More

    ตลาดรถสิงหาคมเพิ่มขึ้น 5.4% กว่า 4 หมื่นคัน โตโยต้ากวาดเรียบทุกแชมป์

    ยอดขายรถยนต์ไทยเดือนสิงหาคม 2568 ทำได้ 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    Car

    แบ่งเป็นกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งยอดขาย 18,168 คัน ลดลง 0.7% จากปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3%

    ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,599 คัน ลดลง 2.5% รถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 11,230 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26% และมียอดขายสะสมแปดเดือนแรกถึง 89,598 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 50.6% ของตลาด xEV ทั้งหมด

    สรุปยอดขายรถยนต์ในช่วง 8 เดือนของปี 2568 ทั้งหมด 399,945 คัน เพิ่มขึ้น 0.1% แบ่งเป็นยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 154,766 คัน เพิ่มขึ้น 0.4 % ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 245,179 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% และรถกระบะขนาด 1 ตัน (รวมรถพีพีวี) ยอดขายสะสม 124,156 คัน ลดลง 11.0% โดยมีประเด็นเพิ่มเติมดังนี้

    ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ อาจส่งผลให้ชะลอการซื้อ ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ผันผวน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย

    สำหรับโตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมแปดเดือนแรกถึง 149,328 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.3% นำโดย Yaris ATIV 35,017 คัน และ Hilux REVO 25,182 คัน สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่ได้มีการแนะนำ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

    โดย New Yaris ATIV HEV น้องใหม่ล่าสุดสายไฮบริด ทำยอดจองสะสมหลังจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จนถึงวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา มากกว่า 3,700 คัน ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ รุ่น NEW bZ4X ที่เปิดรับจองสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ มีผู้สนใจลงทะเบียนที่ 1,890 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2568)

    ทางด้านค่ายจีดับเบิลยูเอ็มกลายเป็นแชมป์ใหม่กลุ่มตลาดรถกระบะดัดแปลงหรือพีพีวีประจำเดือนกรกฎาคมด้วยยอดขาย 1,110 คัน (รวม 2 รุ่นทั้ง GWM TANK 300 1,051 คัน และ GWM TANK 500 59 คัน) ส่วนแบ่งตลาด 29.1% สะสม 7 เดือนทำได้ 3,473 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.2%

    ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2568

    Toyota

    1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า      17,279 คัน  ลดลง 3.2% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ            5,581 คัน  ลดลง 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า         5,557 คัน  เพิ่มขึ้น 11% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

    อันดับที่ 4 บีวายดี         2,667 คัน  ลดลง 22.9% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%

    อันดับที่ 5 ฉางอาน        2,225  คัน เพิ่มขึ้น 450.7% ส่วนแบ่งตลาด 4.7%

    Honda

    2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,168 คัน ลดลง 0.7%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า      5,892 คัน   เพิ่มขึ้น 6.1%  ส่วนแบ่งตลาด 32.4%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า       3,056 คัน    ลดลง 7.5%   ส่วนแบ่งตลาด 16.8%

    อันดับที่ 3 บีวายดี        1,379 คัน   ลดลง 36.5%  ส่วนแบ่งตลาด 7.6%

    อันดับที่ 4 เอ็มจี          1,274 คัน   เพิ่มขึ้น 8.2%  ส่วนแบ่งตลาด 7.0%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ         718 คัน    ลดลง 47.8%  ส่วนแบ่งตลาด 4.0%

    BYD

    3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า      11,387 คัน   ลดลง 7.3%  ส่วนแบ่งตลาด 38.6%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ           5,581 คัน   ลดลง 9.2%  ส่วนแบ่งตลาด 18.9%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า         2,501 คัน  เพิ่มขึ้น 46.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.5%

    อันดับที่ 4 ฉางอาน        1,897 คัน  เพิ่มขึ้น 500.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%

    อันดับที่ 5 ฟอร์ด           1,500 คัน  ลดลง 0.1%   ส่วนแบ่งตลาด 5.1%

    ISUZU

    4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ PPV*) ปริมาณการขาย 14,599 คัน ลดลง 2.5%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า      6,619 คัน   ลดลง 6.6%   ส่วนแบ่งตลาด 45.3% (รวม Hilux Champ 608 คัน)

    อันดับที่ 2 อีซูซุ          4,4736 คัน  ลดลง 10.2%  ส่วนแบ่งตลาด 32.4%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด         1,500 คัน   ลดลง 0.1%   ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

    อันดับที่ 4 จีดับเบิลยูเอ็ม   973 คัน  ส่วนแบ่งตลาด 6.7% (รวม GWM TANK 823 คัน และ GWM TANK 500 150 คัน)

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ          578 คัน  ลดลง 13.2%  ส่วนแบ่งตลาด 4.0%

    Toyota

    5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,023 คัน ลดลง 10.4%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า      5,457 คัน   ลดลง 12.9% ส่วนแบ่งตลาด 49.5% (รวม Hilux Champ)

    อันดับที่ 2 อีซูซุ          3,940 คัน   ลดลง 4.3%  ส่วนแบ่งตลาด 35.7%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด            960 คัน   เพิ่มขึ้น 0.1%  ส่วนแบ่งตลาด 8.7%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ          477 คัน   ลดลง 13.7%  ส่วนแบ่งตลาด 4.3%

    อันดับที่ 5 นิสสัน            111 คัน  ลดลง 55.2%  ส่วนแบ่งตลาด 1.0%

    GWM

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 3,576 คัน เพิ่มขึ้น 34.1%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า       1,162 คัน เพิ่มขึ้น 41.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.5%

    อันดับที่ 2 จีดับเบิลยูเอ็ม  973 คัน  ส่วนแบ่งตลาด 27.2% (รวม GWM TANK 300 และ GWM TANK 500 )

    อันดับที่ 3 อีซูซุ            796 คัน  ลดลง 31.3% ส่วนแบ่งตลาด 22.3%

    อันดับที่ 4 ฟอร์ด           540 คัน ลดลง 0.4% ส่วนแบ่งตลาด 15.1%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ         101 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 3.2%

    *ตลาดรถบรรทุกขนาด 2 ตันขึ้นไป

    อันดับที่ 1 อีซูซุ             845 คัน ลดลง 2.9%

    อันดับที่ 2 ฮีโน่              298 คัน ลดลง 17.2%

    อันดับที่ 3 โฟตอน          48 คัน เพิ่มขึ้น 118.2%

    ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ มกราคม-สิงหาคม ปี 2568

    Honda

    1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 399,945 คัน เพิ่มขึ้น 0.1%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า     149,328 คัน  ลดลง 1.7%   ส่วนแบ่งตลาด 37.3%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ         48,572 คัน  ลดลง 17.9%  ส่วนแบ่งตลาด 12.1%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า      45,917 คัน  ลดลง 14.9%  ส่วนแบ่งตลาด 11.5%

    อันดับที่ 4 บีวายดี       30,045 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ      17,923 คัน  ลดลง 1.9%  ส่วนแบ่งตลาด 4.5%

    MG

    2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 154,766 คัน เพิ่มขึ้น 0.4%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า    51,931 คัน   เพิ่มขึ้น 17.7%  ส่วนแบ่งตลาด 33.6%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า     25,622 คัน   ลดลง 16.1%  ส่วนแบ่งตลาด 16.6%

    อันดับที่ 3 บีวายดี      13,837 คัน  ลดลง 7.3%  ส่วนแบ่งตลาด 8.9%

    อันดับที่ 4 เอ็มจี        10,997 คัน  เพิ่มขึ้น 23.9%  ส่วนแบ่งตลาด 7.1%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ       7,381 คัน  ลดลง 40.2%  ส่วนแบ่งตลาด 4.8%

    Toyota

    3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 245,179 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า      97,397 คัน   ลดลง 9.6%   ส่วนแบ่งตลาด 39.7%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ          48,572 คัน   ลดลง 17.9%  ส่วนแบ่งตลาด 19.8%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า        20,295 คัน  ลดลง 13.2%   ส่วนแบ่งตลาด 8.3%

    อันดับที่ 4 บีวายดี        16,208 คัน  เพิ่มขึ้น 172.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%

    อันดับที่ 5 ฟอร์ด         12,431 คัน  ลดลง 15.6%   ส่วนแบ่งตลาด 5.1%

    ISUZU

    4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ PPV*) ปริมาณการขาย 124,156 คัน ลดลง 11.0%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า     55,822 คัน  ลดลง 13.0%   ส่วนแบ่งตลาด 45.0% (รวม Hilux Champ)

    อันดับที่ 2 อีซูซุ         42,055 คัน  ลดลง 18.7%    ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด         12,431 คัน  ลดลง 15.6%    ส่วนแบ่งตลาด 10.0%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ       6,923 คัน  เพิ่มขึ้น 18.0%    ส่วนแบ่งตลาด 5.6%

    อันดับที่ 5 จีดับเบิลยูเอ็ม  4,454 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.6%

    Ford

    5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 96,046 คัน ลดลง 16.5%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า        46,260 คัน   ลดลง 16.5%    ส่วนแบ่งตลาด 48.2% (รวม Hilux Champ)

    อันดับที่ 2 อีซูซุ            34,172 คัน   ลดลง 21.4%    ส่วนแบ่งตลาด 35.6%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด            7,619 คัน    ลดลง 16.9%    ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ          5,810 คัน    เพิ่มขึ้น 37.9%   ส่วนแบ่งตลาด 6.0%

    อันดับที่ 5 นิสสัน             1,038 คัน    ลดลง 42.4%    ส่วนแบ่งตลาด 1.1%

    ISUZU

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 28,110 คัน เพิ่มขึ้น 14.8%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า       9,562 คัน  เพิ่มขึ้น 9.5%  ส่วนแบ่งตลาด 34.0%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ           7,883 คัน  ลดลง 4.4%  ส่วนแบ่งตลาด 28.0%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด          4,812 คัน  ลดลง 13.5%  ส่วนแบ่งตลาด 17.1%

    อันดับที่ 4 จีดับเบิลยูเอ็ม  4,446 คัน  ส่วนแบ่งตลาด 15.8%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ         1,113 คัน   ลดลง 32.8%  ส่วนแบ่งตลาด 4.0%

    *ตลาดรถบรรทุกขนาด 2 ตันขึ้นไป

    อันดับที่ 1 อีซูซุ           6,517 คัน ลดลง 12.9%

    อันดับที่ 2 ฮีโน่           2,829 คัน ลดลง 6.1%

    อันดับที่ 3 โฟตอน          381 คัน ลดลง 14.0%

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts