ค่าย BMW ขนรถใหม่กันมามากมายหลากรุ่นไม่ว่าจะเป็น BMW X3 BMW M4CS BMW 3 Series ยังมี BMW M5 เก๋งตัวแรงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
BMW M5 เจเนอเรชันที่ 7 นำพื้นฐาน BMW 5 Series รหัส G60 แต่งโหดทั้งคันผสมผสานความรู้สึกมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับลักษณะเฉพาะอันโดดเด่น
สร้างความแตกต่างอย่างเด่นชัดและเปี่ยมด้วยไดนามิกภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Carbon สีดำเงา หลังคาและฝาครอบกระจกมองข้างสีดำทรงปีก เป็นออปชันเสริม กระจังหน้าทรงไตคู่พร้อมไฟ LED เรืองแสงล้อมกรอบกระจังหน้าแบบ ‘Iconic Glow’ ไฟหน้า LED Adaptive โคมไฟหน้าตกแต่งสีดำ ดูดีสปอร์ตขึ้น ปรับไฟสูงอัตโนมัติแบบ Matrix High Beam
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED รูปตัวซีกลับด้านหน้าตาที่ทันสมัยและดีไซน์ใหม่หมดตั้งแต่ชุดกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตที่คล้ายๆรหัส G30 ที่เปิดประตูที่หวนกลับมาใช้แบบยกก้านแทนดึงก้านคล้าย BMW X1 จุดเด่นอีกอย่างนั่นก็คือเสา C มีกรอบเล็กๆปักชื่อ M5
ไฟท้าย LED แบบเส้นคู่แต่ยังคงเป็นแบบแยกไม่แบบแนวลากยาวเหมือนรถยุคใหม่แต่ก็ให้ความโฉบเฉี่ยวกว่า สปอยเลอร์หลังสีดำดีไซนเท่ ปลายท่อไอเสีย 4 ท่อรูปสี่เหลี่ยมเอกลักษณ์พร้อมดืฟฟิวเซอร์หลังสีดำครอบทับขนาดใหญ่และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 และ 21 นิ้วพร้อมยางหน้า 285/40 ZR20 และยางหลัง 295/35 ZR21 ความยาวตัวถังดังนี้
- ความยาว 5,096 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,510 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,006 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 115 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,435 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร
ภายในเริ่มที่คอนโซลหน้าดีไซน์ล้ำใส่จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส 14.9 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัว มีระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 แถมผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant มาให้
ระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto จอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้าหรือ BMW Head-up Display แถบไฟ BMW Interaction Bar ในบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูสี่บาน
ปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถสามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication)
ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant BMW gesture control ใช้นิ้วในการเพิ่มลดเสียงเปลี่ยนเพลง ปุ่ม iDrive
เครื่องเสียงคุณภาพจากแบรนด์ดัง Bowers & Wilkins กำลังขับ 655 วัตต์ ทั้งหมด 18 จุด พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชันพร้อมเบาะหนังแท้ เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอิสระให้ถึง 4 โซน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน สไตล์ M หุ้มหนังพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัย On-Centre Marker และ Paddle Shift ตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M
แป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวกและลบเป็นสีแดง พร้อมทั้งคุณสมบัติพิเศษเฉพาะ จากตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ กระจกมองข้างฝั่งคนขับและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M สีดำ
เบาะนั่งสปอร์ตแบบ M Bucket Seat หุ้มหนัง Merino ปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับแถมเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 มีพื้นที่ด้านหลัง 466 ลิตร กรรีไม่พับเบาะ และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟพร้อมม่านบังแสงแดดไฟฟ้าหุ้มหนัง Merino
ครั้งแรกของ M5 ที่นำ Plug In Hybrid มาประจำการด้วยเบนซินเทอร์โบคู่ V8 ยกมาจาก BMW XM ขนาด 4.4 ลิตร รหัส S68B44T0 ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้าที่ 5,600-6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 750 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,400 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ BMW eDrive ให้กำลัง 197 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 1,000-5,000 รอบต่อนาที
เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ามากถึง 727 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตรอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ภายใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 และไปไกลถึง 305 กิโลเมตรต่อขั่วโมงถ้าเพิ่มโหมดสมรรถนะ M Driver’s Package
ใช้พลังงานจากลิเธียม-ไอออนแบตเตอรี่ขนาด 18.6 kWh ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ แถมให้ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมดไฟฟ้าล้วนและวิ่งไกลสุด 67-69 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) รองรับการชาร์จสูงสุด 7.4 kW ชาร์จแบบกระแสสลับ AC 0–100% ภายใน 3.15 ชั่วโมง
มีะระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลา
คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic จาก ZF ผู้ขับขี่สามารถเลือกกดปุ่ม M Hybrid ที่คอนโซลกลางเพื่อเข้าโหมดใดโหมดหนึ่งจากทั้งหมด 5 โหมด ทั้ง HYBRID, ELECTRIC โหมดการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า 100%, eCONTROL, DYNAMIC, DYNAMIC Plus
สำหรับติดตั้งแพ็คเกจเสริม M Drive Professional พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering) กับระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่คาลิเปอร์หน้า 6 Pot ขนาด 16.1 นิ้ว และคาลิเปอร์หลัง 1 Pot ขนาด 15.7 นิ้ว มาพร้อมชุดเบรก M Compound Brake สีทอง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบเฟืองท้าย M Sport ช่วงล่าง Adaptive M Suspension พร้อมด้วยระบบปรับองศาล้อหลังขณะเข้าโค้ง (Integral Active Steering) สูงสุด 1.5 องศา และการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่แทบจะสมบูรณ์แบบที่อัตราส่วน 50:50 และความปลอดภัยมากมายทั้ง
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function)
- ช่วยการขับขี่รุ่น Professional (Driving Assistant Professional)
- ช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Professional (Parking Assistant Professional )
- ปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
- ความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง) และถุงลมนริภัยกลางห้องโดยสาร (บริเวณเบาะคนขับ) ตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) เซนเซอร์ควบคุมการจอดรถทั้งหน้าและหลัง กล้องมองภาพรอบคันะพร้อมกล้องมอง
หลัง ตรวจวัดลมยาง สร้างเสียงจำลอง เตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง
BMW M5 เจนใหม่ผลิตที่โรงงาน BMW Group เก่าแต่เก๋าที่เมืองดิงโกลฟิงทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียเยอรมนี มาไทยที่งาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานีในราคาจำหน่ายรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standardดังนี้
- M5 ใหม่ ราคา 12,999,000 บาท
- M5 ใหม่ พร้อมเบรกเซรามิก ราคา 13,699,000 บาท
