More

    BYD ตั้งเป้าขายรถทั่วโลก 1 ล้านคัน ภายในสิ้นปี 2025 ครึ่งปีหลังยอดต้องเท่าตัว

    BYD ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) รายใหญ่ของโลก ตั้งเป้าหมายสุดทะเยอทะยานที่จะขายรถยนต์ในตลาดต่างประเทศให้ได้ถึง 1 ล้านคัน ภายในสิ้นปี 2025 ตามที่ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายแบรนด์และประชาสัมพันธ์ของบริษัทได้เปิดเผย ซึ่งต้องเพิ่มยอดขายในต่างประเทศให้เป็นสองเท่าจากครึ่งปีแรกของปี 2025 เลยทีเดียว หากทำได้สำเร็จก็จะขึ้นมาท้าชนกับผู้นำด้านการส่งออกรถยนต์ของจีนอย่าง SAIC และ Chery ได้อย่างเต็มตัว

    BYD

    ยอดขายในต่างประเทศของบีวายดี เติบโตอย่างก้าวกระโดดนับตั้งแต่ปี 2022 โดยเมื่อปีที่แล้วบริษัทสามารถขายรถนอกประเทศจีนได้ถึง 417,204 คัน และในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ยอดขายต่างประเทศก็พุ่งไปกว่า 472,000 คันแล้ว ซึ่งตัวเลขนี้เองที่ทำให้บริษัทมองว่าจะสามารถทำยอดขายรวมทั้งปีให้เป็นสองเท่าได้

    หลี่ ยวิ่นเฟย ยืนยันว่า BYD ตั้งเป้าจะทำยอดขายต่างประเทศในปี 2025 ให้ได้มากกว่า 944,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างแท้จริง

    ปัจจุบันบีวายดีทำตลาดในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก แต่ไม่ได้พึ่งพาแค่การส่งออกอย่างเดียว เพราะบริษัทได้สร้างโรงงานผลิตในต่างประเทศแล้วที่ อุซเบกิสถาน และ ไทย และมีแผนที่จะสร้างโรงงานอีกหลายแห่งใน ตุรกี, ฮังการี, บราซิล และประเทศอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกำแพงภาษี

    ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนที่แล้วได้ส่งออกรถ Dolphin ที่ผลิตในประเทศไทยกว่า 900 คัน ไปยัง เยอรมนี, เบลเยียม และ สหราชอาณาจักร เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 20.7% ที่จะถูกเรียกเก็บนอกเหนือจากภาษีศุลกากรเดิม 10% การมีโรงงานนอกประเทศจีนจะช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการขยายตลาดต่างประเทศ

    BYD

    การขายรถในต่างประเทศถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากสำหรับ BYD จากรายงานของ Rodium Group ในปีที่ผ่านมาพบว่า สามารถทำกำไรได้ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 185,000 บาท ต่อรถหนึ่งคันที่ขายในยุโรป แม้จะต้องเจอกับกำแพงภาษีสูงๆ ก็ตาม ในขณะที่กำไรต่อคันในจีนอยู่ที่ราว 9,000 หยวน หรือประมาณ 45,000 บาท เท่านั้น

    นอกจากนี้ การส่งออกยังเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโต เนื่องจากตลาดในประเทศเริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า BYD ได้ชะลอการผลิตในจีนลงเนื่องจากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น แม้ว่าผู้บริหารจะออกมาปฏิเสธ แต่การที่บริษัทต้องลดราคาครั้งใหญ่ในเดือนพฤษภาคมกับรถยนต์ถึง 22 รุ่น ก็เป็นสัญญาณว่าปัญหาเรื่องสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง

    โดยรวมแล้ว ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ บีวายดีขายรถยนต์นั่งไปได้ 2,458,914 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 26.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่การเติบโตเริ่มชะลอลงในเดือนกรกฎาคมที่มียอดขายรถยนต์นั่งเพียง 341,030 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นแค่ 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นการเติบโตแบบปีต่อปีที่ต่ำที่สุดในรอบ 1.5 ปี

    เป้าหมายยอดขาย 1 ล้านคันในตลาดโลกของ บีวายดีจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของค่ายรถยนต์สัญชาติจีนรายนี้ คุณคิดว่าพวกเขาจะทำได้ไหม?

    Source: CarNewsChina

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts