นับตั้งแต่ BMW 220i Gran Coupé อวดโฉมให้ชาวไทยได้สัมผัสกับสปอร์ตซีดานประตูไร้กรอบในราคาจับต้องได้ทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดี
ล่าสุด BMW เผยรุ่นพิเศษ BMW 220i Gran Coupé M Performance Edition เพิ่มความเข้มด้วยชุดแต่ง M Performance ที่ประกอบด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ M Performance ในดีไซน์ตาข่ายสีดำเงา ฝาครอบกระจกมองข้างแบบคาร์บอน สปอยเลอร์ด้านท้าย และไฟส่องพื้นประตูรถแบบ LED พร้อมออปชันเดิมตั้งแต่ ไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL LED เป็นเส้นกรอบล่างทรงเหลี่ยมรับกับกันชนหน้าสไตล์สปอร์ตกับไฟตัดหมอกหน้า LED ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว M ลาย Double-spoke พร้อมยาง 225/40 R18
กระจกประตูข้างแบบไร้กรอบทั้ง 4 ประตูแต่งด้วยผิวหน้าสีดำ High-gloss Black และไฟท้าย LED ทรงเพรียวบางที่จัดเรียงตามแนวนอน แต่งด้วยผิวหน้าสีดำ High-gloss Black ที่เชื่อมไฟท้ายทั้งสองข้างเข้าหาโลโก้ BMW ตรงกลาง ยิ่งเสริมท้ายรถให้รับกับความหรูหราแบบสปอร์ตในทุกมุม ส่วนการออกแบบท้ายรถก็ยังคงมาดความสปอร์ตเช่นกัน ด้วยท่อไอเสียขนาดใหญ่
ภายในห้องโดยสารแสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้ผู้ขับได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องละสายตาจากถนนผ่านระบบหน้าจอดิจิทัล Instrument Cluster ขนาด 10.25 นิ้ว รวมไปถึงจอสัมผัส Control Display ความละเอียดสูง ขนาด 10.25 นิ้ว ที่ตั้งอยู่กลางคอนโซล ทำมุมเข้าหาคนขับเล็กน้อยตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผ่นกรองอากาศระดับอนุภาคช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ในขณะที่ระบบชาร์จอุปกรณ์ภายในรถก็ปรับมาใช้เป็นแบบช่องเสียบ USB Type C ให้เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน
เบาะที่นั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังแท้ และเพดานหลังคาภายในห้องโดยสารในสีดำ Anthracite และความจุสัมภาระมาถึง 430 ลิตร พร้อมเบาะหลังพับได้แบบ 40/20/40 และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกซ้าย-ขวา และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
มาพร้อมระบบ BMW Live Cockpit Professional บนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7 ที่สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ผ่านวิดเจ็ตที่ปรับเปลี่ยนการแสดงผลและตั้งค่าได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ในขณะเดียวกัน ฟีเจอร์ Remote Software Upgrades ยังช่วยติดตั้งและอัปเกรดฟังก์ชันและบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ได้แบบไร้สาย ด้านเทคโนโลยีสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับระบบอัตโนมัติรุ่นล่าสุด
มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant ที่เรียกใช้งานได้เพียงพูดว่า “Hey BMW” นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน My BMW App ยังช่วยให้ผู้ขับสามารถสั่งการ ตรวจสอบสถานะของรถยนต์ และส่งข้อมูลจุดหมายปลายทางไปยังรถยนต์ได้โดยตรงผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งยังเข้าถึงบริการดิจิทัลอื่น ๆ ของ BMW Connected Drive Store ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Apple CarPlay หรือระบบแสดงข้อมูลสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ (RTTI) ส่วนการอัปเดทแผนที่นำทางผ่าน USB ผ่านแอปพลิเคชัน My BMW App ได้เช่นเดียวกัน
ส่งพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร B48A20A ทำงานควบคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ Steptronic แบบคลัทช์คู่ ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้าที่ 5,000-5,500 รอบ/นาที มอบแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาทีส่งให้ตัวรถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 238 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อม รูปแบบการขับขี่ที่มีโหมดให้เลือกทั้ง ECO PRO, Comfort, และ Sport
ใส่ใจในความปลอดภัยทั้งระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน hold อัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง ช่วยลดภาระในการขับขี่ได้แม้ในสภาวะจราจรติดขัด ในขณะเดียวกัน ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพด้านหลัง เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง ช่วยให้การจอดรถเทียบขนานและออกจากที่จอดรถที่ขนานไปกับถนนเป็นไปอย่างง่ายดาย และระบบช่วยถอยรถย้อนกลับในเส้นทางเดิมได้ไกลสูงสุดถึง 50 เมตร
ถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) โดยจำหน่ายในราคา 2,259,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)