More

    ช็อค! BYD ยอดพุ่ง 8 เดือนโต 3,000% ตลาดรถ 8 เดือนสะสม 3 แสนคัน

    ตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ไทยยังคงลดลงต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ กำลังซื้อจำกัดและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

    BYD

    ฉุดตลาดรถยนต์ลดลงติดต่อกัน 45,190 คัน ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,305 คัน ลดลง 22.6% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 26,885 คัน ลดลง 26.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 14,970 คัน ลดลง 39.2%

    ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด17,090 คัน คิดเป็นสัดส่วน 38% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่รถยนต์ HEV ยังคงได้รับความนิยม โดยมียอดขายอยู่ที่ 8,658 คัน เติบโตขึ้น 33% คิดเป็นสัดส่วน 51% ของตลาด xEV และรถยนต์ BEV มียอดขาย 7,654 คัน เพิ่มขึ้น 16% คิดเป็นสัดส่วน 45% ของตลาด xEV ทั้งหมด

    ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนแนวโน้มจะยังคงทรงตัว แต่ยังคงเติบโตลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังคงฟื้นตัวช้า และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมถึงภาวะอุทกภัย อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

    สำหรับตลาดรถยนต์สะสม 8 เดือน 399,611 คัน ลดลง 23.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 154,194 คัน ลดลง 20.6% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 245,417 คัน ลดลง 25.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 139,532 คัน ลดลง 40.0%

    BYDเป็นที่น่าสังเกตุว่ายอดขายรถยนต์สะสม 8 เดือนในส่วนของรถยนต์นั่งทาง BYD ทำยอดโตขึ้นถึง 3,003.1% ส่วนแบ่งตลาด  9.7% ด้วยตัวเลข 14,926 คัน จากปริมาณการขายรวม 154,194 คัน ลดลง 20.6% ทั้งนี้เกิดจากการเปิดรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีรวมถึงแคมเปญลดราคาสูงสุด 3 แสนกว่าบาท

    ISUZUนอกจากนี้ทาง ISUZU ไปได้สวยกับ ISUZU MU-X The Next Peak หลังเปิดขาย 3 เดือนกว่าตั้งแต่ 18 มิถุนนายน มียอดจองรวมทุกรุ่นของ MU-X มากกว่า 6,300 คัน โดยยอดจองทั้งหมดที่ได้มานั้นส่วนใหญ่เป็นรุ่น RS และมีสัดส่วนมากถึง 42% และก็ได้ยอดจองมากขึ้นจากกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส MU-X มาก่อนและมีสัดส่วนถึง 57% เรียกว่าเป็นการตอบที่ดีอย่างยิ่ง

    และจากการตอบรับอย่างล้นหลามของ ISUZU MU-X The Next Peak ทำให้กำลังการผลิตของรุ่นท็อปสุดอย่าง RS ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการจนมียอดค้างส่งมอบโดยทาง ISUZU จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่สนใจ

     ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2567

    Toyota

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 45,190 คัน ลดลง 25%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า            17,843 คัน  ลดลง  14.5%  ส่วนแบ่งตลาด  39.5%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 6,145 คัน   ลดลง   46%   ส่วนแบ่งตลาด   13.6%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า              5,005 คัน   ลดลง  29.3%  ส่วนแบ่งตลาด   11.1%

    อันดับที่ 4 บีวายดี              3,457 คัน   เพิ่มขึ้น 53.6%   ส่วนแบ่งตลาด   7.6%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ             2,041 คัน    ลดลง   2.9%   ส่วนแบ่งตลาด   4.5%

    BYD

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,305 คัน ลดลง 22.6%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             5,554 คัน  ลดลง  33.5%   ส่วนแบ่งตลาด  30.3%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า              3,302 คัน  ลดลง  24.1%  ส่วนแบ่งตลาด  18.0%

    อันดับที่ 3 บีวายดี               2,170 คัน เพิ่มขึ้น  351.1% ส่วนแบ่งตลาด  11.9%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ              1,375 คัน เพิ่มขึ้น  48.0% ส่วนแบ่งตลาด  7.5%

    อันดับที่ 5 เอ็มจี                 1,177 คัน  ลดลง  26.1% ส่วนแบ่งตลาด  6.4%

    Toyota

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 26,885 คัน ลดลง 26.5%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า            12,289 คัน  ลดลง   1.9%    ส่วนแบ่งตลาด  45.7%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 6,145 คัน   ลดลง   46.0%   ส่วนแบ่งตลาด   22.9%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า               1,703 คัน  ลดลง   37.8%   ส่วนแบ่งตลาด   6.3%

    อันดับที่ 4 ฟอร์ด                 1,501 คัน  ลดลง   49.2%   ส่วนแบ่งตลาด   5.6%

    อันดับที่ 5 บีวายดี                1,287 คัน  ลดลง   27.3%    ส่วนแบ่งตลาด   4.8%

    ISUZU

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถ PPV*) ปริมาณการขาย 14,790 คัน ลดลง 39.2%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             7,086 คัน  ลดลง   29.2%   ส่วนแบ่งตลาด   47.3%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 5,275 คัน  ลดลง   47.2%   ส่วนแบ่งตลาด   35.2%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                1,501 คัน  ลดลง   49.2%   ส่วนแบ่งตลาด   10.0%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                 666 คัน  ลดลง   43.0%   ส่วนแบ่งตลาด   4.4%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   280 คัน  ลดลง   25.5%   ส่วนแบ่งตลาด   1.9%

    ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ปริมาณการขาย 2,667 คัน ลดลง 47.3%

    อันดับที่ 1 อีซูซุ                 1,158 คัน  ลดลง   26.5%   ส่วนแบ่งตลาด   43.4%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า                822 คัน  ลดลง   59.8%   ส่วนแบ่งตลาด   30.8%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                   542 คัน  ลดลง   52.0%   ส่วนแบ่งตลาด   20.3%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                 113 คัน  ลดลง   51.3%  ส่วนแบ่งตลาด   4.2%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                      32 คัน  ลดลง   57.9%   ส่วนแบ่งตลาด   1.2%

    Ford

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 12,303 คัน ลดลง 37.1%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             6,264 คัน  ลดลง   21.4%   ส่วนแบ่งตลาด   50.9%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 4,117 คัน  ลดลง   51.1%   ส่วนแบ่งตลาด   33.5%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                  959 คัน  ลดลง   47.5%   ส่วนแบ่งตลาด   7.8%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                553 คัน  ลดลง   40.9%   ส่วนแบ่งตลาด   4.5%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   248 คัน  ลดลง   17.3%   ส่วนแบ่งตลาด   2.0%

    สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – สิงหาคม 2567

    Honda

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 399,611 คัน ลดลง 23.9 %

    อันดับที่ 1 โตโยต้า            151,907 คัน  ลดลง  14.7%   ส่วนแบ่งตลาด  38.0%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 59,189 คัน   ลดลง  45.9%   ส่วนแบ่งตลาด  14.8%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า              53,946 คัน   ลดลง   11.2%    ส่วนแบ่งตลาด 13.5%

    อันดับที่ 4 บีวายดี               20,878 คัน  เพิ่มขึ้น 41.1%   ส่วนแบ่งตลาด  5.2%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ               18,263 คัน  ลดลง  25.3%   ส่วนแบ่งตลาด   4.6%

    MG

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 154,194 คัน ลดลง 20.6%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             44,131 คัน  ลดลง  34.6%  ส่วนแบ่งตลาด  28.6%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า              30,555 คัน  ลดลง  23.0%  ส่วนแบ่งตลาด  19.8%

    อันดับที่ 3 บีวายดี               14,926 คัน เพิ่มขึ้น 3,003.1%  ส่วนแบ่งตลาด  9.7%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ              12,345 คัน  เพิ่มขึ้น 6.5%  ส่วนแบ่งตลาด  8.0%

    อันดับที่ 5 เอ็มจี                   8,875 คัน  ลดลง 22.6% ส่วนแบ่งตลาด  5.8%

    Mitsubishi

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 245,417 คัน ลดลง 25.8%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า            107,776 คัน ลดลง   2.7%    ส่วนแบ่งตลาด  43.9%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                59,189 คัน  ลดลง   45.9%   ส่วนแบ่งตลาด   24.1%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า              23,391 คัน  เพิ่มขึ้น   11.0%  ส่วนแบ่งตลาด  9.5%

    อันดับที่ 4 ฟอร์ด                14,730 คัน  ลดลง   43.0%   ส่วนแบ่งตลาด  6.0%

    อันดับที่ 5 บีวายดี                 5,952 คัน  ลดลง   58.4%  ส่วนแบ่งตลาด   2.4%

    Nissan

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถ PPV*) ปริมาณการขาย 139,532 คัน ลดลง 40.0%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             64,144 คัน  ลดลง   29.2%   ส่วนแบ่งตลาด   46.0%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 51,711 คัน  ลดลง   47.7%   ส่วนแบ่งตลาด   37.1%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                14,730 คัน  ลดลง   43.0%   ส่วนแบ่งตลาด  10.6%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                5,869 คัน  ลดลง   54.1%   ส่วนแบ่งตลาด   4.2%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                  2,081 คัน  ลดลง   33.0%   ส่วนแบ่งตลาด   1.5%

    ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ปริมาณการขาย 24,481 คัน ลดลง 43.1%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             8,736 คัน  ลดลง   43.9%   ส่วนแบ่งตลาด   35.7%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 8,247 คัน  ลดลง   45.8%   ส่วนแบ่งตลาด  33.7%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                5,564 คัน  ลดลง   33.2%   ส่วนแบ่งตลาด   22.7%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ              1,656 คัน  ลดลง   45.5%   ส่วนแบ่งตลาด   6.8%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   278 คัน  ลดลง  66.8%   ส่วนแบ่งตลาด   1.1%

    ISUZU

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 115,051 คัน ลดลง 39.3%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             55,408 คัน  ลดลง   26.2%   ส่วนแบ่งตลาด  48.2%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 43,464 คัน  ลดลง   48.0%   ส่วนแบ่งตลาด  37.8%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                  9,166 คัน  ลดลง   47.6%   ส่วนแบ่งตลาด   8.0%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                4,213 คัน  ลดลง   56.7%   ส่วนแบ่งตลาด   3.7%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   1,803 คัน  ลดลง  20.5%   ส่วนแบ่งตลาด   1.6%

     

    ทางด้าน

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts