นอกจากเปิดตัว BYD SEALION 6 DM-i รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2025 ไปแล้วยังเวอร์ชันอีวีล้วนก็เปิดตัวตามมาด้วยกับ BYD SEALION 6 EV
BYD SEALION 6 EV หรือ BYD SONG PLUS EV หนึ่งในตระกูล OCEAN ปรับลุคเล็กน้อยตามเวอร์ชัน PHEV ให้ดูดีดูหรูต้อนรับปี 2025 ให้ชาวจีนได้สัมผัสก่อนใคร
ภายนอก Exterior
คล้ายกับเวอร์ชัน DM-i Plug In Hybrid จุดต่างตรงที่ชุดกันชนหน้าขึ้นรูปชิ้นเดียวทรงทึบไม่มีช่องระบายอากาศ ประกบคิ้วสีเงินสองเส้นซ้าย-ขวาบนมุมกันชน กระจังหน้าแบบไร้ขอบโค้งมนคล้ายหยดน้ำ พร้อมไฟหน้า LED พัฒนาใหม่ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL LED ใต้ชุดไฟหน้าแบบรูปตัวซี ภายใต้คอนเซ็ปต์ OCEAN X กระจกแบบโอเปร่าดีไซน์หรูหราดุจรถยุโรป เส้นสายของตัวถังที่ดูลื่นไหลนับตั้งแต่จมูกหน้ารถไปจนแนวตัวถังด้านข้าง
ไฟท้าย LED ที่วางแบบเต็มท้ายรถ ติดตั้งดิฟฟิวเซอร์มาให้พร้อมไฟถอยหลังใต้กันชนและไฟทับทิมซ้าย-ขวา มีคำว่า BํYD เรืองแสงสีแดง บนฝาท้ายรถ หลังคารถพาโนรามิกซันรูฟ ล้อสีทูโทนดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R19 ตัวรถมาในร่างเอสยูวีไซซ์ใหญ่ D-Segment มิติตัวรถต่างจากเวอร์ชัน DM-i Plug In Hybrid เล็กน้อย ตั้งแต่
- ความยาว 4,785 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,660 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
เน้นความล้ำสมัยพร้อมออปชันใหม่ตั้งแต่ภายในโทนสีใหม่สีม่วง/สีขาว จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนืออคนโซลหน้า W-HUD ลำโพงคุณภาพจาก Infinity 10 จุด พร้อมระบบเสียง surround sound effects ที่ชารืจมือถือไร้สายกำลังการชาร์จ 50 W พร้อมออปชันดั้งเดิมประจำรถได้แก่ จอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.8 กับ 15.6 นิ้วสามารถหมุนจอได้ ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink 100 รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน มาตรวัดความเร็ว 12.3 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 เพื่อขยายพื้นที่ในการขนสัมภาระมากถึง 1,449 ลิตร กรณีพับเบาะและมีพื้นที่ถึง 574 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกุญแจ NFC พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงท้ายตัดสามก้าน ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 จุด หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด
สมรรถนะ Performance
เวอร์ชันไฟฟ้า BEV มาพร้อมกันถึงสองรุ่นสองความแรงจากพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า Permanent Magnet Synchronous Motor พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium iron phosphate (LFP) เริ่มที่รุ่น Standard Range มีความจุแบตเตอรี่ขนาด 71.8 kWh กำลังสูงสุด 204 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดระดับ 310 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 420 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) หรือ 520 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC แถมให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 9.3 วินาที รองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging) 30-80% ภายในเวลา 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 90 kW และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% ได้ 8 ชั่วโมง
รุ่น Extended Range มีความจุแบตเตอรี่ขนาด 87.04 kWh กำลังสูงสุด 218 แรงม้า กับ แรงบิดสูงสุดระดับ 330 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) หรือ 605 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC แถมให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 9.6 วินาที รองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging) 30-80% ภายในเวลา 28 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 140 kW และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% ได้ 8 ชั่วโมง รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW
มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed พร้อมโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง Eco, Standard และ Sport มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo ยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ MacPherson Strut เสริมความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนน และระบบกันสะเทือนแบบ Multi-Link ยกระดับความนุ่มนวลและความสบายระหว่างการเดินทางเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกให้ห้องโดยสารเงียบสงบตลอดเส้นทาง
ความปลอดภัย Safety
ขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงได้แก่
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and Go
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS)
- ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW with RCW)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB)
- ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP)
- ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA)
- ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
ความปลอดภัยพื้นฐาน ทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
BYD SEALION 6 EV หรือ BYD SONG PLUS EV MY2025 ขายจีน 3 รุ่นย่อยในราคา 149,800–175,800 Yuan หรือราว 719,000-849,000 บาท
