Aston Martin ได้เปิดรถไตรมาสแรกของปีอย่าง Valkyrie Spider เมื่อ กลางเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ กรุงมอนเทอร์เรย์ ประเทศแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่น่าตื่นเต้นสำหรับเศรษฐีชาวยุโรป ที่รอคอยจะมาเปย์เงินซื้อกลับบ้าน แต่แล้วก็ต้องกลับมือเปล่าด้วยกันทั้งนั้น เมื่อทาง Aston Martin ได้ประกาศว่า Valkyrie Spider ของเค้านั้นได้ถูกจำหน่ายให้กับลูกค้าไปหมดแล้วเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน
Aston Martin Valkyrie Coupe นั้นได้ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 150 คันและ Spider ผลิตออกมาเพียง 85 คันเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 2.75 ล้านเหรียญ (82.5 ล้านบาทไม่รวมภาษี) และจะมีการส่งมอบสำหรับไตรมาสนี้ให้กับลูกค้าคนสำคัญในปลายเดือนกันยายนและตุลาคมที่จะถึงนี้
ส่วนทางเศรษฐีรายอื่นๆ ที่เป็นลูกค้าคนพิเศษที่พลาดในการเชิญครั้งก่อนนั้นไม่ต้องเสียใจไป เพราะเจ้า Spyder แมงมุมปีศาจกำลังจะเข้าสู่การผลิตในไตรมาสที่สองของปี 2022 ซึ่งทางค่ายจะส่งบัตรเชิญไปยังลูกค้า VVIP ทุกคนเช่นเดิม งานนี้ใครมาก่อนได้ก่อน แล้วจะมาเสียดายในภายหลังอีกไม่ได้แล้ว เพราะเค้าจะจัดทำขึ้นในไตรมาสหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
การแสวงหาความหรูหราแบบเปิดประทุนมาพร้อมกับความท้าทายในการสร้างความมั่นใจว่าประสบการณ์หลักจะยังคงเป็นจริงตามวัตถุประสงค์ด้านประสิทธิภาพที่เข้มงวดของ Aston Martin และ Adrian Newey สำหรับโปรแกรม Aston Martin Valkyrie ดั้งเดิม เนื่องจากวาลคิรีเหล่านี้อยู่ในตำแหน่งที่ล้ำหน้าด้านการออกแบบและวิศวกรรมไฮเปอร์คาร์ หมายความว่า Valkyire Spider ได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นด้านวิศวกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากพรสวรรค์ที่รวมกันระหว่าง Aston Martin และ Red Bull Advanced Technologies (RBAT)
ตัวเครื่องยนต์นั้นเป็นระบบส่งกำลังไฮบริด V12 ของ Aston Martin ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง Valkyrie Spider ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ บวกกับการปรับเทียบใหม่ที่แม่นยำของระบบแอกทีฟแอโรไดนามิกและแอคทีฟแชสซี ทั้งหมดนี้ล้วนมุ่งรักษาสมรรถนะของ Valkyrie performance ให้ดีที่สุดเมื่อขับในตอนเปิดประทุน
ประสิทธิภาพสำคัญที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Valkyrie Spider คือโครงสร้างน้ำหนักเบาพิเศษและแพ็คเกจแอโรไดนามิกดาวน์ฟอร์ซสูง หลังคาจากหน้าตัวรถส่วนบนที่คลุมห้องโดยสารมีรูปทรงหยดน้ำคล้ายกับหลังคาของเครื่องบินเจท ขนาดใหญ่ที่ทอดยาวทั้งสองด้านของพื้นที่ห้องโดยสาร มีกระจังหน้าที่โปร่งและรูลมเพื่อการดึงอากาศจำนวนมากเข้าใต้ท้องรถเพื่อป้อนดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง สิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแรงกดในระดับพิเศษของ Aston Martin Valkyrie Spider ซึ่งทำให้น้ำหนักตัวรถนั้นหนักแค่เพียง 1400 กิโลกรัม และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม.
Valkyrie ทั้งสองรุ่นนั้น มีเครื่องยนต์ V-12 ขนาด 6.5 ลิตรที่ ส่งกำลังแรงม้า 1,160 แรงม้าและแรงบิด 664 ปอนด์-ฟุต ทำให้สามารถทำความเร็ว จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 2.5 วินาที Tobias กล่าวว่าระบบแอโรไดนามิกแบบแอ็คทีฟของรถยนต์รองรับแรงกดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มิฉะนั้นยางจะไม่สามารถควบคุมได้
สำหรับผู้สะสมรถหรูซุปเปอร์คาร์นั้น จะสามารถเป็นเจ้าของผู้ครอบครองได้ก็ต่อเมื่อได้รับบัตรเชิญจากทางค่ายเท่านั้น
อ้างอิงจาก : astonmartin