More

    DENZA D9 พวงมาลัยขวาขายตัดหน้าไทยที่สิงคโปร์เริ่ม 7.58 ล้านบาท

    ในที่สุด DENZA ค่ายรถยนต์หรูเครือ BYD เปิดตัว DENZA D9 อย่างเป็นทางการที่สิงคโปร์และเป็นที่แรกของอาเซียนที่เปิดพร้อมขายและเป็นที่ที่สองต่อจากฮ่องกงที่เปิดตัวในเวอร์ชันพวงมาลัยขวา

    ภายนอก Exterior

    DENZA

    DENZA D9ออกมาเป็นนักฆ่าเพื่อนร่วมชาติอย่าง ZEEKR 009 กับ XPENG X9 รวมถึงฟากญี่ปุ่นอย่าง Toyota Alphard และ Lexus LM หน้าตายังคงเดิมเน้นหรูหราด้วยชุดกระจังหน้าทรงทึบสีเงินแนวตั้ง 12 ซี่ คล้าย Alphard ปะตราโลโก้เด่น พร้อมขอบสีเงินล้อมรอบด้านหน้ารถแบบเต็มๆไฟหน้า LED ดีไซน์หรู ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime พร้อมชุดตกแต่งสีเงินที่ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED และไฟเลี้ยววิ่ง Sequential หลังคา Dual Panoramic Sunroof

    ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า และ ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60R18 ในรุ่นปรับปรุงใหม่ติดตั้งออปชันเสริมความสบายด้วยประตูดูดไฟฟ้าทั้งในส่วนประตูคู่หน้าและประตูสไลด์สองฝั่งมิติตัวรถมีดังนี้

    • ความยาว 5,250 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,920 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,764-2,865 กิโลกรัม

    ภายใน Interior

    DENZAภายในหรูหราสง่างามเทียบเท่าคู่แข่งตั้งแต่เบาะนั่งหนังแท้ 7 ที่นั่งแบบ NAPPA โดยเบาะนั่งแถวที่สองมาแบบ VIP Captain Seat พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวด เบาะอุ่น ระบายความร้อนควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen พร้อมช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะพับและที่วางแก้ว ตกแต่งด้วยวัสดุหนัง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง และฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ทุกที่นั่งมีระบบอุ่นเบาะ มีพื้นที่ด้านหลังขนของได้ 410-570 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ และถ้าพับเบาะ 2,310 ลิตร ระบายอากาศ และนวดเพื่อผ่อนคลาย

    DENZA

    แผงคอนโซลหน้ามีจอสัมผัสขนาดใหญ่ลากเป็นแนวยาวประกอบด้วย จอสัมผัส 15.6 นิ้วรองรับ Apple Car Play และ Android Auto จอหลังเบาะคนขับคู่หน้า 2 จอขนา พร้อมลำโพง DYNAUDIO 14 จุด มีช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V มาตรวัด LCD 10.25 นิ้ว พร้อม จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Head Up Display มีไฟสร้างบรรยากาศภายใน ambient light มากถึง 128 สี กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 กุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ พร้อมระบบ Push Start และที่ชาร์จมือถือไร้สาย

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันอัพเกรดในส่วนปุ่มการทำงานซ้าย-ขวาให้ไวขึ้นพร้อมระบบอุ่นที่พวงมาลัย จอสัมผัสยังเพิ่มฟังก์ชันความบันเทิงกับแอป Game Center เข้ามาด้วย ปรับในเรื่องระบบสั่งงานด้วยเสียง คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมสีภายในใหม่แบบ Broad-minded Rice

    สมรรถนะ Performance

    BYD

    ขุมพลังไฟฟ้าล้วนติดตั้งความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 103 kWh ที่มีด้วยกันถึง 2 ทางเลือกเริ่มที่ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งไกลสุด 620 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC หรือ 600 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 9.5 วินาที

    รุ่นท็อปมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเท่ากัน มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลังเท่ากันแต่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง 61 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงสุด 374 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร โดยชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC หรือ 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 6.9 วินาที

    DENZAทั้งคู่มีทั้งชาร์จช้ากระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 11 kW และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% รองรับกำลังไฟสูงสุด 166 kW ชาร์จเร็ว 10 นาที เพิ่มระยะทาง 150 กิโลเมตร รองรับ V2L มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ติดตั้งกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ช่วยปรับระดับการกระแทกของระบบกันสะเทือนโดยระบบประมวลผล ซึ่งควบคุมด้วยโซลินอยด์วาล์วเพื่อช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบกันสะเทือนทั่วๆไป

    ความปลอดภัย Safety

    DENZA

    • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
    • ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
    • ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW)

    DENZA

    พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง

    • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
    • เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
    • ควบคุมการทรงตัว EPS ป้องกันล้อหมุนฟรี
    • ควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
    • ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
    • เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
    • สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
    • เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
    • ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
    • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3
    • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
    • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างหน้า-หลัง ม่านถุงลมนิรภัย หัวเข่ารวม 9 จุด
    • กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
    • สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง

    DENZA

    DENZA D9 ผลิตที่โรงงานเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีนขายสิงคโปร์ 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Elite FWD และรุ่น  Grandeur AWD ในราคารวมค่า COE เริ่ม $296,888-$341,888 หรือราว 7,578,000-8,750,000 บาท และเตรียมขายที่อื่นๆทั้ง มาเลเซีย และเมืองไทย ภายในปลายปีนี้

    ที่มา Motorist

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts