ในที่สุด BYD ประเดิมตลาดเมืองจีนเปิดตัวเอสยูวีพลังปลั๊กอินไฮบริดพร้อมกันถึง 2 รุ่นนั่นคือ BYD SONG PRO DM-i เจนใหม่ และ BYD SEALION 05 DM-i
ภายนอก Exterior
เริ่มที่เอสยูวีรุ่นใหม่จากตระกูล Ocean อย่าง BYD SEALION 05 DM-i มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์ X
เริ่มที่กระจังหน้ามาแนวทรงทึบมีเส้นสีเงินรายล้อมในชุดกระจังหน้า ติดตรา BYD รับกับไฟหน้า LED พร้อมกันชนหน้ามีช่องระบายอากาศ ด้านข้างตกแต่งแถบสีเงินที่ขอบกระจก ราวหลังคา พร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ที่เปิดประตูดึงก้าน
ด้านท้ายมีความคล้ายกับ BYD SONG L DM-i ด้วยไฟท้าย LED แบบแนวยาว ติดตรา BYD อย่างเท่ลงตัวด้วยชุดกันชนหลังดีโซน์ล้ำด้วยคิ้วชายล่างแนวยาวสีเงินตรงกลางมีเส้นแนวตั้ง 6 เส้นสร้างความดึงดูดเมื่อแรกเห็น
ล้ออัลลอยทูโทนขนาดใหญ่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/60R18 และ 19 นิ้วพร้อมยาง 235/50R19 ตัวรถมาในร่างเอสยูวีทรงกล่องและขนาดเล็กลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่น SONG L DM-i แม้จะใช้พื้นฐานจากรุ่น SONG PRO DM-i ตั้งแต่
- ความยาว 4,710 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,720 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,712 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,765 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร
ภายใน Interior
ภายในดีไซน์สวยแปลงตัวตนให้เป้นในไสตล์ Ocean ด้วยแผงคอนโซลหน้าเป็นศูนย์นรวมของชุดมาตรวัดความเร็วแนวนอนขนาด 8.8 นิ้ว จอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.8 กับ 15.6 นิ้วสามารถหมุนจอได้
ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ พร้อมลำโพง 6-8 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกุญแจ NFC พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50 W
หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C และ Type A
ภายในปรับโทนสีภายในเป็นสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าโดยด้านคนขับปรับได้ 6 หรือ 8 ทิศทาง คนนั่งปรับ 4 ทิศทางทั้งแบบปรับธรรมดาและไฟฟ้า เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 มีพื้นที่มากถึง 1,430 ลิตรกรณีพับเบาะ และ 407 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ
สมรรถนะ Performance
มาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด DM-i เวอร์ชัน 5.0 บนพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส BYD472QC ให้กำลัง 101 แรงม้า แรงบิด 126 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 163 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ประหยัด 26.38 กิโลเมตรต่อลิตร (NEDC) ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สามารถชาร์จกระแสตรง DC รองรับกำลังการชาร์จ 18 kW และกระแสสลับ AC รองรับกำลังการชาร์จ 3.3 kW โหมดการขับขี่ HEV/EV/Snow/ECO/SPORT/Normalกับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนพร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD ที่มีถึง 2 ทางเลือกเริ่มที่
- รุ่นความจุแบตเตอรี่ 12.9 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 75 กิโลเมตร มาตรฐาน CLTC น้ำมัน 1 ถังและชาร์จ 1 ครั้งวิ่งไกลรวม 1,360 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.3 วินาที
- รุ่นความจุแบตเตอรี่ 18.3 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 115 กิโลเมตร มาตรฐาน CLTC น้ำมัน 1 ถังและชาร์จ 1 ครั้งวิ่งไกลรวม 1,400 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.5 วินาที
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 3.3 kW 220V ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงได้แก่
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and Go
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
- อ่านป้ายจราจร (TSR)
- ไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- เตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ (LDA)
- แจ้งเตือนจํากัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLI)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ISLC)
- แจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ตัดการทำงานของคันเร่งเมื่อแป้นเบรกและคันเร่งทำงานในเวลาเดียวกัน (BOS)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ขายจีน 4 รุ่นย่อยค่าตัวเริ่ม 112,800 -142,800 yuan หรือราว 529,000-669,000 บาท
ที่มา CarNewsChina
