More

    BYD SHARK กระบะปลั๊กอินวิ่งไกล 840 กม. หลุดราคาออสซี่เริ่ม 1.5 ล้าน

    กำลังเตรียมขายที่ออสเตรเลียช่วงต้นปีหน้าสำหรับ BYD SHARK รุ่นแรกของค่ายพกพลังปลั๊กอินไฮบริดหลังจากที่เมกซิโกเปิดตัวไปแล้ว

    BYD

    ล่าสุดมีข้อมูลรั่วไหลในโลกออนไลน์ออกมาเป็นข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐของออเสตรเลียเรื่องราคาจำหน่ายเป็นราคารุ่นเริ่มต้นเป็นราคาไม่รวมค่า On-Road $68,000 หรือราว 1,565,000 บาท โดยราคาดังกล่าวใกล้เคียงกับ Ford Ranger V6 รุ่น XLT ซึ่งเป็นรุ่นรองท็อปเริ่ม $68,840 หรือราว 1,585,000 บาท และ Toyota HiLux Rogue เทคโนโลยี V-Active Mild Hybrid 48V 2.8 เริ่ม $71,530 หรือราว 1,649,000 บาท

    โดยทางสื่อออสเตรเลียต่อสายตรงไปยัง BYD Australia และดีลเลอร์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยให้คำตอบเราเตรียมอัปเดตเรื่องนี้ถ้ามีคำชี้แจงออกมา

    ภายนอก Exterior

    BYDมาพร้อมด้วยดีไซน์ภายนอกดุแกร่งเริ่มที่กระจังหน้าพร้อมตรา BYD ตัวบิ๊กล้อมกรอบด้วยไฟหน้าแนวตั้ง Dual LED ไฟหน้า DRL แบบ LED รูปตัว C บึกบึนกับชุดกับชนหน้าดีไซน์ลงตัวกับชุดกระจังหน้าสง่าด้วยหลังคารถแบบลอยตัวติดตั้งราวหลังคาและซันรูฟขนาดใหญ่

    ด้านข้างเด่นด้วยคิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยมกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18 บันไดข้างดีไซน์กลมกลืนกับคิ้วขายล่างประตู กระบะท้ายดุดันด้วยไฟท้าย LED แนวตั้งลากยาวแนวนอนในชุดกระบะท้าย กันชนหลังดีไซน์กลมกลืนกับตัวถังรถ

    สร้างจากแพลต์ฟอร์ม DMO super hybrid off-road platform สำหรับรถยนต์แนวลุยติดตั้งขุมพลังเสียบปลั๊กบนพื้นฐานแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ ladder-frame architecture

    • ความยาว 5,457 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,971 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,925 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 3,260 มิลลิเมตร
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 210 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,665 กิโลกรัม

    ภายใน Interior

    BYDมีออปชันมากมายทั้งคอนโซลหน้าดีไซน์แกร่งหุ้มหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังกชนสามก้านยกมาจาก Leopard 5 จอแสดงผลบนคอนโซลหน้า Head Up Display ขนาด 12 นิ้ว จอมาตรวัดดิจิทัลแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว

    จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้วในชุดแผงคอนโซลหน้า รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay กับ Android Auto พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hi BYD” Karaoke แอปพลิเคชันร้องคาราโอเกะ บนรถได้ กับลำโพง 8 จุด มีช่องเสียบ USB ทั้ง Type A และ Type C

    ช่องแอร์คู่ใต้จอสัมผัสคล้ายกับ BYD Song L เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมระบบฟอกอากาศประจุลบพร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึงระดับ CN95 คอนโซลเกียร์มาพร้อมหัวเกียร์สั้นจับกระชับ พร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold เบานั่งสบาย 5 ที่นั่ง และระบบกุญแจ NFC ทำงานควบคู่กับ กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Start

    สมรรถนะ Performance

    BYDขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Plug In Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD476ZQF พ่วงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP ที่มีความจุ 29.5 kW และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ Permanent magnet synchronous motor โดยมอเตอร์หน้าให้กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลัง 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร

    เมื่อทำงานร่วมกันให้ความแรงสูงสุด 430 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที  ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงชาร์จและเติมน้ำมันหนึ่งครั้งวิ่งไกลกว่า 840 กิโลเมตร และชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งไกล 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

    ให้ความประหยัดถึง 13.33 กิโลเมตรต่อลิตร มีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 2,500 กิโลกรัม ความสามารถในการบรรทุก 835 กิโลกรัม และใส่ของด้านท้ายจุถึง 1,450 ลิตร

    BYDชุดแบตเตอรี่จะอยู่ในส่วนกลางของแชสซีส์สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วยไฟฟ้าจะตอบสนองเร็วขึ้นกว่าเดิม 100 เท่า ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 40 kW ใช้เวลาเพียง 20 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC ได้ ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2/CCS Combo

    มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) เทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ และกล้องมองภาพรอบคัน 540 องศา

    BYDBYD SHARK หวังท้าชนเต็มรูปแบบกับสามตัวตึงของวงการกระบะตันครึ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับทั้ง ISUZU D-MAX Toyota Hilux และ Ford Ranger พร้อมทำตลาดเม็กซิโกที่แรกในราคาเริ่มต้น MXN 899,980-969,800 หรือราว 1,955,000-2,105,000 บาท ขายสองรุ่นย่อยทั้งรุ่น GL กับ GS ส่วนออสเตรเลียเตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า และรุ่นไฟฟ้าล้วนเปิดตัวในปี 2025 เมืองไทยจะมีสิทธิ์ไหมติดตามในครั้งต่อไป

    ที่มา Carexpert

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts