ผ้าอุ่นยางนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Formula 1 มาตั้งแต่ยุค 80 แต่ในปี 2024 มันจะกลายเป็น ‘อดีต’ จากการออกกฎห้ามการใช้งานมัน
จริง ๆ แล้วความคิดในการแบนผ้าอุ่นยางใน F1 นั้นมีมานานหลายปีแล้ว โดยพวกเขาตั้งใจที่จะแบนหลังจากเปลี่ยนมาใช้ยางขอบ 18 นิ้ว แต่ก็ได้ถูกเลื่อนการห้ามใช้ออกไปเป็นปี 2024
ในครั้งแรกที่มีการนำเสนอการยกเลิกการใช้ผ้าอุ่นยางนั้น พวกเขาตั้งใจที่จะยกเลิกการใช้งานในปี 2015 เพื่อเป็นการจำกัดค่าใช้จ่าย แต่ประเด็นนี้ก็ได้ถูกปัดตกไปจากการทักท้วงในด้านความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม F1 ก็ได้พยายามปรับตัวไปในทิศทางนั้น โดยในปีนี้พวกเขาให้ลดอุณหภูมิผ้าอุ่นยางจาก 100 องศาเซลเซียส (ด้านหน้า) และ 80 องศาเซลเซียส (ด้านหลัง) เหลือเพียง 70 องศาเซลเซียส ทั้ง 4 เส้น
นั่นเป็นคำแนะนำเบื้องต้นจาก Pirelli ในการค่อย ๆ สร้างทางลาดลดลงไปสู่การแบนผ้าอุ่นยาง โดยในปีหน้านั้น พวกเขาจะลดอุณหภูมิผ้าอุ่นยางลงอีกเหลือเพียง 50 องศาเซลเซียส ทั้ง 4 เส้น
สาเหตุที่พวกเขาค่อย ๆ ปรับลดอุณหภูมินั้น ก็เพื่อจะดูผลกระทบในช่วงที่ต้องวอร์มยางหลังจากที่ผ้าอุ่นยางถูกถอดออกจากยางแล้ว โดยหากไม่มีผ้าอุ่นยางไว้ก่อน ยางนั้นจะไม่มีอุณหภูมิเพียงพอต่อการยึดเกาะในช่วงการใช้งาน และนั่นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวนักแข่งได้
“เราเป็นฝ่ายขอให้พวกเขาทำทีละขั้นตอน (ในการห้ามใช้ผ้าอุ่นยาง) เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงสำหรับ (การปรับเปลี่ยน) โครงสร้างและส่วนผสมของยาง” Mario Isola หัวหน้าฝ่าย F1 ของ Pirelli กล่าวกับสื่อ The Race
“โดยทั่วไปแล้ว ผู้คนจะคิดว่า เราก็แค่ต้องออกแบบปรับเปลี่ยนส่วนผสมใหม่ แล้วทุกอย่างก็จะถูกแก้ไข คือมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เนื่องด้วยสมรรถนะของรถเหล่านี้ เราประเมินว่าลมยางที่เพิ่มขึ้นจากลมเย็นไปเป็นลมร้อนอาจมากถึง 12 ปอนด์ (psi) และนั่นทำให้ทุกอย่างแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง”
“คุณไม่สามารถที่จะเริ่มการแข่งขันด้วยลมยางที่ต่ำมาก ๆ ได้ แบบนั้นมันจะทำลายยางคุณภายในไม่กี่โค้ง คุณจำเป็นต้องเริ่มการแข่งขันด้วยลมยางขั้นต่ำที่เหมาะสมกับยาง จากนั้นจึงก็อปปี้ช่วงลมยางที่เพิ่มขึ้นจนกระทั่งคงที่”
“นั่นหมายความว่า เราอาจต้องเริ่มลมยางที่ 20 ปอนด์ (psi) อะไรประมาณนั้น จากนั้นลมยางก็จะขึ้นไปที่ 30 ปอนด์ (psi) ในระหว่างการแข่งขัน ดังนั้นมันจึงเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และเราต้องออกแบบโครงสร้างยางใหม่เพื่อรองรับกับลมยางที่เปลี่ยนไป”
อย่างไรก็ตาม การที่ยางแข่ง F1 จะมีลมยางระดับ 30 ปอนด์ (psi) นั้นดูจะเป็นอะไรที่ไม่ใช่ทาง เพราะนั่นเรียกได้ว่าเป็นลมยางขั้นต่ำระดับเดียวกับรถแฮตช์แบ็คครอบครัวไปแล้ว
ใน Formula 2, Pirelli เองก็ใช้ยางแก้มเตี้ยขอบ 18 นิ้ว เช่นเดียวกัน โดยลมยางนั้นเพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 ปอนด์ (psi) จาก 14 ปอนด์ (psi) ไปอยู่ที่ 20-21 ปอนด์ (psi)
“ถ้าเราสมมุติลมยางใน F2 แบบเดียวกันกับ F1 นั่นหมายความว่าเราต้องเพิ่มลมยางขั้นต่ำขึ้น และนั่นหมายความว่าความแตกต่างกันระหว่างลมเย็นกับลมร้อนจะยิ่งมากขึ้น” Isola กล่าว
“ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องของการออกแบบโครงสร้างและส่วนผสมใหม่ ที่ยางจะต้องทำงานในช่วงที่กว้างขึ้น เพราะคุณต้องการการยึดเกาะตั้งแต่ 20-30 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 120-130 องศาเซลเซียส เพราะผมเดาว่าลมยางจะเริ่มคงที่ในแง่ของอุณหภูมิในระดับเดียวกับที่เราใช้งานอยู่ในตอนนี้”
“เราจะต้องออกแบบยางที่มีส่วนผสมที่จะทำงานได้ตั้งแต่อุณหภูมิ 20-120 องศาเซลเซียส ซึ่งมันมีความเสี่ยง ดังนั้นคุณจะต้องยอมเสียอะไรบางอย่าง คุณอาจจะต้องยอมเสียช่วงวอร์มอัพไป หรือคุณจะต้องยอมรับเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ยางจะโอเวอร์ฮีท”
“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราค่อย ๆ ทำทีละขั้นตอน เพราะในตอนนี้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่ได้มอบสิ่งที่เรากำลังมองหา มันให้โอกาสนักขับในการเข้าจู่โจมและเค้น และเราไม่ต้องการกลับไปยังสถานการณ์ที่นักขับบ่นว่ายางร้อนเกินไปหรือทำความร้อนได้ช้าเกินไป มีหลายองค์ประกอบที่เราต้องพิจารณาสำหรับยางในปี 2024”
คำพูดของ Isola เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของยางนั้นอาจจะฟังดูคลุมเครือ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ Pirelli เองก็ถูกจำกัดการทดสอบ และ Pirelli เชื่อว่าองค์ประกอบบางอย่างของโปรแกรมการทดสอบยางปี 2023 จะมีความเกี่ยวข้องกับยางปี 2024 แต่กว่าพวกเขาจะเริ่มทำงานกันอย่างจริงจังก็เป็นปีหน้า
สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ ทีมน่าจะคาดหวังให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2024 คือ รูปร่างของยาง เพราะถ้าหากมันมีการเปลี่ยนแปลง มันจะส่งผลกระทบต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของรถ และนั่นจะทำให้ทีมแข่งต้องปรับเปลี่ยนดีไซน์รถใหม่ต่ออีกทอด
“เรากำลังทำงานอยู่กับวัสดุมากกว่าโปรไฟล์ของยาง เพราะถ้าคุณเปลี่ยนโปรไฟล์ มันจะส่งผลกระทบต่อ Downforce ของตัวรถ”
“เป้าหมายในอุดมคติน่ะเหรอ? คือการที่ยางนั้นมีลมยางที่สม่ำเสมอที่จะไม่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ และนั่นคือสิ่งที่เป็นโลกอุดมคติ”
“ด้วยอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะรักษาการกระจายลมยางให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับการเพิ่มอุณหภูมิที่แตกต่างเป็นอย่างมากจาก 20-120 องศาเซลเซียส”
“ดังนั้นเรากำลังทำงานอยู่กับแนวคิดใหม่เพื่อที่จะลดการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ถ้าหากการหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เราก็จะพยายามลดผลกระทบของมันให้ได้มากที่สุด”
ในส่วนของน้ำหนักตัวรถนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ Pirelli กังวลแต่อย่างใด ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่ารถที่แข็งและเตี้ยติดพื้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อยางมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะเข้าใจในสิ่งนี้มากขึ้นในปี 2024 เมื่อตัวยางนั้นได้รับการสรุปผลออกมา
ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือ ยางจะทำงานอย่างไรในช่วงเวลาสำคัญในระหว่างการแข่งขัน โดยนับตั้งแต่ที่มีการยกเลิกการเติมเชื้อเพลิงในระหว่างการแข่งขัน ทฤษฎีการอันเดอร์คัทนั้นก็เป็นตัวเลือกหลักที่ทีมแข่งมักจะใช้ในการทำอันดับขึ้นมา และมีน้อยครั้งที่การโอเวอร์คัทจะได้ผล แต่สิ่งนั้นจะเปลี่ยนไปหลังจากที่ผ้าอุ่นยางถูกแบน โดยการโอเวอร์คัทอาจจะเห็นผลดีที่ชัดเจนขึ้น
“การทำนายในสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมมองเห็นภาพว่าช่วงเวลาในการทำความร้อนให้กับยางนั้นจะยาวนานขึ้น”
“กลยุทธ์นั้นจะต้องเปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนไปขนาดไหนนั้น ยังเร็วไปที่จะพูดถึงในตอนนี้” Isola กล่าว
อ้างอิง : the-race.com