More

    DENZA D9 เปิดตัวไทย 1 พฤศจิกายน คาดไม่เกิน 3 ล้านบาท

    หลังจากที่สิงคโปรเปิดตัวและราคาไปอาจเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนสำหรับ DENZA D9 มีหรือที่ไทยจะยอมล่าสุดไทยเป็นประเทศที่สองต่อจากสิงคโปร์พร้อมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    DENZADENZA D9 จะเปิดตัวในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้กับหน้าตาเน้นหรูหราด้วยชุดกระจังหน้าทรงทึบสีเงินแนวตั้ง 12 ซี่ คล้าย Alphard ปะตราโลโก้เด่น พร้อมขอบสีเงินล้อมรอบด้านหน้ารถแบบเต็มๆไฟหน้า LED ดีไซน์หรู ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime

    พร้อมชุดตกแต่งสีเงินที่ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED และไฟเลี้ยววิ่ง Sequential หลังคา Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า และ ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60R18 ติดตั้งออปชันเสริมความสบายด้วยประตูดูดไฟฟ้าทั้งในส่วนประตูคู่หน้าและประตูสไลด์สองฝั่ง

    มิติตัวรถมีดังนี้ความยาว 5,250 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร ความสูง 1,920 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตรน้ำหนักรถ 2,764-2,865 กิโลกรัม

    DENZAภายในหรูหราสง่างามเทียบเท่าคู่แข่งตั้งแต่เบาะนั่งหนังแท้ 7 ที่นั่งแบบ NAPPA โดยเบาะนั่งแถวที่สองมาแบบ VIP Captain Seat พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวด เบาะอุ่น ระบายความร้อนควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen พร้อมช่องวางโทรศัพท์

    โต๊ะพับและที่วางแก้ว ตกแต่งด้วยวัสดุหนัง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง และฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ทุกที่นั่งมีระบบอุ่นเบาะ มีพื้นที่ด้านหลังขนของได้ 410-570 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ และถ้าพับเบาะ 2,310 ลิตร ระบายอากาศ และนวดเพื่อผ่อนคลาย

    DENZA

    แผงคอนโซลหน้ามีจอสัมผัสขนาดใหญ่ลากเป็นแนวยาวประกอบด้วย จอสัมผัส 15.6 นิ้วรองรับ Apple Car Play และ Android Auto จอหลังเบาะคนขับคู่หน้า 2 จอขนา พร้อมลำโพง DYNAUDIO 14 จุด มีช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V มาตรวัด LCD 10.25 นิ้ว

    พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Head Up Display มีไฟสร้างบรรยากาศภายใน ambient light มากถึง 128 สี กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 กุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ พร้อมระบบ Push Start และที่ชาร์จมือถือไร้สาย

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันอัพเกรดในส่วนปุ่มการทำงานซ้าย-ขวาให้ไวขึ้นพร้อมระบบอุ่นที่พวงมาลัย จอสัมผัสยังเพิ่มฟังก์ชันความบันเทิงกับแอป Game Center เข้ามาด้วย ปรับในเรื่องระบบสั่งงานด้วยเสียง คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมสีภายในใหม่แบบ Broad-minded Rice

    DENZAขุมพลังไฟฟ้าล้วนมีด้วยกันถึง 2 ทางเลือกจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 103 kWh เริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตรวิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 9.5 วินาที

    รุ่นท็อปมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อโดยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง 61 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงสุด 374 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 6.9 วินาที

    มีชาร์จ 2 รูปแบบทั้งชาร์จช้ากระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 11 kW และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% รองรับกำลังไฟสูงสุด 166 kW ชาร์จเร็ว 10 นาที เพิ่มระยะทาง 150 กิโลเมตรรองรับ V2L

    DENZAมาพร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ โดยด้านหน้ามาในช่วงล่างแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังมาแบบมัลติลิงค์ พร้อม DiSus-C ช่วงล่างอัจฉริยะช่วยปรับระดับการกระแทกโดยระบบประมวลผลควบคุมด้วยโซลินอยด์วาลว์เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความสบายในการเดินทางมากขึ้นพร้อมความปลอดภัยรอบคันด้วย ADAS

    ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)

    ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW)

    DENZA

    พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว ป้องกันล้อหมุนฟรี EPS ควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)

    เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)

    จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3 เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างหน้า-หลัง ม่านถุงลมนิรภัย หัวเข่ารวม 9 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติสัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง

    DENZA

    1 พฤศจิกายนนี้เป็นวันชี้ชะตาความสนใจจากชาวไทยว่าราคาจำหน่ายจะอยู่ที่เท่าไหร่คาดว่าจะไม่ถึง 3 ล้านบาทและออกมาฆ่าเพื่อนร่วมชาติอย่าง ZEEKR 009 กับ XPENG X9 รวมถึงฟากญี่ปุ่นอย่าง Toyota Alphard และ Lexus LM สำหรับ DENZA D9 ผลิตที่โรงงานเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts