พึ่งจะเปิดตัว BMW M5 Sedan ไปเมื่อ 2 เดือล่าสุดเพิ่มทางเลือกให้กับเหล่าพ่อบ้านสาวกบีมเมอร์ที่ชื่นชอบกับเวอร์ชันแวน BMW M5 Touring รหัส G99
เจเนอรชันที่ 3 นำพื้นฐาน BMW 5 Series Touring รหัส G61 ตกแต่งโหดทั้งคัน ผสมผสานความรู้สึกมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นและคุณสมบัติด้านการใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น นำเสนอองค์ประกอบการออกแบบอันหรูหราและใช้งานแบบรถครอบครัว
ภายนอก Exterior
ภาพรวมคือการนำ M5 Sedan G90 มาผสมกับความเป็น 5 Series Touring G61 แตกต่างอย่างเด่นชัดเปี่ยมด้วยไดนามิกด้วย ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Carbon สีดำเงา หลังคาและฝาครอบกระจกมองข้างสีดำทรงปีก เป็นออปชันเสริม กระจังหน้าทรงไตคู่พร้อมไฟ LED เรืองแสงล้อมกรอบกระจังหน้าแบบ ‘Iconic Glow’ ไฟหน้า LED Adaptive โคมไฟหน้าตกแต่งสีดำดูดีสปอร์ตขึ้นพร้อมปรับไฟสูงอัตโนมัติแบบ Matrix High Beam
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED รูปตัวซีกลับด้านหน้าตาที่ทันสมัยและดีไซน์ใหม่หมดตั้งแต่ชุดกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต ที่เปิดประตูที่หวนกลับมาใช้แบบยกก้านแทนดึงก้านคล้าย BMW X1 ไฟท้าย LED เส้นคู่แบบแยกไม่แบบแนวลากยาวเหมือนรถยุคใหม่แต่ก็ให้ความโฉบเฉี่ยว
สปอยเลอร์หลังสีดำดีไซนเท่ ปลายท่อไอเสีย 4 ท่อรูปสี่เหลี่ยมเอกลักษณ์พร้อมดืฟฟิวเซอร์หลังสีดำครอบทับขนาดใหญ่และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 และ 21 นิ้วพร้อมยางหน้า 285/40 ZR20 และยางหลัง 295/35 ZR21 ความยาวตัวถังดังนี้
- ความยาว 5,096 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,516 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,006 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 118 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,475 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร
ภายใน Interior
เหมือน M5 Sedan ตั้งแต่คอนโซลหน้าดีไซน์ล้ำใส่จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส 14.9 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัว มีระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 แถมผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant มาให้
ระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto จอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้าหรือ BMW Head-up Display แถบไฟ BMW Interaction Bar ในบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูสี่บาน
ปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถสามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication)
ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant BMW gesture control ใช้นิ้วในการเพิ่มลดเสียงเปลี่ยนเพลง ปุ่ม iDrive
เครื่องเสียงคุณภาพจากแบรนด์ดัง Bowers & Wilkins กำลังขับ 655 วัตต์ 18 จุด พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชันพร้อมเบาะหนังแท้ เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอิสระให้ถึง 4 โซน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน สไตล์ M หุ้มหนังพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัย On-Centre Marker และ Paddle Shift ตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M
แป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวกและลบเป็นสีแดง พร้อมทั้งคุณสมบัติพิเศษเฉพาะ จากตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ กระจกมองข้างฝั่งคนขับและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M สีดำ
เบาะนั่งสปอร์ตแบบ M Bucket Seat หุ้มหนัง Merino สีดำสลับสีแดง ปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับแถมเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 มีพื้นที่ด้านหลัง 500 ลิตร กรณีไม่พับเบาะและถ้าพับเบาะมีพื้นที่มากถึง 1,630 ลิตรและหลังคาพาโนรามิกซันรูฟพร้อมม่านบังแสงแดดไฟฟ้าหุ้มหนัง Merino
สมรรถนะ Performance
ครั้งแรกของ M5 ทั้ง Sedan และ Touring ที่นำ Plug In Hybrid มาประจำการด้วยเบนซินเทอร์โบคู่ V8 ยกมาจาก BMW XM ขนาด 4.4 ลิตร รหัส S68B44T0 ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้าที่ 5,600-6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 750 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,400 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์
จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ BMW eDrive ให้กำลัง 197 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 1,000-5,000 รอบต่อนาทีเมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ามากถึง 727 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ภายใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 และไปไกลถึง 305 กิโลเมตรต่อขั่วโมงถ้าเพิ่มโหมดสมรรถนะ M Driver’s Package
ใช้พลังงานจากลิเธียม-ไอออนแบตเตอรี่ขนาด 18.6 kWh ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถแรงดัน 347.5 V แถมให้ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมดไฟฟ้าล้วนและวิ่งไกลสุด 61-67 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW ชาร์จแบบกระแสสลับ AC 0–100% ภายใน 2.15 ชั่วโมง
มีะระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลาและสามารถลากพ่วงเทรลเลอร์น้ำหนัก 2,000 กิโลกรัม
คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic จาก ZF ผู้ขับขี่สามารถเลือกกดปุ่ม M Hybrid ที่คอนโซลกลางเพื่อเข้าโหมดใดโหมดหนึ่งจากทั้งหมด 5 โหมด ทั้ง HYBRID, ELECTRIC โหมดการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า 100%, eCONTROL, DYNAMIC, DYNAMIC Plus
สำหรับติดตั้งแพ็คเกจเสริม M Drive Professional พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering) กับระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่คาลิเปอร์หน้า 6 Pot ขนาด 16.1 นิ้ว และคาลิเปอร์หลัง 1 Pot ขนาด 15.7 นิ้ว
มาพร้อมชุดเบรก M Compound Brake สีทอง เป็นอุปกรณ์มาตรฐานระบบเฟืองท้าย M Sport ช่วงล่าง Adaptive M Suspension และความปลอดภัยมากมาย
เบื่องต้น BMW M5 Touring ผลิตใที่โรงงาน BMW Group เก่าแต่เก๋าที่เมืองดิงโกลฟิง ทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ส่งมอบตั้งแต่พฤศจิกายนพร้อม BMW M5 Sedan ขายทั้งสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่ใหญ่ที่สุด ยุโรป สหราชอาณาจักร เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และแคนาดา ลุ้นมาไทยปีหน้า
ที่มา BMW