เป็นหนึ่งรุ่นของค่าย BYD ที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทย จีน และต่างประเทศ สำหรับ BYD SEALION 6 กวาดยอดขายทั่วโลกกว่า 1,570,000 คัน
ล่าสุดเปิดตัวแล้วที่งาน Japan Mobility Show 2025 สำหรับ BYD SEALION 6 เอสยูวีพลังปลั๊กอินไฮบริดที่คาดว่านำเข้ามาจากประเทศไทย
หน้าตาเหมือนไทย
หล่อหรูด้วยชุดกันชนหน้าขึ้นรูปชิ้นเดียว มีช่องระบายอากาศแนวนอนสามชั้นตรงกลางของชุดกันชนหน้า ประกบคิ้วสีเงินสองเส้นซ้าย-ขวาบนมุมกันชน กระจังหน้าแบบไร้ขอบโค้งมนคล้ายหยดน้ำ พร้อมไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL LED ใต้ชุดไฟหน้าแบบรูปตัวซีภายใต้คอนเซปต์ BYD OCEAN X
ด้านข้างมาพร้อมราวหลังคาบิ๊วอิน หลังคารถพาโนรามิกซันรูฟ เสาอากาศครีบฉลาม กระจกแบบโอเปร่าดีไซน์หรูหราดุจรถยุโรป เส้นสายของตัวถังที่ดูลื่นไหลนับตั้งแต่จมูกหน้ารถไปจนแนวตัวถังด้านข้าง กระจกมองข้างปรับพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมตัวละลายฝ้าในกระจก
ไฟท้าย LED ที่วางแบบเต็มท้ายรถพร้อมระบบไฟฟ้าเปิด-ปิดแบบ One-touch ติดตั้งดิฟฟิวเซอร์มาให้พร้อมไฟถอยหลังใต้กันชนและไฟทับทิมซ้าย-ขวา มีคำว่า BYD บนฝาท้ายรถและล้อสีทูโทนดีไซน์เอกลักษณ์แต่เป็นสีดำ ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางจากค่าย Giti ขนาด 235/50R19 ตัวรถมาในร่างเอสยูวีไซซ์ใหญ่ D-Segment ตั้งแต่
- ความยาว 4,775 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,670 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,940 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 180 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร (มากกว่าสเปกไทยจากเดิม 45 ลิตร)
ภายใน
เริ่มที่รุ่น Essential จอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.8-15.6 นิ้ว สามารถหมุนจอได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมลำโพง Infinity 10 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light พร้อมไฟกะพริบตามจังหวะเพลง เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ชายบันไดกันรอยขีดข่วนสีเงิน ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 จุดกำลัง 15W และจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Head-up display และ เครื่องปรับอากาศกันฝุ่น PM 2.5
เชื่อมต่อ Apple Car Play Android Auto รองรับ 5G พร้อมระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน มาตรวัดความเร็ว LCD 12.3 นิ้ว เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงท้ายตัด 3 ก้าน หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold ช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด กุญแจ BYD Digital Key พร้อม NFC card key เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 เพื่อขยายพื้นที่ในการขนสัมภาระมากถึง 1,449 ลิตร กรณีพับเบาะและมีพื้นที่ถึง 425 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ
สมรรถนะ
ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ด้วยขุมพลังเบนซิน Plug In Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD472ZQA ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 122 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor แบบมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร
จากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าถึง 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.5 วินาที วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง ECO, Normal, Sport, HEV, EV และ Snow รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 6.6 kW และการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 18 kW ด้วยหัวชาร์จแบบ CHAdeMO มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ MacPherson Strut เสริมความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนน และระบบกันสะเทือนแบบ Multi-Link ยกระดับความนุ่มนวลและความสบายระหว่างการเดินทางเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกให้ห้องโดยสารเงียบสงบตลอดเส้นทาง
พร้อมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เบื่องต้น BYD SEALION 6 เตรียมขายจริงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 1 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ที่มา Carwatch

















