Audi E5 Sportback สร้างปรากฏการณ์สะเทือนวงการรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อรถฟาสต์แบ็กไฟฟ้าขนาดกลางที่เพิ่งเปิดตัว กวาดยอดจองไปถึง 10,153 คัน ภายในเวลาเพียง 30 นาทีแรก! โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 235,900 หยวน หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท เท่านั้น
สเปก Audi E5 Sportback เดือดทุกรุ่นย่อย!
รถยนต์รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย โดยมาพร้อมสเปกและราคาดังตารางนี้
| รุ่นย่อย | ราคา (หยวน) | ราคา (ประมาณ บาท) | ระบบขับเคลื่อน | กำลังสูงสุด (kW) | ความจุแบตเตอรี่ | ระยะทาง (CLTC) |
| Pioneer | 235,900 | 1.22 | RWD | 220 | 76.2 kWh (LFP) | 618 กม. |
| Pioneer Plus | 269,900 | 1.39 | RWD | 300 | 100 kWh (NCM) | 773 กม. |
| Pioneer quattro | 269,900 | 1.39 | AWD | 386 | 83.3 kWh (NCM) | 623 กม. |
| Flagship quattro | 319,900 | 1.65 | AWD | 579 | 100 kWh (NCM) | 647 กม. |
รถทุกรุ่นสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Advanced Digitised Platform ที่พัฒนาร่วมกันและผลิตที่โรงงานของ SAIC Audi
Audi E5 Sportback ดีไซน์ล้ำ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี
E5 Sportback ได้รับการถ่ายทอดดีไซน์มาจากรถต้นแบบ Audi E โดยมาพร้อมตัวถังแบบฟาสต์แบ็กให้เลือกถึง 6 สี ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศอยู่ที่เพียง 0.252 Cd ตัวรถมีไฟ LED มากถึง 942 ดวง และองค์ประกอบรูปสามเหลี่ยมเกือบ 2,000 ชิ้นที่สร้างแอนิเมชันต้อนรับที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ
ขนาดมิติตัวถัง
- ความยาว 4,881 มม.
- ความกว้าง 1,960 มม.
- ความสูง 1,479 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,950 มม.
ภายในห้องโดยสารติดตั้งจอแสดงผลแบบรวมขนาดใหญ่ 59 นิ้ว ทำงานร่วมกับชิป Qualcomm Snapdragon 8295 และระบบปฏิบัติการ Audi OS มีอินเทอร์เฟซควบคุมแบบดิจิทัล “Audi Island” และกระจกมองหลังแบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง Audi Assistant ที่ใช้ Large Language Model รองรับการสั่งงานหลายโซน รวมถึงรองรับ Apple CarPlay และ Huawei HiCar ด้วย
จัดเต็มระบบความปลอดภัยและฟังก์ชันเสริม
รถมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเบาะนั่งแบบอุ่นและระบายอากาศ, หลังคาพาโนรามา, กล้อง 360 องศา และที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ส่วนในรุ่นท็อปจะเพิ่มระบบกันสะเทือนแบบถุงลม, โช้คอัพปรับได้ CDC, ไฟ Ambient Light ที่ปรับแต่งได้ และระบบเสียง BOSE พร้อมลำโพง 18 ตัว
ด้านระบบความปลอดภัย E5 Sportback ติดตั้งเซนเซอร์ถึง 27 ตัว ทั้ง Lidar, เรดาร์, อัลตราโซนิก และกล้อง ทำงานร่วมกับชิป Nvidia Orin-X และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Momenta’s EBM ซึ่งรองรับการขับขี่บนถนนในเมือง, ทางหลวง และระบบจอดรถอัตโนมัติ
E5 Sportback มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวมีกำลังสูงสุด 220 kW หรือ 300 kW ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่มีกำลัง 386 kW หรือ 579 kW ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็วสุดใน 3.4 วินาที
ความจุแบตเตอรี่มีตั้งแต่ 76.2 kWh ไปจนถึง 100 kWh ผลิตโดย CATL และสามารถวิ่งได้ไกลสุด 773 กม. (CLTC) นอกจากนี้ยังใช้สถาปัตยกรรม 800V และมีระบบปั๊มความร้อนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
การเปิดตัวของ E5 Sportback ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางของจีนร้อนระอุขึ้นไปอีกขั้น โดยมีคู่แข่งสำคัญอย่าง Tesla Model 3, Nio ET5T และ Zeekr 007 GT ซึ่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Tesla Model 3 ยังคงเป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยยอดขาย 17,739 คัน
Source: Carnewschina
