ในขณะที่ BMW กำลังพัฒนา iX5 Hydrogen อย่างต่อเนื่อง โดยมีการปล่อยขบวนรถทดสอบจำนวน 100 คัน ออกไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด หัวหน้าวิศวกรของ BMW, Jürgen Guldner ได้มีการเปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผลิต FCEV ล็อตแรกของทางค่าย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ
Guldner ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบตัวถังของรถรุ่นถัดไป ถึงแม้เขาจะยอมรับว่าขนาดของ BMW X5 นั้นพอเหมาะกับเทคโนโลยีนี้ก็ตาม โดยเป้าหมายของพวกเขาคือ การสร้างถังไฮโดรเจนที่สามารถบรรจุลงในช่องว่างของแบตเตอรี่ ภายในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนั่นทำให้สถาปัตยกรรมของ BMW Neue Klasse สามารถเข้ากันได้กับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง
Guldner ผู้รับผิดชอบโครงการไฮโดรเจนของ BMW เชื่อว่า การนำรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจนมาใช้จริง จะขึ้นอยู่กับ ‘เวลา’ เท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะยังคงเป็น ‘ส่วนน้อย’ ก็ตาม โดยเจ้าตัวเสนอแนะในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแอนต์เวิร์ปว่า รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนสามารถเป็นทางเลือกแทนรถยนต์ไฟฟ้าได้ เมื่ออุตสาหกรรมถึงขีดจำกัดในแง่ของวัตถุดิบหรือโครงสร้างพื้นฐาน
ตามรายงานจากสื่อ Autocar, BMW กำลัง ‘รอจุดเปลี่ยนของโครงสร้างพื้นฐาน’ ก่อนที่พวกเขาจะเปิดตัว FCEV ล็อตแรกในตลาด โดยทางค่ายต้องการใช้ประโยชน์จากคำสั่งโครงสร้างพื้นฐานเชื้อเพลิงทางเลือกที่กำลังจะมีขึ้นใน EU ซึ่งมันจะกำหนดให้มีการติดตั้งสถานีเติมเชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุก FCEV ทุก ๆ 150 km บนทางหลวงสายหลัก
ในส่วนของราคานั้น Guldner เปิดเผยว่าต้นทุนของ FCEV กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว แต่มันยังคงมีต้นทุนที่สูงอยู่เนื่องจากปริมาณการผลิตที่ต่ำ
แน่นอนว่า BMW ได้ทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการผลิตและขาย FCEV จริง ซึ่งผลลัพธ์จากการศึกษาของ BMW ชี้ให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายของ FCEV อาจเทียบเท่ากับ BEV ภายในทศวรรษหน้า นอกจากนี้ วัตถุดิบที่ต้องใช้ในการผลิต FCEV ยังน้อยกว่า BEV มาก ทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่าต่อความผันผวนในตลาด
อ้างอิง : carscoops.com
