ไฮสปีด 3 สนามบิน มีความคืบหน้า หลังจาก CP ยืนยันพร้อมลงทุนโครงการ 100%
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระหว่าง ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา เป็นโครงการขนาดใหญ่ของไทย ที่อยู่ภายใต้แผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มาเป็นเวลาหลายปี โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการเดินทางเชื่อมต่อสนามบินหลักทั้ง 3 แห่งให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ล่าสุดกลุ่ม บริษัทเอเชีย เอราวัน จำกัด บริษัทที่ได้รับสัมปทานจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมี เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้เปิดเผยว่ามีความพร้อม 100% สำหรับการเดินหน้าโครงการ
แม้เอกชนพร้อมลงทุน แต่การเริ่มต้นโครงการยังขึ้นอยู่กับรัฐบาล โดยเฉพาะการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สาเหตุที่โครงการ ไฮสปีด 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท เกิดความล่าช้า มาจากประเด็นสำคัญหลายด้านที่ต้องจัดการ
- การแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
- ข้อเสนอรูปแบบ “สร้างไป จ่ายไป” แทนการจ่ายเงินก้อนเดียวหลังโครงการ
- เงื่อนไขด้านหลักประกันทางการเงิน
- การตรวจสอบความถูกต้องทางกฎหมายของสัญญา
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ส่งผลต่อความล่าช้าของโครงการ คือสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการยุบสภาและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจทำให้การนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีล่าช้ากว่ากำหนด
ความคืบหน้าของ โครงการรถไฟความเร็วสูง ไฮสปีด 3 สนามบิน จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการสนับสนุนจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการผลักดันโครงการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐบาลชุดใหม่
ปี 2569 จึงถูกมองว่าเป็นปีที่รัฐบาลใหม่อาจตัดสินใจให้โครงการเดินหน้าต่อได้ หากสามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคและข้อจำกัดทางการเมืองได้ทันเวลา
ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูง ไฮสปีด 3 สนามบิน ไม่ได้เป็นเพียงโครงการด้านคมนาคมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมืองรอบสถานี การกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยว และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนผลักดันโครงการนี้ต่อไป แม้จะมีอุปสรรคหลายด้านก็ตาม
ที่มา: thansettakij.com
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่:car2day.com
