BYD แนะนำเอสยูวีรุ่นใหม่จากตระกูล Dynasty นั่นก็คือ BYD TANG L EV เจเนอเรชันใหม่สำหรับเจาะกลุ่มครอบครัวชาวจีนที่ต้องการรถครอบครัว
BYD TANG L เอสยูวีรุ่นใหญ่เจนใหม่ออกแบบมาเพื่ออยู่ตำแหน่งสูงกว่า BYD TANG ที่เปิดตัวตอนปี 2015 และทั้ง 2 ขายควบคู่กัน
ภายนอกหรูด้วยธีมการออกแบบสไตล์ Loong Face ตั้งแต่ไฟวิ่งกลางวัน DRL แบบ LED 2 เส้น อยู่เหนือชุดกระจังหน้าโครเมียมคลาสสิกแบบ 3 มิติที่เรียกว่า Dragon Mustache พร้อมตราตระกูล ถัง ภาษาจีน ปะอยู่กระจังหน้า เพื่อสื่อว่าคันนี้มาจากตระกูล Dynasty พร้อมชุดไฟหน้า LED 2 ดวง แยกส่วน พร้อมกรอบทรงเลข 7 สองฝั่งทรงหรูในชุดกันชนหน้าดีไซน์ล้ำพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำ
ด้านข้างเท่ด้วยคิ้วสีเงินโครเมียมแนวยาวพร้อมคำว่า BYD Design บริเวณบังโคลนหน้าและประตูคู่หน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED พร้อมกระจกโอเปร่าสไตล์ยุโรป ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถพร้อมติดตั้งระบบ LiDAR บนหลังคา ราวพลังคาทรงบิ๊วอินน์ หลังคาซันรูฟ คิ้วกรอบกระจกโครเมียม
ด้านท้ายหรูด้วยไฟท้าย LED แนวยาวแบบ Phoenix Wings ซึ่งมีรูปร่างเหมือนปีกนกฟีนิกซ์ พร้อมตรา BYD อยู่ใต้ไฟท้ายเรืองแสง รับกับกันชนหลังเสริมลิ้นกันชนหลังและล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วพร้อมยางหน้า 255/50R20 และยางหลัง 275/45R20 ในรุ่น EV และยาง 255/50R20 ในรุ่น PHEV และ 21 นิ้วพร้อมยาง 265/45R21 ตัวรถออกแบบโดย Wolfgang Egger หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BYD มิติตัวรถใหญ่กว่ารุ่น TANG จากพื่นฐาน Super e-Platform ตั้งแต่
- ความยาว 5,040 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,760 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,570-2,882 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตรในรุ่น PHEV
- ความจุสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า 136 ลิตรในรุ่น EV
ภายในถึงดีไซน์ตามสไตล์ BYD ตั้งแต่ เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนังอย่างประณีต มีช่องเก็บของหลายจุดสามารถวางแก้วน้ำ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งแบบ 2+3+2 เริ่มที่ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง พร้อมระบบความจำสำหรับเบาะคนขับ มีระบายอากาศ เป่าเบาะเย็น อุ่นเบาะและนวดเบาะได้
เบาะหลังตอนที่ 2 พับได้แบบ 60/40 พร้อมระบายอากาศ อุ่นเบาะและนวดเบาะได้ ปรับเลื่อนได้ด้วยระบบไฟฟ้า และตอนที่ 3 พับได้แบบ 50/50 แบบเรียบ โดยมีพื้นที่ด้านท้าย 675 ลิตร และเมื่อพับเบาะตอน 3 มีพื้นที่ 960 ลิตร และพับทั้งตอน 2 และ 3 มีพื้นที่มากถึง 1,960 ลิตร กระจกประตู 4 บานแบบ 2 ชั้นอย่างหนาเพื่อเพิ่มความรู้สึกเงียบสงบ และยังมีตู้เย็นขนาดเล็ก พร้อมเครื่องปรับอากาศแยกอิสระอุณหภูมิซ้าย-ขวา และด้านหลังถึง 3 โซน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล LCD ให้เลือกทั้งแบบ 10.25 นิ้ว ถัดไปอีกเล็กน้อยคือ AR-HUD Head-up Display 26 นิ้วแสดงข้อมูลที่จำเป็นโดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้าส่วนจอแสดงผล ระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 15.6 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยระบบไฟฟ้า
เชื่อมต่อ Apple Car Play, Android Auto รองรับ 5G มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink พร้อมลำโพง 8 จุด และลำโพงคุณภาพ DiSound ให้เลือก ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด ระบบการเข้ารถและสตาร์ทแบบ Keyless ทำงานร่วมกับกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC
ขุมพลังไฟฟ้าล้วน Super E เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่เคลมว่าให้รอบสูงสุดในโลก จากสถาปัตยกรรม 1,000 V พัฒนาโดย BYD พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 100.5 kWh มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว TZ210XYR ขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 30,511 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 6.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงวิ่งไกลสุด 670 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 646 กิโลเมตร (NEDC) รองรับการชาร์จทั้ง DC กระแสตรง สูงสุด 1,000 kW ชาร์จเร็วสุด 5 นาที วิ่งได้ 370 กิโลเมตร ชาร์จทุกๆ 1 วินาที ได้ 1.6 กิโลเมตร 10-70% ภายใน 6 นาที และ 0-100% ภายใน 29.7 นาที และชาร์จ AC
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมอเตอร์หน้า YS230XYD ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 410 นิวตันเมตรที่ 21,500 รอบต่อนาที และมอเตอร์หลัง TZ210XYW ให้กำลัง 789 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 30,511 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวมสูงถึง 1,102 แรงม้า แรงบิด 860 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 3.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 579 กิโลเมตร (NEDC) รองรับการชาร์จทั้ง DC กระแสตรง สูงสุด 1,000 kW ชาร์จเร็วสุด 5 นาที วิ่งได้ 331 กิโลเมตร ชาร์จทุกๆ 1 วินาที ได้ 1.6 กิโลเมตร 10-70% ภายใน 6 นาที และ 0-100% ภายใน 29.7 นาที และชาร์จ AC พร้อมโหมดการขับขี่ SPORT/ECO/NORMAL/SNOW และ Mud/Sand/All Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
มีขุมพลัง Plug In Hybrid หรือ DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD ให้ความจุแบต 35.6 kWh จากพื้นฐานเครื่องเบนซินเทอร์โบ BYD472ZQB ขนาด 1.5 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร
เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYD ที่ด้านหน้า 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.9 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 215 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 207 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYD ที่ด้านหน้า 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร และด้านหลังให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 355 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.3 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 200 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 193 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ทั้ง 2 แบบ สามารถชาร์จกระแสตรง DC และกระแสสลับ AC พร้อมโหมดการขับขี่ EV/HEV/SPORT/ECO/NORMAL/SNOW และ Mud/Sand/All Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
มาพร้อมมีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ นุ่มนวลถึงใจด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อและระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบ Five-Link และติดตั้งระบบควบคุมตัวถังลดแรงกระแทกอัจฉริยะ Yunnan– C
ติดตั้งระบบ God’s Eye B สีแดงด้านหลัง (Dipilot 300) ประกอบด้วยฟังก์ชัน : ระบบนำทางในเมืองแบบไม่ต้องใช้แผนที่และที่จอดรถ e³ Laser LiDAR 1 จุด, ชิปขับเคลื่อนอัจฉริยะ: Orin-X ตัวเดียว, พลังประมวลผลของชิป: 254 TOPS, จำนวนกล้อง 12 จุด,เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 จุด และ เรดาร์อัลตราโซนิก 12 จุด มาครบทั้ง
- ช่วยขับขี่บนทางหลวงในความเร็วสูง High-speed Navigation (HNOA)
- นำทางในเมือง City Navigation (CNOA)
- จอดรถในที่จอดรถโดยอัตโนมัติ Valet Parking (AVP)
- ช่วยจอดรถอัตโนมัติ Automatic Parking (APA)
- จอดรถเองโดยอัตโนมัติ Remote Control Parking (RPA)
- เปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Lever Lane Change (ILCA)
- ล็อกรถเข้าเลน In-Channel Control (ICC)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- เตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ Lane Departure Assist (LDA)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Speed Limit Control (ISLC)
- อ่านป้ายจำกัดความเร็ว Speed Limit Sign Recognition (SLIF)
- เตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนดอัจฉริยะ Intelligent Speed Limit Alert (ISA)
- เตือนสัญญาณไฟจราจร Traffic Light Alert (TLA)
- เปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Intelligent High Beam (IHBC)
- จำลองสถานการณ์การขับขี่จริงผ่านมาตรวัด Full scene environment simulation display (SR)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ Low speed emergency brake (MEB)
- ช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า Side Distance Warning (SDW)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า Forward Cross Collision Alert (FCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า Frontal Collision Braking (FCTB)
- แจ้งเตือนก่อนกาชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Alert (RCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Collision Braking (RCTB)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door opening safety reminder (DOW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping Assist (ELKA)
- ลดความเร็วขณะเข้าโค้ง Curve Speed Warning (CSW)
- แจ้งเตือนความเหนื่อยล้าคนขับ Driver fatigue monitoring (DMS)
ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยควบคุมกำลังมอเตอร์เมื่อเหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกัน BOS brake priority system และถุงลมนิรภัยรอบคัน
เบื่องต้น BYD TANG L ทั้งรุ่น EV และ PHEV เปิดขายจีน 6 รุ่นย่อยในราคา 229,800–289,800 yuan หรือราว 1,079,000-1,359,000 บาท
ที่มา CarNewsChina