ข่าวดีสำหรับคนที่ยังเชื่อมั่นในพลังงานไฮโดรเจน! BMW ได้เริ่มเดินหน้าผลิตรถยนต์ต้นแบบที่ใช้ระบบ Hydrogen Fuel-Cell เจเนอเรชันที่ 3 แล้ว โดยมีกำหนดจะเริ่มผลิตจริงในปี 2028 สำหรับรถยนต์รุ่นที่ยังไม่เปิดเผย
ระบบ BMW Hydrogen Fuel-Cell รุ่นใหม่นี้มีขนาดเล็กลงถึง 25% ด้วยความหนาแน่นของพลังงานที่เพิ่มขึ้น ทาง BMW ระบุว่าระบบนี้จะถูกรวมเข้ากับโครงสร้างรถยนต์ในอนาคตได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถนำเสนอตัวเลือกขุมพลังที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้
แม้จะยังไม่มีการยืนยัน แต่คาดว่าขุมพลังไฮโดรเจนนี้จะถูกนำไปใช้ในรถยนต์ตระกูล Neue Klasse ของ BMW ก่อนใครเพื่อน ส่วนจะเป็นรถรุ่นไหนที่ได้ใช้เป็นรุ่นแรกยังไม่ชัดเจน แต่ปัจจุบันระบบรุ่นที่ 2 ถูกใช้ในรถต้นแบบ X5 อยู่แล้ว
หากเป็นไปตามแผน ระบบขับเคลื่อนใหม่นี้อาจถูกนำไปใช้ใน X5 เจเนอเรชันถัดไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 และสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม CLAR ของบริษัทได้
BMW ยังเคลมอีกว่าระบบใหม่นี้จะ “มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมาก” เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยให้ระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น กำลังที่สูงขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง แต่ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการ
ระบบใหม่นี้เป็นผลงานจากการร่วมมือกันระหว่าง BMW และ Toyota ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ตอนที่ BMW ต้องการสร้างรถยนต์ไฮโดรเจนรุ่น 535iA พวกเขาได้ระบบทั้งหมดมาจาก Toyota แต่พอมาถึงรุ่นที่ 2 BMW ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเป็นผู้ออกแบบระบบเองทั้งหมด ส่วน Toyota เป็นผู้ผลิต Fuel-Cell ให้
ระบบเจเนอเรชันที่ 2 นี้ถูกนำไปใช้ในรถต้นแบบ iX5 ที่มีอยู่ไม่ถึง 100 คัน และเริ่มทดสอบมาตั้งแต่ปี 2023 โดยให้กำลังสูงสุดถึง 396 แรงม้า และมีระยะทางวิ่งสูงสุด 313 ไมล์ ตามมาตรฐาน WLTP
แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายจะเลิกให้ความสนใจกับไฮโดรเจนไปแล้ว แต่หลายค่ายก็ยังคงเดินหน้าต่อ เพราะถึงแม้ว่าสถานีเติมเชื้อเพลิงจะยังมีอยู่น้อย แต่ไฮโดรเจนก็ยังถือเป็นทางเลือกที่สะอาดกว่าน้ำมันเบนซิน และให้ประสบการณ์การเติมที่คล้ายคลึงกัน
Source: Motor1