ยอดขายรถยนต์ไทยเดือนตุลาคม 2568 ทำได้ 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาแบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
- กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24.0%
- รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8%
- รถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%
รถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 12,329 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกับในปีที่ผ่านมา 69.0% และมียอดขายสะสมสิบเดือนแรกถึง 114,701 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51.4% ของตลาด xEV ทั้งหมด
สรุปยอดขายรถยนต์ในช่วง 10 เดือนของปี 2568 ทั้งหมด 495,001 คัน เติบโต 3.9% แบ่งเป็นยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 193,395 คัน เพิ่มขึ้น 4.3 % ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 301,606 คัน เพิ่มขึ้น 4.2% และรถกระบะขนาด 1 ตัน (รวมรถพีพีวี) ยอดขายสะสม 152,080 คัน เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันโดย 40% เป็นตลาดรถยนต์นั่ง ตลาดส่วนใหญ่กว่า 60 % ยังคงเป็นตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
แสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังคงเป็นตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง ISUZU ปลุกกระแสตลาดปิกอัพแนะนำ ISUZU D-MAX ปรับโฉมใหม่ โดยมีประเด็นเพิ่มเติมดังนี้
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ปลายปีในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ที่จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัว ขณะเดียวกัน อัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ
อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ยังมีปัจจัยบวก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงปลายปีจากมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ที่มีการขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปยังผู้ให้บริการสินเชื่อประเภท Non-Bank รวมทั้ง ลีสซิ่งของค่ายรถยนต์ (Captive Finance) ช่วยให้ SMEs รายย่อยสามารถเข้าถึงบริการสินเชื้อได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
สำหรับโตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมสิบเดือนแรกถึง 186,148 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 6% เติบโต 2.1% นำโดย Yaris ATIV 45,902 คัน และ Hilux REVO 50,402 คัน
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2568
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,348 คัน เพิ่มขึ้น 21.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,677 คัน เพิ่มขึ้น 37.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 5,278 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%
อันดับที่ 4 บีวายดี 2,304 คัน เพิ่มขึ้น 77.9% ส่วนแบ่งตลาด 4.9%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 1,846 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 3.9%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,133 คัน เพิ่มขึ้น 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,552 คัน เพิ่มขึ้น 5.7% ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
อันดับที่ 3 เอ็มจี 1,624 คัน เพิ่มขึ้น 115.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
อันดับที่ 4 บีวายดี 1,181 คัน เพิ่มขึ้น 42.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 592 คัน ลดลง 58.9% ส่วนแบ่งตลาด 3.1%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,215 คัน เพิ่มขึ้น 12.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,278 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 19.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,125 คัน เพิ่มขึ้น 173.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 1,430 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 5.2%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 1,254 คัน เพิ่มขึ้น 81.7% ส่วนแบ่งตลาด 4.5%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ PPV*) ปริมาณการขาย 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,246 คัน เพิ่มขึ้น 7.9% ส่วนแบ่งตลาด 46.0% (รวม Hilux Champ)
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,371 คัน ลดลง 16.0% ส่วนแบ่งตลาด 32.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,430 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
อันดับที่ 4 จีดับเบิลยูเอ็ม 767 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7% (รวม GWM TANK 300 639 คัน และ GWM TANK 500 127 คัน และ GWM POER 1 คัน)
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 565 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 4.2%
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 10,122 คัน ลดลง 7.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,861 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 48.0% (รวม Hilux Champ)
อันดับที่ 2 อีซูซุ 3,708 คัน ลดลง 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 874 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 485 คัน ลดลง 12.5% ส่วนแบ่งตลาด 4.8%
อันดับที่ 5 นิสสัน 141 คัน ลดลง 4.7% ส่วนแบ่งตลาด 1.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 3,250 คัน เพิ่มขึ้น 32.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 1,385 คัน เพิ่มขึ้น 85.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
อันดับที่ 2 จีดับเบิลยูเอ็ม 766 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.3% (รวม GWM TANK 300 639 คัน และ GWM TANK 500 127 คัน)
อันดับที่ 3 อีซูซุ 663 คัน ลดลง 34.2% ส่วนแบ่งตลาด 19.2%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 556 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 16.1%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 80 คัน ลดลง 41.2% ส่วนแบ่งตลาด 2.3%
*ตลาดรถบรรทุกขนาด 2 ตันขึ้นไป
อันดับที่ 1 อีซูซุ 907 คัน เพิ่มขึ้น 2.13%
อันดับที่ 2 ฮีโน่ 322 คัน ลดลง 13.4%
อันดับที่ 3 โฟตอน 53 คัน เพิ่มขึ้น 430.0%
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ มกราคม-ตุลาคม ปี 2568
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 495,001 คัน เพิ่มขึ้น 3.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 186,148 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 58,781 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 56,686 คัน ลดลง 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
อันดับที่ 4 บีวายดี 34,585 คัน เพิ่มขึ้น 47.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.0%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 22,338 คัน ลดลง 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 4.5%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 193,395 คัน เพิ่มขึ้น 4.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 65,912 คัน เพิ่มขึ้น 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 32,210 คัน ลดลง 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
อันดับที่ 3 บีวายดี 15,864 คัน ลดลง 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
อันดับที่ 4 เอ็มจี 14,271 คัน เพิ่มขึ้น 35.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 8,977 คัน ลดลง 40.9% ส่วนแบ่งตลาด 4.6%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 301,606 คัน เพิ่มขึ้น 4.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 120,236 คัน ลดลง 6.3% ส่วนแบ่งตลาด 39.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 58,781 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 19.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 24,476 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
อันดับที่ 4 บีวายดี 18,721 คัน เพิ่มขึ้น 156.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.2%
อันดับที่ 5 ฟอร์ด 13,361 คัน เพิ่มขึ้น 82.9% ส่วนแบ่งตลาด 4.4%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ PPV*) ปริมาณการขาย 152,082 คัน ลดลง 8.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 68,670 คัน ลดลง 10.1% ส่วนแบ่งตลาด 45.2% (รวม Hilux Champ)
อันดับที่ 2 อีซูซุ 50,506 คัน ลดลง 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 15,235 คัน ลดลง 12.5% ส่วนแบ่งตลาด 10.0%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 8,488 คัน เพิ่มขึ้น 17.0% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%
อันดับที่ 5 จีดับเบิลยูเอ็ม 6,266 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.1%
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 117,272 คัน ลดลง 14.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 56,809 คัน ลดลง 14.1% ส่วนแบ่งตลาด 48.4% (รวม Hilux Champ)
อันดับที่ 2 อีซูซุ 41,301 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 9,343 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 7,159 คัน เพิ่มขึ้น 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
อันดับที่ 5 นิสสัน 1,354 คัน ลดลง 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 1.2%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 34,810 คัน เพิ่มขึ้น 18.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,861 คัน เพิ่มขึ้น 15.4% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,205 คัน ลดลง 9.8% ส่วนแบ่งตลาด 26.4%
อันดับที่ 3 จีดับเบิลยูเอ็ม 6,228 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.9%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 5,892 คัน ลดลง 11.4% ส่วนแบ่งตลาด 16.9%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 1,329 คัน ลดลง 29.6% ส่วนแบ่งตลาด 3.8%
*ตลาดรถบรรทุกขนาด 2 ตันขึ้นไป
อันดับที่ 1 อีซูซุ 8,275 คัน ลดลง 11.4%
อันดับที่ 2 ฮีโน่ 3,559 คัน ลดลง 6.3%
อันดับที่ 3 โฟตอน 496 คัน เพิ่มขึ้น 6.9%
