หลังจากเปิดตัว BMW 3 Series LCI ปรับรอบ 2 ทั้งรุ่น 320d และรุ่นแรง M340i xDrive กันไปแล้วล่าสุดแนะนำรุ่นใหม่อีกรุ่นนั่นคือ BMW 330e M Sport
BMW 330e M Sport ปรับครั้งนี้เน้นเรื่องความจุแบตเตอรี่รถที่ใหญ่ขึ้นวิ่งไกลขึ้นในโหมดอีวีและปรับคุลภายนอกภายในให้เข้มขึ้น
เริ่มที่ภายนอกเสริมความโดดเด่นด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว แบบ Double Spoke สองสี พร้อมยางหน้า 225/40R19 และยางหลัง 255/35R19 เข้ากันอย่างลงตัวกับชุดแต่ง M Sport Pro รอบคัน ซึ่งมีทั้ง M Lights Shadowline เติมเฉดสีเข้มให้กับชุดไฟหน้า Adaptive LED ด้านข้างตกแต่งด้วย M High-gloss Shadowline with Extended Contents และสปอยเลอร์ท้ายแบบ M ก่อนเติมความสปอร์ตให้สมบูรณ์แบบด้วยหลังคากระจกระบบไฟฟ้าและคาลิเปอร์เบรกสีแดงเงา ในรหัส G20 มาพร้อมมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,713 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,827 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,440 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,851 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,910 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ห้องโดยสารปรับใหม่ เน้นย้ำประสบการณ์อันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหนังสไตล์ M แบบตัดขอบล่าง ชุดแต่งแผงคอนโซลหน้าแบบ Rhombicle Anthracite M แต่งด้วยผิวคาร์บอนสีเทาอ่อนแบบเงา
คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนังสัมผัสแบบ Luxury พร้อมแต่งพื้นผิวให้เนี้ยบยิ่งขึ้นด้วยตะเข็บในสีตัดกัน ไปจนถึงปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศใหม่ที่ใช้ปรับทิศทางลมได้ทั้งช่องแอร์กลาง ช่องฝั่งคนขับและฝั่งผู้โดยสารพร้อมกับหน้าจอ iDrive เวอร์ชันล่าสุดและระบบสั่งการ QuickSelect ที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 นำเสนอฟังก์ชันมากมายบนหน้าจอหลักรูปแบบใหม่ที่นำหลักการการออกแบบหน้าจอของอุปกรณ์ดิจิทัลยุคใหม่
มาประยุกต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่ารุ่นก่อน และลำโพงเซอร์ราวด์ Harman Kardon ที่มี BMW Iconic Sounds Electric ติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรก เพื่อส่งเสียงเครื่องยนต์แบบจำลองขณะขับขี่ในระบบไฟฟ้าล้วน
บนพื้นฐานเดิมทั้งดีไซน์คอนโซลหน้ามาพร้อมจอคู่แบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant โดยจอโค้งนี้เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลประกอบด้วย จอ Information Display 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส Control Display 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ พร้อมการสื่อสารที่ฉับไวแบบ 5G กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
จอเหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display เกียร์อัตโนมัติแบบปุ่ม เครื่องปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิ 3 โซนซ้าย-ขวาและหลัง ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ชาร์จมือถือไร้สาย พร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังทรงสปอร์ต คู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบความจำด้านคนขับ หนังแบบ Vernasca เลือกได้ 2 สีทั้งสีดำ Black decor stitching เดินด้ายดำ และสีน้ำตาล Mocha Decor Stitching เดินด้ายน้ำตาล และพื้นที่สัมภาระด้านท้าย 375 ลิตร
ขุมพลังเดิมกับตระกูล TwinPower Turbo Plug-In Hybrid ด้วยเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส B48B20A 184 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลัง 292 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sport Steptronic
งานนี้พัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาดใหม่ใหญ่ขึ้นเป็น 22.3 kWh (เดิม 12 kWh) รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัตต์ และลดเวลาชาร์จเต็มจาก 3.45 ชั่วโมง เหลือเพียง 2.15 ชั่วโมง
ส่วนระยะทางการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน (ตามมาตรฐาน WLTP) ก็เพิ่มขึ้นด้วยระยะทางสูงสุด 85-101 กิโลเมตรเมื่อขับขี่ในแบบไร้มลภาวะ (เดิม 55-68 กิโลเมตร) หรือ 101 กิโลเมตร (NEDC) ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ฟังก์ชัน Sport Boost สามารถเพิ่มสมรรถนะและอัตราเร่ง เสริมความสปอร์ตให้เร้าใจยิ่งขึ้นเป็นระยะเวลา 10 วินาที ปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ขณะที่ระบบกันสะเทือน Adaptive M ช่วยเสริมความแม่นยำในทุกจังหวะ ให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจบนทุกสภาพถนนครบครันด้วยฟังก์ชันด้านความปลอดภัยและสะดวกสบาย ทั้ง
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function)
- ช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)
- ช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
- ปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
- ความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
- ระบบช่วยนำรถเข้าทจอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus)
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง) ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) คาร์ซีทแบบ ISOFIX
ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ตรวจวัดลมยาง และป้ายสามเหลี่ยมเตือนสะท้อนแสง และระบบเสียงเตือนคนเดินเท้า (Acoustic Protection for Pedestrians) ขณะขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า
BMW 330e M Sport Life Cycle Impulse 2 พร้อมให้เป็นเจ้าของโดยจะเปิดราคาในวันที่ 24 มีนาคม มาพรัอมสีเทา Brooklyn Grey Metallic, น้ำเงิน Portimao Blue Metallic (ทั้งสองสีมาพร้อมเบาะหนัง Vernasca ตกแต่งด้วยตะเข็บสีดำ) ขาว Mineral White Metallic และดำ Black Sapphire Metallic (ทั้งสองสีมาพร้อมเบาะหนัง Vernasca ตกแต่งด้วยตะเข็บสีน้ำตาล)
