More

    BYD SEALION 07 DM-i ภายในใหม่สุดหรูพร้อมตู้เย็นจ่อเผยจีนปีนี้

    BYD จีนเล่นวิธีโชว์ดักคอเผยภาพภายในใหม่ของเอสยูวี BYD SEALION 07 DM-i จากตระกูล Ocean หลังเห็นภายนอกกันไปแล้ว

    BYD โดย BYD SEALION 07 DM-i นั่นคือรุ่นปรับโฉมของ BYD Frigate 07 จากพื้นฐาน BYD TANG ที่ทำตลาดตั้งแต่ปี 2022

    BYD

    เริ่มที่ภายในยกมาจากภายในดีไซน์สวยแปลงตัวตนให้เป็นในไสตล์ Ocean ด้วยแผงคอนโซลหน้าเป็นศูนย์นรวมของชุดมาตรวัดความเร็ว LCD แนวนอนขนาด 10.25 นิ้ว จอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้วสามารถหมุนจอได้ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ พร้อมลำโพง 6-8 จุด

    มีจอแสดงข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า W-HUD Head-up Display เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกุญแจ NFC พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้าน ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W

    BYD

    หัวเกียร์ติดตั้งที่คอพวงมาลัยหรือเรียกันว่าเกียร์คอ คอนโซลกลางรายล้อมด้วยช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C และ Type A ภายในปรับโทนสีเข้ม เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าโดยด้านคนขับปรับได้ 6 หรือ 8 ทิศทาง คนนั่งปรับ 4 ทิศทางทั้งแบบปรับธรรมดาและไฟฟ้า เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 โดยมาแบบ 5 ที่นั่งพิเศษมีตู้เย็นแช่เครื่องดื่มและยังอุ่นความร้อนด้วยช่วงอุณหภูมิในการทำงานคือ -6 ถึง 50 องศาเซลเซียส

    ภายนอกใหม่ด้วยหน้าตาใหม่ตั้งแต่ โลโก้ BYD อยู่เหนือแถบไฟหน้าแบบ LED มีไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light (DRL) ในโคมเดียวกันเชื่อมต่อกันทั้งสองด้านด้วยกระจังหน้าแบบปิดทึบแบบมีปีก ชุดกันชนหน้าทูโทนสีพร้อมช่องระบายอากาศทรงสามเหลี่ยมพร้อมมุมชายล่างสีดำมุมซ้าย-ขวา

    BYD

    ด้านข้างตกแต่งกรอบกระจกโครเมียม ติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR จาก RoboSense ที่ได้รับการสนับสนุนโดย BYD หลังคา Panoramic Sunroof กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูแบบเรียบเนียนกับตัวถัง คิ้วขอบล้อสีดำออกแบบกลมกลืนกับคิ้วชายล่างแถบเส้นสีเงินทั้งชิ้น

    ดีไซน์ด้านหลังสโลปลงพร้อมสปอยเลอร์ไฟท้าย LED แนวยาวในโคมทรงปีกนก ติดตรา BYD อย่างเท่ลงตัวด้วยชุดกันชนหลังดีโซน์ล้ำด้วยคิ้วชายล่างแนวยาวสีเงินสองฝั่งและแผงทับทิมรูปตัวยูในชุดกันชนท้ายออกแบบลงตัวและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ขนาดยาง 255/50R20 มิติตัวรถตั้งแต่

    • ความยาว 4,880 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,920 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,750 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,820 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,103-2,346 กิโลกรัม

    BYD
    ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเวอร์ชันใหม่ DM 5.0 เป็นเบนซินเทอร์โบปลั๊กอินไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD472ZQB 156 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร พร้อมไฮบริดไฟฟ้า EHS200 ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน lithium iron phosphate (LFP) ให้ความจุแบต 26.6 kWh กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น TZ210XYD 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังรวม 476 แรงม้า

    จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง ECO, Normal, Sport, HEV และ EV สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.7 วินาที และ ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 100-120 กิโลเมตร

    ประหยัดสุด 15.15-18.18 กิโลเมตรต่อลิตรมีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ ระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Economy/Sports/Comfort/Snow)

    ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยควบคุมกำลังมอเตอร์เมื่อเหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกัน BOS brake priority system และถุงลมนิรภัยรอบคัน

    ที่สำคัญยังเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Eye of God มาด้วยสัญลักษณ์ท้ายรถสีน้ำเงิน Eye of God C (Dipilot 100) ประกอบด้วยฟังก์ชัน:ระบบนำทางบนทางหลวงและทางด่วน+ช่วยจอดรถ, มีระบบ Laser LiDAR, ชิปขับเคลื่อนอัจฉริยะ:Orin-N; J6M, พลังประมวลผลของชิป: 84/128 TOPS

    จำนวนกล้อง 12 จุด (ประกอบด้วย กล้องมองหน้าความชัด 8MP 3 จุด, กล้องมองรอบทิศทางความชัด 3MP 4 จุด, กล้องมองข้างความชัด 3MP 4 จุด, กล้องมองหลังความชัด 3MP 1 จุด), เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 จุด

    BYD

    เรดาร์อัลตราโซนิก 12 จุด พร้อมความแม่นยำในการตรวจจับวัตถุ 1 เซนติเมตร และเวลาแฝงในการรับรู้ระดับความสูงลดลงเหลือ 30 มิลลิวินาที รองรับฟังก์ชัน Navigation On Autopilot (NOA) บนทางหลวง โดยเตรียมเปิดตัวที่จีนปี 2025 คาดว่าราคาอยู่ที่ 200,000-250,000 YUAN หรือราว 949,000- 1,185,000 บาท และเตรียมโกอินเตอร์ไปยังตลาดโลกแต่จะเข้าไทยหรือไม่ต้องติดตาม

    ที่มา CarNewsChina

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts