More

    ผู้ผลิตรถยนต์จีนดันยอดขายในยุโรปสูงเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่สหภาพยุโรปจะประกาศใช้ภาษีใหม่

    เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์จีน โดนเรื่องภาษีรถยนต์นำเข้าที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเรียกเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่สูงถึง 38% ความท้าทายสำหรับแบรนด์ทางตะวันออกคือต้องขายรถให้ได้มากที่สุด

    ผู้ผลิตรถยนต์จีน

    และพวกเขาทำยอดขายได้สำเร็จ โดยผู้ผลิตรถยนต์จีนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปได้ 11% ในเดือนมิถุนายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ รถยนต์ที่ขายได้ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคม จะยังไม่ต้องปฏิบัติตามภาษีเพิ่มเติม ซึ่งตัวแทนจำหน่ายเสนอแผนเช่าซื้อและส่วนลดที่น่าสนใจ ในเดือนมิถุนายน ผู้ผลิตรถยนต์จีนได้จดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าไฟฟ้ามากกว่า 23,000 คันทั่วทั้งยุโรป

    ผู้ผลิตรถยนต์จีน

    การคำนวณภาษีของคณะกรรมาธิการยุโรปนั้นอิงตามการสืบสวนเกี่ยวกับผลกระทบของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจีนมอบให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น จึงพบว่า SAIC ซึ่งเป็นเจ้าของ MG เป็นหนึ่งในผู้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลมากที่สุด โดยคณะกรรมาธิการกำหนดภาษีสูงสุดให้แก่ SAIC คือ 38.1% นอกเหนือจาก 10% ที่เพิ่มให้กับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าทั้งหมด

    เห็นได้ชัดว่า SAIC มุ่งมั่นที่จะทำเงินในขณะที่ยังมีโอกาส โดยสถิติบันทึกการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุด ข้อมูลจาก JATO Dynamics เปิดเผยว่ามีรถยนต์แบรนด์ MG จดทะเบียนในเดือนมิถุนายนจำนวน 13,366 คัน อย่างไรก็ตาม ตามรายงานจาก Bloomberg รถยนต์ไฟฟ้า MG4 ที่จดทะเบียนในเดือนมิถุนายน คิดเป็น 40% เป็นรถที่ตัวแทนจำหน่ายจดทะเบียนเอง

    ผู้ผลิตรถยนต์จีน

    BYD ซึ่งทำยอดขายได้เกือบ 4,000 คันทั่วทวีปยุโรปในเดือนมิถุนายน จะต้องเสียภาษีเพิ่มอีก 17% ยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นจากแคมเปญที่จัดขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปของยูฟ่าในเยอรมนี แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะตกต่ำลงเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากที่ยกเลิกมาตรการจูงใจอย่างกะทันหัน

    ผู้ผลิตรถยนต์จีน

    ในขณะที่เยอรมนีได้ระงับโครงการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า รัฐบาลอิตาลีกลับตัดสินใจที่จะนำโครงการดังกล่าวมาใช้ โครงการใหม่นี้ต้องขอบคุณยอดขายแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะเป็นช่วงเวลาที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าผู้ผลิตรถยนต์ของจีนจะได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีจากสหภาพยุโรปรุนแรงเพียงใด และการเติบโตที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้จะยั่งยืนได้หรือไม่

    Source: carscoops

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts