DJI เปิดตัว Mini 2 โดรนขนาดกระทัดรัด Mavic มีการเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นทั้งในด้านการถ่ายภาพและการบินที่นานขึ้นถึง 31 นาที
DJI Mini 2 ยังคงคุณสมบัติที่สำคัญในรุ่นก่อนหน้าอย่างการเป็นโดรนที่พับได้เพื่อความสะดวกในการเก็บ รวมทั้งมีน้ำหนักที่เบาเพียง 249 กรัมเอาไว้ ซึ่งทำให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องลงทะเบียนในหลายประเทศที่กำหนดให้โดรนน้ำหนัก 250 กรัมขึ้นไปต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งาน
นอกจากนี้โดรนขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ยังได้รับการอัพเดตทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ อย่างกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้วสามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยที่สามารถถ่ายภาพแบบ RAW ได้ และถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K/30p ที่ 100Mbps รวมไปถึงสามารถซูมภาพได้ 2X โดยไม่สูญเสียคุณภาพ และมีซูมดิจิตอล 4X ให้ใช้
Mini 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยี OcuSync 2.0 ซึ่งทำให้สามารถรับสัญญาณได้เพิ่มขึ้น 150 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนโดยถ่ายโอนวิดีโอความละเอียด 720p ได้ไกล 10 กิโลเมตรจากโดรนถึงแอพพ์ รวมไปถึงมีการอัพเกรดมอเตอร์เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการบินนานขึ้นเป็น 31 นาที มีการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 57.6 กม./ชม. และต้านลมได้มากขึ้นเป็น 38.6 กม./ชม.
DJI Mini 2 ยังมีเซ็นเซอร์เพิ่มขึ้นแต่ยังคงอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องเพื่อช่วยในการหาตำแหน่งสำหรับการร่อนลง รวมไปถึงมีการทำงานเพื่อความปลอดภัยต่างๆ อย่าง Geofencing, Return to Home และ Attitude Lock ในขณะที่โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกหลายหลากแบบจาก 3 โหมดหลักคือ Quickshot, Panorama และ Image Mode สำหรับราคาของชุดพื้นฐานอยู่ที่ 14,500 – 21,000 บาทในรุ่น Combo
