More

    แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม สังเกตอย่างไร พร้อมวิธียืดอายุการใช้งาน

    แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม คงเป็นอีกเรื่องที่ผู้ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า กังวล ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ วันนี้เราก็มีวิธีสังเกตอาการแบตเสื่อมเป็นยังไง พร้อมวิธียืดอายุการใช้งานมา/ฝากครับ

    แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม

    วิธีการสังเกต แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม ว่าสามารถใช้งานได้อีกนานหรือไม่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแบตฯ ในส่วนของราคาแล้ว ยังต้องกังวลถึงเรื่องความคุ้มครองของประกันภัยอีก มาลองหาวิธีป้องกันและยืดอายุการใช้งานเพื่อคลายความกังวลนี้กันดูครับ

    แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม

    แบตเตอรี่รถไฟฟ้า ใช้ได้กี่ปี?

    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion battery) เป็นแหล่งพลังงานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV) มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากไม่มีสารเคมีอันตราย เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่รถยนต์แบบอื่น ๆ ขนาดเล็กแต่สามารถกักเก็บความจุไฟฟ้าได้ในปริมาณมาก น้ำหนักเบา ส่งผลให้ลดการใช้เชื้อเพลิงของรถยนต์ และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถรับ-ส่งกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 2000 รอบ ขณะที่ยังคงความจุของแบตเตอรี่ไว้ในระดับสูง ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยครั้ง แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจึงมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน 10 – 20 ปี

    แต่ทั้งนี้ประสิทธิภาพของ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ก็ขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศส่งผลต่อความร้อนของแบตฯ ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจึงมักมาพร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่อย่างน้อย 8 -10 ปี หรือประมาณ 250,000 กิโลเมตรตามลักษณะการใช้งาน

    แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม

    วิธียืดอายุแบตฯ รถยนต์ไฟฟ้า ให้ใช้งานได้งานมากขึ้น

    • หลีกเหลี่ยงการจอดรถในกลางแจ้งที่มีแดดร้อนจัดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การจอดรถกลางแจ้งที่มีแดดร้อนจัด โดยไม่ได้จอดชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีระบบควบคุมอุณภูมิของแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ ระบบจะทำงานหากแบตเตอรี่หรือรถยนต์เกิดความร้อนจัดเพื่อลดอุณภูมิให้ต่ำลง บางอาจจะพบว่าแบตเตอรี่ลดลงมากว่าปกติแค่จอดรถไว้เฉยๆแม้ไม่ได้สตาร์ทรถ การจอดรถในที่ร่มหรือลานจอดรถที่มีหลังคากันแดด จะช่วยให้รถและแบตเตอรี่ไม่ให้มีอุณภูมิสูงจนเกินไป
    • ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ที่ระดับต่ำเกินไป หรือชาร์จทิ้งไว้นานเกินไป คำแนะนำในการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% เพราะการชาร์จเต็มจนถึง 100% ทิ้งไว้บ่อยครั้งอาจส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เร็วเช่นกัน และในทางกลับกันไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือต่ำมากแล้วจึงชาร์จ ระบบแบตเตอรี่ควรเหลืออยู่ในระดับ 20% แล้วจึงชาร์จจนเต็ม 100% จะช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า การชาร์จที่ระดับต่ำกว่า 20% การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีจึงไม่ควรใช้งานจนแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% เนื่องจากคุณสมบัติของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีผลกระทบโดยตรงต่อรอบการชาร์จเมื่อเหลือประจุไฟฟ้าที่ต่ำมาก

    • สถานีชาร์จไฟฟ้า ความเร็วสูงไม่ควรใช้งานบ่อยๆปัจจุบันมีสถานีให้บริการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า ความเร็วสูง เปิดให้บริการมากมาย เพื่อความอำนวยความสะดวกในการเดินทางและประหยัดเวลาในการชาร์จ โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 30- 60 นาทีเท่านั้น ก็สามารถเดินทางต่อได้ แต่การชาร์จด้วยสถานีรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง บ่อยๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เร็วกว่าปกติ ระยะทางสูงสุดที่รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ จะลดลงไปเรื่อยๆ หากเทียบการชาร์จแบบปกติ หรืออุปกรณ์การชาร์จที่ทางผู้ผลิตแถมมาให้
    • ไม่ควรชาร์จแบตจนเต็ม 100% หากจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นานๆหากไม่ได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นเวลาหลายวัน จะทำให้เกิดภาวะความเค้น (stress) ในแบตเตอรี่ที่สูงมาก จนทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงเร็วกว่าที่ควร หากจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นานๆ แบตเตอรี่ควรอยู่ในระดับที่ 25-75%

    แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม

    • นำรถเข้าตรวจเช็คตามระยะบำรุงรักษาเสมอโดยปกติแล้วรถยนต์ทุกคันจะมีคู่มือรถที่กำหนดระยะทางหรือระยะเวลา ที่รถยนต์ควรเข้ารับตรวจสภาพรถ เช็คระยะ ตามที่คู่มือรถกำหนดไว้ ซึ่งการนำรถเข้าศูนย์เช็คระยะ ตรวจสภาพรถนั้น คือการตรวจเช็ครถอย่างละเอียดและรวมถึงการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ของรถยนต์ที่ชำรุด หากคุณนำรถเข้าตรวจสภาพรถอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ รถยนต์ไฟฟ้าควรตรวจสอบ ระบบอุปกรณ์หล่อเย็นสำหรับชุดแบตเตอรี่ขับเคลื่อนให้มีความสมบูรณ์ จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้เช่นเดียวกัน
    • ถ้าไม่ได้ใช้งานรถเป็นเวลานานไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมด

    รถยนต์ไฟฟ้าหากไม่ใช้เป็นเวลานานไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม หรือปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยเกินไป เพราะมีส่วนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ หากต้องจอดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเวลานาน ควรชาร์จไฟให้อยู่ระหว่าง 25 – 75%

    • ชาร์จแบตเตอรี่แบบ AC สลับกับ DC Charging อย่างสม่ำเสมอ

    สาเหตุที่ทำให้ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม สภาพเร็วขึ้น คือ ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยไฟกระแสตรง หรือ DC Fast Charging บ่อยครั้ง ทำให้แบตเตอรี่มีความร้อนสูงจากกระบวนการชาร์จที่เร็ว ซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยตรง

    และทั้งหมดนี้คือคำแนะนำที่จะสามารถช่วยให้คุณยืดอายุการใช้งานของ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ได้ยาวนานมายิ่งขึ้น เพียงเท่าคุณก็จะสามารถใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ของคุณได้อย่างสบายใจมากขึ้นเช่นกัน


    CR: Battery EV Car , โอ้โห

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts