนุกสนานเข้ากับประโยชน์ใช้สอยสูงสุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์ด้านหลังมีแผ่นกรอง PM 2.5

    AION

    พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light เพลินกับการเดินทางด้วย คอนโซลหน้าทรงหรู พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดเล็ก 8.8 นิ้ว จอกลางขนาดใหญ่พร้อมระบบปฏิบัติการ GAC’s ADiGO 5.0 ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ 3 ระบบได้แก่ HiCar, CarLink และ CarPlay สั่งการทำงานด้วยเสียงรองรับ 2 ภาษา (ไทย / อังกฤษ) รับคำสั่งได้ทั้งจากผู้โดยสารแถวหน้าและแถวหลังเพื่อความสะดวกสูงสุด ช่องเสียบ USB สูงสุด 4 จุด และลำโพง 6 จุด พร้อมโทนสีภายในเลือกได้ทั้งสีดำ Midnight Black และสีเบจ Berlin Beige

    MG

    ทางด้าน MG4 รุ่น D Long Range ภายในเรียบง่ายมีสไตล์เน้นการใช้งานที่สะดวกตั้งแต่ คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM ดีไซน์เรียบง่ายติดตั้ง อุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทางมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ–วางสายโทรศัพท์ กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) หน้าจอสีระบบสัมผัสรองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดียแบบไร้สายจากสมาร์ทโฟนระบบ Apple CarPlay และ Android Auto

    พร้อมลำโพง 6 จุด ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V เย็นสบายด้วยระบบปรับอากาศดิจิตอล พร้อมกรองอากาศ PM2.5 เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40 ภายในมาในโทนสีดำ เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์และผ้า ราวมือจับสำหรับผู้นั่งโดยสาร (Assist Grip) 3 ตำแหน่ง และจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว จากเดิม 10.25 นิ้ว รวมถึง

    โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับเพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ โดยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานกับ ช่องวางแก้วด้านข้างประตู

    MGพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check) ที่ครอบคลุมระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ ไปจนถึงการค้นหาสถานีชาร์จ โดยล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ BATTERY DOCTOR บนแอพพลิเคชั่น MG THAILAND บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน ท้ายที่สุด ยังช่วยให้การเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command) และ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)

    Performance & Transmission

    AION

    AION UT Premium มาพร้อมขุมพลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า รหัส TZ160XYD3A02 ให้กำลังถึง 204 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 60 kWh วิ่งไกลต่อการชาร์จ500 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.3 วินาที  ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเร็ว DC 30-80% ด้วยกำลังการชาร์จสูงสุด 60 kW ภายใน 24 นาที และยังชาร์จช้า AC ได้ รวมถึงฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดายด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 3.3kW

    มีโหมดการขับขี่ทั้ง Economy/Standard/Sport  พร้อมแบตเตอรี่ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทนทานต่อการบิดตัว 180 องศา โดยไม่เกิดประกายไฟหรือความร้อนสะสม และมี i-pedal บนพื้นฐานช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทและช่วงด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

    MG

    ด้าน MG4 รุ่น D Long Range เป็นมอเตอรไฟฟ้าเดี่ยว Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,000-3,500 รอบต่อนาที จากความจุแบตเตอรี่ 64 kWh วิ่งไกลสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC

    ชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge DC กระแสตรงชาร์จไฟฟ้าจาก 10%–80% ใช้เวลาประมาณ 26 นาที รองรับการชาร์จสูงสุด 140 kWh ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge AC กระแสสลับ ผ่าน MG HOME CHARGER 0%–100% ใช้เวลาประมาณ 9.45 ชั่วโมง รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6-11 kW

    มาพร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE)

    ชุดแบตเตอรี่มาพร้อมเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอน ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM ตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น ง่าย สะดวกสบาย รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

    ควบคุมที่มั่นใจกับพวงมาลัย DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้าให้รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตรการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมากเพียง 490 มม. ความสนุกสนานในการขับขี่ ทั้งอัตราเร่งที่ทันใจ พวงมาลัยที่ตอนสนองฉับไวเข้าโค้ง มั่นใจด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension

    Safety & Feature

    AION

    AION UT Premium มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS L2 Intelligent Driving

    • เตือนมุมอับสายตา Blind spot Monitoring and Warning (BSD)
    • เตือนการเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
    • เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
    • เตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ Rear Collision Warning (RAW)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Adaptive Cruise Control Stop & Go (ACC-S&G)
    • ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Integrated Cruise Assist (ICA)
    • แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
    • แจ้งเตือนการชนด้านหลัง Reverse Collision Warning (RCW)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Brake Assist System (AEB)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน Emergency Lane Keeping (ELKA)

    ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดลมยาง TPMS จุดยึดเบาะหนังเด็กแบบ ISOFIX เบรกป้องกันล้อล็อก ABS ควบคุมการกระจายแรงเบรก EBD พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ VDC ควบคู่กับโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP ป้องกันการลื่นไถล TCS ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC กล้องพาโนรามารอบคัน 360 องศา เซนเซอร์กระยะการจอดด้านหน้า 4 จุด ด้านหลัง 4 จุดรวม 8 จุด เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold

    MG

    MG4 Electric รุ่น D Long Range มาพร้อมความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System ทั้ง

    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
    • ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
    • ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
    • เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
    • ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)

    ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home) ควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

    ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ป้องกันล้อหมุนฟรีกับควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist) สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) และ กล้องมองภาพด้านหลัง พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง

    Verdict

    AION

    อีวีท้ายตัด 2 รุ่นท็อปต้องบอกว่า AION UT รุ่นท็อปใหม่กว่าสดกว่าในกลุ่มที่พละกำลังให้มาเยอะกว่าทั้งแรงม้าและแรงบิดเมื่อเทียบกับ MG4 Electric รุ่น D Long Range แถมเป็นรถขับหน้าช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ โดยมาในราคาพิเศษถึง 31 กรกฎาคมเพียง 649,900 บาท (เดิม 669,900 บาท) สีภายนอกทั้งหมด 4 สี ทั้งแบบทูโทนหลังคาดำทั้งสีเขียว Emerald Green สีเบจ Champs Beige สีขาว Rococo White และสีบอรนซ์เงิน Seine Silver โดยยังเป็นรถนำเข้าจากจีน

    ส่วน MG4 Electric รุ่น D Long Range มีรถพร้อมส่งและเป็นรถประกอบไทยมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ทั้งสีส้มหลังคาดำ (Fizzy Orange/Blacktop) สีขาวหลังคาดำ (Arctic White/Blacktop) สีเทาหลังคาดำ (Andes Grey/Blacktop) สีดำหลังคาดำ (Black Knight/Blacktop) และสีฟ้าหลังคาดำ (Brighton Blue/Blacktop)

    ในราคาเดิม 769,900 บาท ลดโหดสูงสุด 50,000 บาท เพียง 719,900 บาท แม้จะอยู่ตลาดมานานและระยะทางวิ่งไกลกว่า AION UT แต่ยังเป็นรถอีวีขับหลังที่ขับสนุกเร้าใจและยังรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ตลอดอายุ การใช้งาน (LIFETIME WARRANTY)

    ด้วยส่วนต่าง 70,000 บาท กับอีวีท้ายตัดจากจีนงานนี้รักใครชอบใคร ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของคุณที่จะเลือกรถคู่ใจมาใช้งาน

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts